พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: จำเป็นต้องแสดงว่าจำเลยได้รับโทษในคดีเดิมแล้ว
ในคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้บรรยายความว่าจำเลยได้รับโทษในคดีดำที่ 61/2498 แล้วคงกล่าวเพียงว่า 'ขอให้นับโทษจำเลยตามคดีดำที่ 61/2498 ซึ่งบัดนี้คดีดำที่ 61/2498 ดังกล่าวเป็นคดีแดงที่483/2498 ของศาลอาญาให้ติดต่อกันด้วย' ความจริงไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยต้องรับโทษในคดีนั้นหรือไม่ จึงไม่นับโทษต่อให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีอาญาเรื่องทำร้ายร่างกาย ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเมื่อเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยทางป้องกันพอสมควรแก่เหตุเช่นนี้โจทก์จะฎีกาว่าเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุก็เป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงต้องห้าม (อ้างฎีกาที่ 931/2494)
เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยใช้ขวดทำร้ายผู้เสียหาย และศาลอุทธรณ์อาศัยหลักฐานในสำนวนวินิจฉัยต่อไปแต่ไม่ฟังว่าบาดแผลที่หน้าแข้งของผู้เสียหายเกิดจากการกระทำของจำเลยดังนี้หาใช่เป็นการฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือตรงกันข้ามกับหลักฐานไม่แต่เป็นข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยใช้ขวดทำร้ายผู้เสียหาย และศาลอุทธรณ์อาศัยหลักฐานในสำนวนวินิจฉัยต่อไปแต่ไม่ฟังว่าบาดแผลที่หน้าแข้งของผู้เสียหายเกิดจากการกระทำของจำเลยดังนี้หาใช่เป็นการฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือตรงกันข้ามกับหลักฐานไม่แต่เป็นข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบทลงโทษและโทษจำคุกในคดีอาญา และการฎีกาในข้อเท็จจริงหลังการแก้บท
โจทฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.293,294,295,74 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.294 วรรคสุดท้าย โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตาม ม.295 ตามที่โจทก์ขอ จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามเพราะศาลอุทธรณ์แก้บทลงโทษและแก้โทษจำเลย เป็นการแก้มาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของวันเวลากระทำผิดและการรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 6 พ.ค. 97 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงซึ่งตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำเดือน 6 แต่ผู้เสียหายและพยานโจทก์ว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับ วันที่ 5 พ.ค. 97
เมื่อคดีได้ความว่าที่ต่างกันนี้เพราะในบรรยายฟ้องโจทก์นับวันเวลาตามสุริยคติคือนับต่อจาก 24.00 น. เป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงไปจนถึง 6.00 น. เป็นอีกวันหนึ่ง แต่พยานโจทก์ให้การตามวิธีนับทางจันทรคติสิ้นสุดลงในเวลาย่ำรุ่งเมื่อคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 97และเวลา 2 ยามไปแล้ว จึงตรงกับวันที่ 6 พ.ค. 97เวลากลางคืนก่อนเที่ยงข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้อง
เมื่อคดีได้ความว่าที่ต่างกันนี้เพราะในบรรยายฟ้องโจทก์นับวันเวลาตามสุริยคติคือนับต่อจาก 24.00 น. เป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงไปจนถึง 6.00 น. เป็นอีกวันหนึ่ง แต่พยานโจทก์ให้การตามวิธีนับทางจันทรคติสิ้นสุดลงในเวลาย่ำรุ่งเมื่อคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 97และเวลา 2 ยามไปแล้ว จึงตรงกับวันที่ 6 พ.ค. 97เวลากลางคืนก่อนเที่ยงข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีอาญา: ศาลแพ่งต้องใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกและทำลายทรัพย์ให้เสียหายรวมเป็นเงิน2,400 บาท ขอให้ลงโทษและเรียกค่าเสียหาย เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นของฝ่ายจำเลยพิพากษายกฟ้องดังนี้แม้โจทก์จะฎีกาเฉพาะที่เกี่ยวกับส่วนแพ่งอ้างว่าทุนทรัพย์ของโจทก์ที่เรียกร้องมีถึง 2,400 บาทก็ตาม คดีของโจทก์ในส่วนแพ่งก็ไม่มีทางชนะ ได้เพราะในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตาม มาตรา46
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับพิจารณาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หลังศาลล่างวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีอาญาแล้ว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษฐานปล้นทรัยพ์ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม ก.ม.อาญา ม.254 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงไม่พอฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดทั้งสองฐานพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ เช่นนี้โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง(ขอให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์) ต่อไปไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลล่างและมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ย่อมถูกจำกัดสิทธิในการฎีกาในประเด็นข้อเท็จจริง
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่าง และให้จำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ตาม ป.วิ.อาญา ม.218
ถึงแม้ว่าจำเลยจะอ้างว่าคดีนี้มีปัญหาข้อ ก.ม. แต่บรรยายมาเป็นการคัดค้านเกี่ยวกับการวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังนี้ ก็ย่อมต้องห้ามฎีกาเช่นเดียวกัน.
ถึงแม้ว่าจำเลยจะอ้างว่าคดีนี้มีปัญหาข้อ ก.ม. แต่บรรยายมาเป็นการคัดค้านเกี่ยวกับการวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังนี้ ก็ย่อมต้องห้ามฎีกาเช่นเดียวกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลล่างและลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่าง และให้จำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีคู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ถึงแม้ว่าจำเลยจะอ้างว่าคดีมีปัญหาข้อกฎหมาย แต่บรรยายมาเป็นการคัดค้านเกี่ยวกับการวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังนี้ก็ย่อมต้องห้ามฎีกาเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าจำเลยจะอ้างว่าคดีมีปัญหาข้อกฎหมาย แต่บรรยายมาเป็นการคัดค้านเกี่ยวกับการวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังนี้ก็ย่อมต้องห้ามฎีกาเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2028/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาจำกัดเฉพาะผู้เสียหายตามที่กฎหมายกำหนด แม้ได้รับความเสียหายก็ไม่อาจฟ้องแทนได้
ก.ม.ได้กำหนดตัวบุคคลไว้โดยเฉพาะที่จะจัดการแทนผู้เสียหายได้เป็นการแสดงอยู่ในตัวเองว่าผู้ที่จะเป็นโจทก์ฟ้องแทนผู้เสียหายได้ต้องเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ใน ป.วิ.อ.
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจแม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญาไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจแม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญาไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2028/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาจำกัดเฉพาะผู้เสียหายตามกฎหมาย ผู้รับมอบอำนาจจำหน่ายยามิใช่ผู้เสียหาย
กฎหมายได้กำหนดตัวบุคคลไว้โดยเฉพาะที่จะจัดการแทนผู้เสียหายได้เป็นการแสดงอยู่ในตัวเองว่าผู้ที่จะเป็นโจทก์ฟ้องแทนผู้เสียหายได้ต้องเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจ แม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้จำหน่ายยาอันมีเครื่องหมายการค้าโดยเฉพาะจากผู้มีชื่อ ต่อมามีผู้ปลอมเครื่องหมายการค้ายาที่โจทก์ได้รับมอบอำนาจ แม้โจทก์จะเสียหายก็ตาม ก็มิได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง