พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมายไม่อาจฎีกาข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นในชั้นอุทธรณ์
คดีแพ่งที่ห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย และศาลอุทธรณ์ก็มิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไป คงเป็นแต่ถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายต่อไปเท่านั้น นั้น ย่อมฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากล่าวขึ้นมาในชั้นอุทธรณ์เสียแล้วต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม อุทธรณ์ข้อเท็จจริงไม่ได้ หากไม่ยกขึ้นในชั้นอุทธรณ์
คดีแพ่งที่ห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย และศาลอุทธรณ์ก็มิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไป คงเป็นแต่ถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาในการวินิจฉัย ปัญหาข้อกฎหมายต่อไปเท่านั้น นั้นย่อมฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากล่าวขึ้นมาในชั้นอุทธรณ์เสียแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดตามฟ้อง การพิพากษาต้องอาศัยข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำฟ้อง หากข้อเท็จจริงไม่ตรงกัน ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า "จำเลยทั้ง 17 คนนี้ได้กระทความผิดต่อกฎหมาย กล่าวคือ จำเลยทุกคนได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันเล่นการพนันซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการพนันถั่ว" และในตอนต่อไปในฟ้องข้อเดียวกันกล่าวว่า "โดยจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตน จำเลยที่ 2 เป็ฯเจ้ามือรับถินรับใช้ จำเลยอื่นๆเป็นผู้เล่น" นั้น เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หาใช่ในฐานะเป็นผู้เล่นด้วยไม่
ถ้าทางพิจารณาปรากฎว่าจำเลยมิได้เป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันตามฟ้อง แต่เป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น ต้องถือว่าข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในสาระสำคัญ อันเป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้.
ถ้าทางพิจารณาปรากฎว่าจำเลยมิได้เป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันตามฟ้อง แต่เป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น ต้องถือว่าข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในสาระสำคัญ อันเป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาลงโทษอาญาตามข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกับฟ้อง แม้การสืบพยานจะยังไม่สมบูรณ์
ฟ้องกล่าวบรรยายข้อเท็จจริงแห่งการกระทำของจำเลยหลายประการ และโจทก์ได้สืบได้สมบ้างไม่สมบ้าง เมื่อการกระทำที่ฟังได้สมฟ้องนั้นเป็นการกระทำซึ่งเป็นควาผิดตามที่โจทก์ฟ้องแล้ว ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้ตามฟ้อง จะถือว่าเป็นกรณีข้อเท็จจริงที่ฟังได้ในการพิจารณาแตกต่งกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องผิดสัญญาเช่าเรือ เมื่อข้อเท็จจริงเป็นเรื่องการยืมใช้ การฟ้องจึงไม่สมเหตุผล ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าเรือโจทก์ไปและผิดสัญญาเช่าขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเช่าเรือและค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือ จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้เช่าเรือโจทก์ แต่โจทก์ได้ให้จำเลยยืมเรือไปบรรทุกฟืนโดยไม่คิดค่าอะไรดังนี้ หากทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องให้ยืมเรือ ไม่ใช่เรื่องให้เช่าเรือดังฟ้องของโจทก์ศาลก็ต้องยกฟ้องส่วนในเรื่องค่าเสียหายในการซ่อมแซมเรือนั้น โจทก์เรียกร้องตามมูลสัญญาเช่าเมื่อไม่ใช่เรื่องการเช่าแล้วก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมต่อไปเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวตามสัญญายืม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ในศาลเป็นเหตุให้ยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัส ทางพิจารณาได้ความว่า มีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และโจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสจากการชุลมุนต่อสู้นั้น เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง เพราะขาดข้อเท็จจริงอันเป็นข้อสาระสำคัญเป็นองค์ความผิด หาใช่เพียงแตกต่างกันในรายละเอียดที่ต้องกล่าวมาในฟ้องเท่านั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ส่งผลต่อการตัดสินคดี
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัสทางพิจารณาได้ความว่า มีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และโจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสจากการชุลมุนต่อสู้นั้น เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง เพราะขาดข้อเท็จจริงอันเป็นข้อสารสำคัญเป็นองค์ความผิดหาใช่เพียงแตกต่างกันในรายละเอียดที่ต้องกล่าวมาในฟ้องเท่านั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับในคดีก่อนไม่ผูกพันผู้กล่าวในคดีหลัง ศาลต้องวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงปัจจุบัน
คำรับของคู่ความในคดีหนึ่งใช้ปิดปากผู้กล่าวในการพิจารณาคดีอีกคดีหนึ่งไม่ได้ เพราะคำรับไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่จะรับฟังได้ โดยเด็ดขาด เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งซึ่งใช้ยันผู้กล่าวเท่านั้น ผู้กล่าวจึงนำสืบหักล้างได้ ในการพิจารณาคดีหลัง ศาลจะต้องวินิจฉัยว่าความจริงเป็นอย่างไร จะถือว่าคำรับของคู่ความในคดีก่อนผูกมัดผู้กล่าวโดยสืบหลักล้างไม่ได้เลยนั้น หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษปรับในคดีศุลกากรและสุรา: ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาเนื่องจากเป็นเพียงการแก้ไขเล็กน้อยในข้อเท็จจริง
ศาลขั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากร เข้าด้วยแล้ว เป็นเงินคนละ 36,068 บาท บังคับค่าปรับตามมาตรา 29,30 หากต้องกักขังแทนค่าปรับ ให้กักขังคนละ 2 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลยทั้งสามเป็นเงิน 36,068 บาท โดยแยกเรียงตัวคนละ 12,022 บาท 66 สตางค์ ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30 หากต้องกักขังแทน ให้กักขังคนละ 8 เดือน ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้ถือหุ้น และการวินิจฉัยข้อกฎหมายหลังฟังข้อเท็จจริงไม่สมฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกเงินของบริษัท แต่ขณะที่ฟ้องนี้โจทก์เป็นเพียงผู้ถือหุ้น โดยถ้อยคำและความหมายย่อมชัดเจนอยู่ว่าไม่ใช่ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของบริษัทอันจะฟ้องความหรือจัดการแทนบริษัทในคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5 (3) จะขอให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาบังคับก็ไม่มีทางจะอนุโลมได้ และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169 ที่โจทก์อ้างมาก็เป็นเรื่องฟ้องเรียกเอาสินไหมทดแทนแก่กรรมการอันเป็นเรื่องทางแพ่ง
ศาลไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยปัญหาทุกข้อ เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำผิดจริงตามฟ้องแล้ว จะไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายเรื่องอำนาจฟ้องก็ได้
ศาลไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยปัญหาทุกข้อ เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำผิดจริงตามฟ้องแล้ว จะไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายเรื่องอำนาจฟ้องก็ได้