พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2345/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม: ศาลฎีกายกฟ้องเมื่อศาลอุทธรณ์เปลี่ยนคำพิพากษาโดยไม่มีอำนาจ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยปลอมเอกสารและลงโทษฐานนี้ จำเลยอุทธรณ์โจทก์ไม่อุทธรณ์ ข้อหาฐานใช้เอกสารปลอมจึงยุติไปแล้ว ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยความผิดฐานใช้เอกสารปลอมอีก เมื่อศาลอุทธรณ์ว่าฟังไม่ได้ว่าจำเลยปลอมเอกสาร แล้วกลับฟังว่าจำเลยใช้เอกสารปลอม และพิพากษาลงโทษฐานนี้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนนี้จึงไม่ชอบเมื่อจำเลยฎีกาต่อมา ส่วนโจทก์ไม่ฎีกา ข้อหาฐานปลอมเอกสารจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องทั้ง 2 ข้อหา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2333/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการลงโทษฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืน ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษให้ถูกต้องได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 6 ฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิง จำเลยทั้งสี่นี้อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 3 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ด้วยจำเลยที่ 6 ฎีกา ขอให้ยกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 3 และที่ 6 กระทำผิดตามฟ้อง และเมื่อพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์เกี่ยวกับเรื่องใช้ปืนยิงแล้ว เห็นว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 กับพวกมิได้ใช้ปืนยิงในการปล้นทรัพย์ แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ฎีกาด้วยศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขลงโทษจำเลยให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ทางเพศไม่ถึงขั้นข่มขืน แต่เป็นความผิดฐานบุกรุกและกระทำอนาจาร ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษา
จำเลยแอบเข้ามากอดหญิงผู้เสียหายและพูดขอกระทำชำเราผู้เสียหายร้องขึ้นจำเลยเอามือปิดปากผู้เสียหาย กดผู้เสียหายนอนลงที่พื้นเรือนแล้วขึ้นคร่อมเอาหัวเข่ากดต้นขาไว้ ขณะนั้นผู้เสียหายนอนหงายนุ่งกระโจมอกอยู่ จำเลยก้มลงกัดที่แก้มและถลกผ้าซิ่นขึ้นจากด้านล่าง ผู้เสียหายดิ้นอย่างแรงจนหลุดแล้ววิ่งร้องไห้ลงเรือนไปดังนี้ลักษณะการกระทำของจำเลยดังกล่าวยังไม่อยู่ในวิสัยที่จำเลยจะกระทำชำเราผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา คงเป็นความผิดฐานกระทำอนาจารเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญาถึงที่สุดแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาจำเลย เนื่องจากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิตปลอกกระสุนปืนของกลางริบ โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ปลอกกระสุนปืนของกลางโจทก์ไม่ได้ขอให้ริบ จึงไม่ริบ ดังนี้ คดีย่อมถึงที่สุดแล้ว จำเลยฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีชิงทรัพย์: ศาลฎีกาอนุญาตเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษในคดีที่เคยยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้นับโทษต่อกับโทษในคดีดำที่ 2138/2513 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทั้งคดีนี้และคดีดำที่ 2138/2513 ซึ่งเป็นคดีแดงที่ 2408/2513 จึงไม่มีทางจะนับโทษต่อ ต่อมาหลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้แล้วศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีแดงที่ 2408/2513นั้นด้วย จำเลยฎีกาในคดีนี้ โจทก์จึงขอมาในคำแก้ฎีกาให้นับโทษคดีนี้ต่อกับโทษในคดีแดงที่ 2408/2513 ดังนี้ศาลฎีกาสั่งให้นับโทษต่อได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีชิงทรัพย์: ศาลฎีกาอนุญาตเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษในคดีที่เกี่ยวข้องแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้นับโทษต่อกับโทษในคดีดำที่ 2138/2513 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทั้งคดีนี้และคดีดำที่ 2138/2513 ซึ่งเป็นคดีแดงที่ 2408/2513 จึงไม่มีทางจะนับโทษต่อ ต่อมาหลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้แล้ว ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีแดงที่2408/2513 นั้นด้วย จำเลยฎีกาในคดีนี้ โจทก์จึงขอมาในคำแก้ฎีกา ให้นับโทษคดีนี้ต่อกับโทษในคดีแดงที่2408/2513 ดังนี้ ศาลฎีกาสั่งให้นับโทษต่อได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง: การโต้แย้งข้อเท็จจริงโดยไม่ให้เหตุผล ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยฎีกาสรุปการฟังข้อเท็จจริงของศาลล่างทั้งสองและว่าข้อเท็จจริงเช่นนี้ไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ให้เหตุผลและข้ออ้างอิง ว่าทำไมจึงไม่ผิดเพื่อเป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานโดยอ้างคำเบิกความในคดีก่อนเป็นคำรับของโจทก์ ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ชอบ
ข้อเท็จจริงที่ว่า โจทก์กับจำเลยใครเป็นผู้มีสิทธิ(ในที่พิพาท)ดีกว่ากัน นั้น คู่ความทั้งสองฝ่ายยังโต้เถียงกันอยู่ ถือว่าเป็นประเด็นข้อพิพาทที่จะต้องพิจารณาสืบพยานกันต่อไป แม้ได้มีคำพิพากษาในคดีก่อนวินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทเป็นคุณแก่จำเลยแล้วจะถือเอาคำเบิกความของโจทก์ (คดีนี้)ที่เบิกความไว้ในคดีนั้น เป็นคำรับของโจทก์ในคดีนี้หาได้ไม่ จึงไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำสืบให้ศาลเห็นว่าความจริงโจทก์มีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลย การที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยถือเอาคำเบิกความของโจทก์ในคดีอื่นมาเป็นคำแถลงรับของโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771-777/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการเบิกความเท็จ: ผู้เบิกความต้องรู้ข้อเท็จจริงเป็นเท็จหรือไม่?
การเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177แม้จะไม่ได้บัญญัติว่า ผู้เบิกความจะต้องรู้ถึงความจริงเท็จแห่งข้อความที่ตนเบิกนั้นไว้ด้วยก็ตาม แต่การที่จะเป็นความผิดตามมาตรานี้ ผู้กระทำผิดก็จะต้องกระทำโดยเจตนาคือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนนำมาเบิกความนั้นเป็นเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นโทษ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กรณีมอบอาวุธปืนภายในเก้าสิบวัน แม้ไม่ยกขึ้นโต้แย้ง ศาลฎีกายกประโยชน์ให้ได้
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 6ยกเว้นโทษให้แก่ผู้ที่นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปมอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเก้าสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เมื่อปรากฏว่าขณะเจ้าพนักงานยึดอาวุธปืนและกระสุนปืนไปจากจำเลยนั้นยังอยู่ในระยะเวลาเก้าสิบวันดังกล่าว จำเลยย่อมได้รับยกเว้นโทษ และแม้ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยใน ข้อหามีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตและจำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อหานี้ก็ตามศาลฎีกาก็หยิบยกพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยได้เพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย