คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำเลย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,884 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความในคดีแพ่ง: จำเลยไม่ยกข้อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ถือว่าสละสิทธิ
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมยกข้อต่อสู้เรื่องอายุความศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตแม้ศาลจะให้จำเลยชนะคดีโดยอาศัยเหตุอื่น แต่ต่อมาชั้นอุทธรณ์จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นต่อสู้เช่นนี้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจในปัญหาเรื่องอายุความต่อไปแล้วไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัย
เรื่องอายุความในคดีแพ่งศาลจะอ้างขึ้นเองโดยคู่ความมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไม่ได้แม้ในคดีก่อนศาลจะเคยวินิจฉัยว่าคู่ความมีสิทธิที่จะฟ้องร้องได้ภายในอายุความ ก็มิได้หมายความว่าศาลจะยกเรื่องอายุความขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836-837/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม - ขาดรายละเอียดการกระทำผิด ทำให้จำเลยไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ และการครอบครองที่ดินตามใบเหยียบย่ำ
ฟ้องกล่าวว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ โดยได้รับใบเหยียบย่ำมา ได้แผ้วถางแล้ว 9-10 ไร่ จำเลยเข้ามาขัดขวางแย่งชิงว่าเป็นของจำเลยทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ห้ามมิได้กล่าวอ้างว่าจำเลยแย่งชิง เข้าทำหรือกระทำการขัดขวางโดยมิชอบด้วยกฎหมายประการใดอีกทั้งวันเดือนปีที่จำเลยขัดขวางก็มิได้ปรากฏ ไม่มีทางที่จำเลยจะรู้ได้ว่าตนถูกกล่าวหาด้วยกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างไรและเหตุเกิดเมื่อใด ยากที่จะแก้ข้อหาของโจทก์ได้ถูกต้อง ฟ้องเช่นนี้ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา172 เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เพียงแต่ปลูกต้นสาคูลงในลำห้วย ยังไม่เป็นการครอบครองที่ป่าตามใบเหยียบย่ำ จะฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกไม่ได้ แต่เรียกค่าเสียหายที่ตัดต้นสาคูได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิร่วมในที่ดิน: สันนิษฐานว่ามีส่วนได้เสีย และภาระการพิสูจน์ของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่า มีกรรมสิทธิในที่ดินร่วมกับจำเลย จำเลยสู้คดีว่าจำเลยเป็นผู้ออกเงินซื้อที่รายนี้แล้วลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิด้วยเพื่อลวงมิให้ญาติอื่นมาแย่งมรดก ดังนี้ในเบื้องต้นต้องสันนิษฐานว่าโจทก์มีกรรมสิทธิอยู่ด้วยส่วนหนึ่งเป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งแยกที่ดินบ้านเรือนมีคำขอให้ใช้ราคามาด้วยเป็นจำนวนค่อนข้างสูงจำเลยก็ขอให้ใช้ราคาแทนแบ่ง เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลอาจพิพากษาให้แบ่งโดยวิธีให้จำเลยใช้เงินราคาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ใช่ผู้ขาย/สั่งของ แม้เปิดเครดิต/จัดหาตัวแทนตรวจของ การฟ้องผิดสัญญาต้องระบุหน้าที่จำเลยชัดเจน
รับเป็นผู้เปิดเครดิตจ่ายเงินทางธนาคาร รับเป็นผู้หาตัวแทนตรวจของให้โดยจำเลยได้รับค่าบำเหน็จตัวแทน ดังนี้หาทำให้กลายเป็นผู้ขายหรือผู้สั่งของขายไม่
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้อง ศาบไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ใช่ผู้ขายหรือสั่งของ แม้เปิดเครดิตและจัดหาตัวแทนตรวจของ ศาลไม่รับวินิจฉัยเรื่องนอกฟ้อง
รับเป็นผู้เปิดเครดิตจ่ายเงินทางธนาคารรับเป็นผู้หาตัวแทนตรวจของให้โดยจำเลยได้รับค่าบำเหน็จตัวแทนดังนี้หาทำให้กลายเป็นผู้ขายหรือผู้สั่งของขายไม่
ฟ้องไม่ได้กล่าวว่าจำเลยจ่ายเงินไปก่อนที่โจทก์ได้รับของครบถ้วนเป็นการผิดหน้าที่จำเลยไว้ในฟ้องศาลไม่รับวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยหลบหนีเรือนจำ ทำให้ศาลไม่สามารถวินิจฉัยคดีได้
จำเลยยื่นฎีกา โดยทนายจำเลยลงชื่อแทนในฎีกา แต่จำเลยได้หลบหนีเรือนจำไปก่อนวันยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้ ดังนี้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ เพราะจำเลยไม่มีตัวอยู่ในอำนาจศาล และสั่งจำหน่ายฎีกาของจำเลยเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยที่มีโทษรอการลงโทษ และหลักเกณฑ์การเพิ่มโทษตามกฎหมายอาญา
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกและปรับ แต่โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ เช่นนี้ ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยในคดีหลังตามมาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ไม่ได้ เพราะไม่ได้ระบุไว้เป็นพิเศษเช่นของเดิมและจะเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ก็ไม่ได้ เพราะโทษที่รอไว้ยังไม่ได้รับจริง ไม่เรียกว่าพ้นโทษไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องยื่นหลังจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ การยื่นก่อนถือว่ายังไม่สมบูรณ์
ศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หลายครั้งจำเลยไม่มา จึงอ่านให้โจทก์ฟังฝ่ายเดียว โจทก์ยื่นฎีกาและจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วเช่นนี้ ถือว่าโจทก์เป็นเพียงยื่นฎีการอไว้ ไม่เข้าลักษณะฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่สมบูรณ์ก่อนจำเลยรับทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หลายครั้ง จำเลยไม่มา จึงอ่านให้โจทก์ฟังฝ่ายเดียว โจทก์ยื่นฎีกาและจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วเช่นนี้ ถือว่าโจทก์เป็นเพียงยื่นฎีการอไว้ ไม่เข้าลักษณะเป็นฎีกา จนกว่าจำเลยจะได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387-389/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งสิทธิในที่ดินหลังมีการซื้อขายแล้ว การฟ้องต้องรวมผู้ซื้อเป็นจำเลย
โจทย์ฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ และขอทำลายนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทหลังกล่าวระหว่างจำเลยผู้ขาย กับบุคคลภายนอกผู้ซื้อ เมื่อคดีปรากฏว่า จำเลยได้ทำนิติกรรมจดทะเบียนขายที่รายพิพาท และส่งมอบการครอบครองให้ผู้ซื้อไปแล้ว ดังนี้ เมื่อมิได้ฟ้องผู้ซื้อเข้ามาเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ก็จะพิพากษาให้ทำลายหนังสือสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยและผู้ซื้อไม่ได้ เพราะผู้ซื้อเป็นบุคคลภายนอกคดี
of 289