พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากสำนวนคดีอาญา ต้องมีคำพิพากษาลงโทษในคดีเดิมก่อน จึงจะนับโทษต่อได้
การขอนับโทษต่อ
หลักในเรื่องการนับโทษต่อจากสำนวนคดีเรื่องใด จะต้องปรากฏว่าคดีเรื่องนั้นศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไว้ก่อนแล้ว เมื่อศาลพิพากษาคดีเรื่องหลังจึงจะนับโทษต่อจากกำหนดโทษในสำนวนเรื่องก่อนได้ เมื่อสำนวนคดีเรื่องก่อนยังไม่ปรากฏว่าได้พิพากษา(ยังเป็นคดีดำอยู่)จึงไม่มีโทษอันใดที่ศาลจะไปนับต่อให้ได้ แม้จะเป็นความจริงตามข้อฎีกาของโจทก์ที่ว่าคดีเรื่องก่อนนั้นในเวลาต่อมา ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้ว แต่ในสำนวนคดีเรื่องหลังก็ไม่ปรากฏว่าสำนวนคดีเรื่องก่อนได้พิพากษาลงโทษไปแล้วก่อนคดีเรื่องหลัง จึงนับโทษคดีเรื่องหลังต่อจากโทษในคดีเรื่องก่อนนั้นไม่ได้
หลักในเรื่องการนับโทษต่อจากสำนวนคดีเรื่องใด จะต้องปรากฏว่าคดีเรื่องนั้นศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไว้ก่อนแล้ว เมื่อศาลพิพากษาคดีเรื่องหลังจึงจะนับโทษต่อจากกำหนดโทษในสำนวนเรื่องก่อนได้ เมื่อสำนวนคดีเรื่องก่อนยังไม่ปรากฏว่าได้พิพากษา(ยังเป็นคดีดำอยู่)จึงไม่มีโทษอันใดที่ศาลจะไปนับต่อให้ได้ แม้จะเป็นความจริงตามข้อฎีกาของโจทก์ที่ว่าคดีเรื่องก่อนนั้นในเวลาต่อมา ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้ว แต่ในสำนวนคดีเรื่องหลังก็ไม่ปรากฏว่าสำนวนคดีเรื่องก่อนได้พิพากษาลงโทษไปแล้วก่อนคดีเรื่องหลัง จึงนับโทษคดีเรื่องหลังต่อจากโทษในคดีเรื่องก่อนนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความกับการดำเนินคดีอาญา ความรับผิดชอบของจำเลยแต่ละคน
ในคดีความผิดต่อส่วนตัวจำเลยทำสัญญายอมจะใช้เงินแก่ผู้เสียหาย แล้วก็ไม่ชำระตามกำหนดนัด ผู้เสียหายย่อมร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไปได้
จำเลยบางคนทำสัญญายอมจะใช้เงินทั้งหมดแก่ผู้เสียหาย คดีจะระงับหรือไม่ ก็เกี่ยวกับจำเลย เช่นว่านั้นโดยเฉพาะตัวเท่านั้น ไม่พลอยไปถึงจำเลยอื่น ๆ แม้อยู่ในคดีเดียวกันนั้นด้วย
จำเลยบางคนทำสัญญายอมจะใช้เงินทั้งหมดแก่ผู้เสียหาย คดีจะระงับหรือไม่ ก็เกี่ยวกับจำเลย เช่นว่านั้นโดยเฉพาะตัวเท่านั้น ไม่พลอยไปถึงจำเลยอื่น ๆ แม้อยู่ในคดีเดียวกันนั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอแก้ฟ้องคดีอาญา: แก้ไขวันเกิดเหตุเมื่อสืบพยานแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 3 ปากโดยอ้างเหตุผลในคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เพราะรายงานการสอบสวนของพนักงานบกพร่องทำให้อัยการโจทก์เข้าใจผิด ถือได้ว่ามีเหตุสมควรและเป็นการขอแก้รายละเอียดในฟ้อง เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้ว โจทก์ย่อมขอแก้ได้
(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้น เมื่อปรากฎว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้กับปรากฎว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมด และจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้น เมื่อปรากฎว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้กับปรากฎว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมด และจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญา: การแก้วันเกิดเหตุที่ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 3 ปาก โดยอ้างเหตุผลในคำร้องขอแก้ฟ้องว่าเพราะรายงานการสอบสวนของพนักงานสอบสวนบกพร่องทำให้อัยการโจทก์เข้าใจผิดถือได้ว่ามีเหตุสมควรและเป็นการขอแก้รายละเอียดในฟ้อง
เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้วโจทก์ย่อมขอแก้ได้(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้นเมื่อปรากฏว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้ก็ปรากฏว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมดและจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้วโจทก์ย่อมขอแก้ได้(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้นเมื่อปรากฏว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้ก็ปรากฏว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมดและจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการทำให้เสียทรัพย์และการพิสูจน์เจตนาในคดีอาญา
ปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาร้ายหรือเจตนาทุจริตหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้เช่าซึ่งมีชื่อในสัญญาเช่ามอบห้องเช่าให้โจทก์อยู่และให้โจทก์เป็นผู้เสียค่าเช่า จำเลยทำให้บานประตูห้องเช่าเสียหาย โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่ราษฎร เป็นโจทก์เมื่อทนายจำเลยซักค้านพาดพิงถึงเอกสารใดได้ให้พยานตรวจดูและยอมรับแล้วจำเลยย่อมส่งเอกสารนั้น เข้าประกอบคำพยานโจทก์ได้ ไม่ถือว่าเป็นการนำพยานเข้าสืบ
ผู้เช่าซึ่งมีชื่อในสัญญาเช่ามอบห้องเช่าให้โจทก์อยู่และให้โจทก์เป็นผู้เสียค่าเช่า จำเลยทำให้บานประตูห้องเช่าเสียหาย โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่ราษฎร เป็นโจทก์เมื่อทนายจำเลยซักค้านพาดพิงถึงเอกสารใดได้ให้พยานตรวจดูและยอมรับแล้วจำเลยย่อมส่งเอกสารนั้น เข้าประกอบคำพยานโจทก์ได้ ไม่ถือว่าเป็นการนำพยานเข้าสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาการลมบ้าหมูและการขาดเจตนาในคดีอาญา: การยกฟ้องความผิดพยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย
ปืนลั่นจากมือจำเลยในขณะที่จำเลยกำลังเป็นลมบ้าหมูไม่รู้สึกตัวไปถูกผู้เสียหายเข้า จำเลยไม่มีผิดฐานพยายามฆ่าคนหรือทำร้ายร่างกาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลพลเรือนและการวินิจฉัยข้อเท็จจริงร่วมกันในคดีอาญา
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมูลคดีในการไต่สวนมูลฟ้องว่าจำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ถือว่าศาลทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันซึ่งตามลักษณะอุทธรณ์ฎีกาลักษณะ 2 มาตรา 219 บัญญัติว่าห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนั้นคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 2
โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องทหารว่าสมคบกับพลเรือนกระทำผิดศาลไต่สวนแล้วได้ความว่าทหารกระทำผิดแต่ลำพังผู้เดียวดังนี้ศาลพลเรือนย่อมต้องจำหน่ายคดีที่ทหารถูกฟ้องนั้นเสียเพราะไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน
โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องทหารว่าสมคบกับพลเรือนกระทำผิดศาลไต่สวนแล้วได้ความว่าทหารกระทำผิดแต่ลำพังผู้เดียวดังนี้ศาลพลเรือนย่อมต้องจำหน่ายคดีที่ทหารถูกฟ้องนั้นเสียเพราะไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยโจทก์ร่วม และการขอค่าเสียหายทางแพ่งที่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษและคืนทรัพย์หรือราคา เมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการ โจทก์ไม่อุทธรณ์ แต่ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมอุทธรณ์ฝ่ายเดียว โดยเสียค่าธรรมเนียมในส่วนที่ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์อ่างคดีแพ่ง ดังนั้นเฉพาะที่เกี่ยวกับคำขอดังกล่าวนี้ศาลจึงสั่งให้ยกเสีย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับค่าเสียหายในคดีอาญา เนื่องจากค่าธรรมเนียมไม่ถูกต้อง
ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ขอให้ลงโทษและคืนทรัพย์หรือราคาเมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้องอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์แต่ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมอุทธรณ์ฝ่ายเดียวโดยเสียค่าธรรมเนียมในส่วนที่ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์อย่างคดีแพ่งดังนั้นเฉพาะที่เกี่ยวกับคำขอดังกล่าวนี้ศาลจึงสั่งให้ยกเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: จำเป็นต้องระบุชัดเจนว่าจำเลยได้รับโทษในคดีเดิมแล้ว
ในคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้บรรยายความว่าจำเลยได้รับโทษในคดีดำที่ 61/2498 แล้ว คงกล่าวเพียงว่า "ขอให้นับโทษจำเลยตามคดีดำที่ 61/2498 ซึ่งบัดนี้คดีดำที่ 61/2498 ของศาลอาญาให้ติดต่อกันด้วย" ความจริงไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยต้องรับโทษในคดีนั้นหรือไม่ จึงไม่นับโทษต่อให้.