พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,884 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แผนที่ระวางเป็นเอกสารมหาชนสันนิษฐานถูกต้อง จำเลยต้องพิสูจน์ความไม่ถูกต้องจึงจะชนะคดี
แผนที่ระวางเป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเมื่อโจทก์อ้างมาเป็นพยานจึงเป็นหน้าที่ของจำเลยซึ่งถูกอ้างเอกสารนั้นมายันจะต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้อง จำเลยไม่สืบก็ต้องแพ้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดนายประกันจากการไม่นำตัวจำเลยมาศาล แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ในระหว่างพิจารณานายประกันไม่นำจำเลยมาในวันนัดของศาล แม้ต่อมาเจ้าทุกข์ได้ขอถอนคำร้องทุกข์เสียแล้วก็ตาม ศาลก็ย่อมปรับนายประกันฐานผิดสัญญาประกันตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้เพื่อปกป้องตนเองและบิดาจากผู้บุกรุก ไม่ถือเป็นการละเมิด จำเลยไม่ต้องรับผิดร่วม
การที่จำเลยที่ 2,3 ผู้เยาว์เข้าต่อสู้ทำร้ายกับโจทก์เนื่องจากโจทก์จะเข้าทำร้ายจำเลยที่ 1 ผู้เป็นบิดา ขณะที่จำเลยที่ 1 กำลังสาละวนอยู่กับบิดาโจทก์ผู้บุกรุกที่ดินจำเลยโดยไม่มีโอกาสมาสนใจกับการต่อสู้ของโจทก์จำเลยนั้น จำเลยที่ 1 ผู้เป็นบิดาจำเลยที่ 2,3 หาจำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายร่วมกับจำเลยที่ 2,3 ด้วยไม่
แลไม่สามารถจะปฏิบัติอย่างอื่นได้
แลไม่สามารถจะปฏิบัติอย่างอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การร่วมกันของจำเลยทั้งสอง ถือเป็นคำให้การของจำเลยทุกคน
จำเลยสองคนร่วมให้การในฉบับเดียวกันถือได้ว่าคำให้การทั้งหมดเป็นคำให้การของจำเลยทั้งสองร่วมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับการพิจารณาเนื่องจากจำเลยไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามที่ศาลฎีกาสั่ง แม้จะแถลงไม่ติดใจดำเนินคดี
เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วนตามคำสั่งของศาลฎีกาก็ต้องถือว่าฎีกาที่จำเลยยื่นมาไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้วินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์ vs ลักทรัพย์: การแบ่งแยกความรับผิดของจำเลยตามพฤติการณ์ที่แตกต่างกัน
จำเลยที่ 1 กับอีกคนหนึ่งถือมีดคุมเชิงอยู่ใกล้ ๆ ในขณะที่คนร้ายอีกคนหนึ่งขู่เข็ญจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ ดังนี้จำเลยที่ 1 มีผิด ตามมาตรา 301
ส่วนจำเลยที่2,3 เมื่อได้ปืนก็ปลีกตัวไปเสียก่อนยังไม่ได้มีการขู่เข็ญเจ้าทรัพย์มาเกิดการขู่เข็ญขึ้นภายหลัง เป็นการขาดตอนมิได้เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 2,3 แล้ว จำเลยทั้งสองจึงเพียงแต่มีผิดตาม ม. 294 ตอน 2 ประกอบด้วย ม.293 ข้อ 7-11 และ ม.294 ข้อ 1 เท่านั้น
ฟ้องว่าปล้นทรัพย์ได้ความว่าลักทรัพย์ลงโทษได้
ส่วนจำเลยที่2,3 เมื่อได้ปืนก็ปลีกตัวไปเสียก่อนยังไม่ได้มีการขู่เข็ญเจ้าทรัพย์มาเกิดการขู่เข็ญขึ้นภายหลัง เป็นการขาดตอนมิได้เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 2,3 แล้ว จำเลยทั้งสองจึงเพียงแต่มีผิดตาม ม. 294 ตอน 2 ประกอบด้วย ม.293 ข้อ 7-11 และ ม.294 ข้อ 1 เท่านั้น
ฟ้องว่าปล้นทรัพย์ได้ความว่าลักทรัพย์ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรง ศาลยืนโทษจำเลย
จำเลยไม่พอใจผู้ตายมาก่อนได้ตระเตรียมอาวุธมาเพื่อทำร้าย แล้วเลือกแทงถูกผู้ตายถูกที่สำคัญใต้รักแร้ขวาแผลกว้าง 1 ซม.ยาว3ซม. ลึกทะลุใน ผู้ตายขาดใจตายในคืนนั้นเอง แม้จะได้แทงเพียงทีเดียวก็มีเหตุพอให้ชี้ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าตามมาตรา249 กฎหมายลักษณะอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการนำสืบพยาน: จำเลยต้องยกเหตุไม่มีอำนาจฟ้องเป็นข้อต่อสู้ก่อน และโจทก์ไม่ต้องนำสืบข้อเท็จจริงที่จำเลยไม่โต้แย้ง
จำเลยกล่าวไว้ในตอนท้านคำให้การว่า "อย่างไรก็ดีโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องข้าพเจ้าเป็นจำเลย " เหตุใดจึงกล่าวว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหาได้แสดงข้ออ้างอิงแต่ประการใดไม่ ทั้งจำเลยมิได้ให้การตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ดังนี้ศาลได้แต่เพียงแปลความหมายว่าคำกล่าวที่ว่าไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องมาจากคำให้การของจำเลยในตอนต้น ๆ เช่นที่กล่าวว่าจำเลยเป็นตัวแทนของโจทก์ ๆ จึงไม่มีอำนาจฟ้องหาใช่เรื่องตัดฟ้องไม่ จึงไม่มีประเด็นและมิจำเป็นที่ศาลจะวินิจฉัยเลยไปถึงว่าโจทก์จะเป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีหรือไม่
ข้อเท็จจริงใดที่โจทก์กล่าวในฟ้องจำเลยจะต้องให้การปฏิเสธหรือคัดค้านหรือจะแก้ว่าอย่างใดก็ได้หากจำเลยมิได้ปฏิเสธหรือคัดค้านหรือแก้ว่าอย่างใดเลยถือว่าข้อเท็จจริงนั้นไม่มีประเด็นอันโจทก์จะต้องนำสืบ
ในเรื่องการบอกกล่าวล่วงหน้าการทวงหนี้โจทก์กล่าวในฟ้องว่าโจทก์ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้จำเลยจัดการชำระเงินที่ค้างจำเลยไม่ชำระ ซึ่งในข้อนี้จำเลยมิได้ปฎิเสธหรือคัดค้านหรือแก้ว่าอย่างใดเลย จึงไม่มีประเด็นอันโจทก์จะต้องนำสืบด้วย
ข้อเท็จจริงใดที่โจทก์กล่าวในฟ้องจำเลยจะต้องให้การปฏิเสธหรือคัดค้านหรือจะแก้ว่าอย่างใดก็ได้หากจำเลยมิได้ปฏิเสธหรือคัดค้านหรือแก้ว่าอย่างใดเลยถือว่าข้อเท็จจริงนั้นไม่มีประเด็นอันโจทก์จะต้องนำสืบ
ในเรื่องการบอกกล่าวล่วงหน้าการทวงหนี้โจทก์กล่าวในฟ้องว่าโจทก์ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้จำเลยจัดการชำระเงินที่ค้างจำเลยไม่ชำระ ซึ่งในข้อนี้จำเลยมิได้ปฎิเสธหรือคัดค้านหรือแก้ว่าอย่างใดเลย จึงไม่มีประเด็นอันโจทก์จะต้องนำสืบด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดนายประกันเมื่อศาลออกหมายจับจำเลยระหว่างผัดส่งตัว
นายประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลไม่ได้ตามนัด ศาลจึงอ่านคำพิพากษาฎีกาไปก่อนแล้ว หมายจับจำเลยในระหว่างที่นายประกันผัดส่งตัวจำเลย ไม่เป็นเหตุให้นายประกันหมดความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีแพ่งเมื่อจำเลยขาดนัด และการเพิกถอนการสืบพยาน: สิทธิในการขอพิจารณาใหม่
จำเลยหลายคนขาดนัดยื่นคำให้การทุกคน แต่ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยคนหนึ่งมาศาล ศาลสืบพยานโจทก์ไป แต่แล้วต่อมาได้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สืบพยานโจทก์นับเสีย นัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ถึงวันนัดจำเลยทุกคนไม่มาศาล ศาลจึงสืบพยานโจทก์และพิพากษาคดีกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย วิ.แพ่ง ม.204 จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตาม ม.202,207 วรรคแรก