คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร แม้มิใช่ผู้เสียหายทางอาญา
ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา ม.2 (4) หมายถึงบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ถูกประทุษร้ายได้รับความเสียหายอันเป็นที่เห็นประจักษ์โดยตรงแต่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารและจำเลยก็มิได้กระทำผิดทางอาญา ต่อโจทก์แต่อย่างใด ดังนี้โจทก์จึงหาใช่ผู้เสียหายไม่
เมื่อโจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้วก็ย่อมนำม.51 มาปรับแก่คดีไม่ได้
เมื่อ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร ม.11 วรรค 2 ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นร้องขอต่อศาลให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรื้อถอนอาคารที่สร้างผิดแผกไปจากแผนผังก่อสร้างได้ทั้งโจทก์ก็ได้โต้แย้งให้แก้ไขแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับได้
ตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารมิได้บัญญัติเรื่องอายุความฟ้องร้องไว้ ก็ต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปแห่ง ป.พ.พ.ม.169

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066-1068/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการยกข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้น และการร้องทุกข์ในคดีอาญาเกี่ยวกับเรือ
ข้อกฎหมายที่คู่ความยกขึ้นอ้างอิงนั้นจะต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่ศาลชั้นต้น มิฉะนั้นศาลหารับเป็นฎีกาในข้อนั้นไม่
ผู้เช่าเรือยนต์มาทำการหาผลประโยชน์ เมื่อเรือนั้นถูกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และมีอำนาจร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานได้ตามมาตรา 123124 และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนได้ตามมาตรา 120,121และผู้เช่าในฐานะผู้เสียหายก็ยังมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์ กับพนักงานอัยการตามมาตรา 28(2) อีกด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าของเรือยนต์ได้ร่วมกับผู้ถือท้ายควบคุมเรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานกล่าวหาว่าผู้ถือท้ายเรืออีกลำหนึ่งชนเอาจนต่างฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกการเสียหายกับเจ้าพนักงานเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของเรือนั้นได้ร้องทุกข์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 80 แล้ว จึงหาขาดอายุความไม่ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ไม่ถูกต้องเพราะไม่ลงลายมือชื่อนั้นไม่มีประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาจึงตกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติมในคดีล้มละลายเมื่อมีคำพิพากษาในคดีอาญาแล้ว
จำเลยกับพวกเคยถูกอัยการฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกง ศาลได้ลงโทษจำคุกจำเลยและให้จำเลยคืนเงินแก่บรรดาผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ซึ่งปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ร้องทุกข์คนหนึ่งด้วย
ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแพ่ง จำเลยขอยื่นบัญชีระบุพยานและการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนั้นศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาส่วนอาญาดังนี้ย่อมตัดบทมิให้จำเลยสืบพยานผิดเพี้ยนไปอย่างใดอีก เมื่อจำเลยไม่อ้างข้อกฎหมายให้ชัดแจ้งว่าควรอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานด้วยเหตุใดจึงให้ยกเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขบทมาตราความผิดและกระทงโทษในคดีอาญา, จำเลยฎีกาขอลดหย่อนโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา250 ข้อ2,3 มาตรา 184 และ มาตรา 120 รวม 3 กระทงเมื่อลดโทษตาม มาตรา 59 แล้วคงรวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ตาม มาตรา 36
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกระทงลงโทษตาม มาตรา 36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น มาตรา 71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความข้อกำหนดการปิดประกาศให้ถูกต้องตามกฎหมายป่าไม้ การพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา
พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.5 กำหนดวิธีปฏิบัติในเรื่องประกาศไว้เป็นพิเศษคือให้คัดสำเนาประกาศปิดไว้ ณที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือสาธารณะสถานดังนี้ เมื่อปรากฎว่าประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้เรื่องนี้ได้ปิดประกาศไว้ที่ว่าการอำเภอเพียงแห่งเดียว จึงเป็นการปฏิบัติที่ยังไม่ยอม จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
ข้อความเรื่องปิดประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้นี้ เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องพิสูจน์จะอ้างว่าจำเลยไม่ได้ให้การโต้เถียงไว้ย่อมฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อผูกมัดข้อเท็จจริงจากคดีอาญาในคดีแพ่ง: ประเด็นโดยตรงเท่านั้น
ในการพิพากษาคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาฉะเพาะที่เป็นประเด็นโดยตรงในคดีอาญานั้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการผูกพันข้อเท็จจริงจากคดีอาญาในคดีแพ่ง: ประเด็นตรงเท่านั้นที่ผูกมัด
ในการพิพากษาคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเฉพาะที่เป็นประเด็นโดยตรงในคดีอาญานั้นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญา: การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกระทงๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกระทงหนึ่ง 1 ปีซึ่งแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามโดยศาลชั้นต้นแล้วจำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องคดีอาญา: เหตุผลสมควร, ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ, อนุญาตได้ก่อนมีคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนเพราะพยานโจทก์ทุกปากในชั้นสอบสวนว่าเกิดเหตุเวลา 19.00 น. แต่ชั้นศาลพิจารณาพยานโจทก์ทุกปากให้การว่าเกิดเหตุเวลา 17.00 น. เศษ โจทก์จึงขอแก้เวลาเกิดเหตุอันเป็นรายละเอียดซึ่งต่อสู้แถลงในฟ้องก่อนศาลพิพากษาดังนี้เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหลงข้อต่อสู้ย่อมแก้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: เหตุสมควร & ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนเพราะพยานโจทก์ทุกปากในชั้นสอบสวนว่าเกิดเหตุเวลา 19.00 น. แต่ชั้นศาลพิจารณาพยานโจทก์ทุกปากให้การว่าเกิดเหตุเวลา 17.00 น.เศษโจทก์จึงขอแก้เวลาเกิดเหตุอันเป็นรายละเอียดซึ่งต่อสู้แถลงในฟ้องก่อนศาลพิพากษาดังนี้เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหลงข้อต่อสู้ย่อมแก้ได้
of 312