พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามฆ่าจากการใช้ปืนยิงเจ้าพนักงาน แม้กระสุนขัดลำกล้อง ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษา
จำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบโอโตเมติคบรรจุกระสุนปืน 2 นัด ยิงเจ้าพนักงานตำรวจในระยะห่าง 1 เมตร แต่กระสุนปืนขัดลำกล้องจึงไม่ลั่น ปืนของกลางนี้เป็นปืนที่ใช้ยิงได้ไม่ชำรุด กระสุนปืนทั้ง 2 นัดก็ใช้ยิงได้ ปืนและกระสุนปืนของกลางใช้ยิงด้วยกันได้ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289,80, (ตามนัยฎีกาที่ 771/2513, 147/2504 และ 980/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าในคดีทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาตัดสินว่าการทำร้ายโดยไม่มีเหตุโกรธเคืองรุนแรง ไม่ถือเป็นเจตนาฆ่า แม้ใช้มีด
จำเลยกับผู้เสียหายมีปากเสียงกันก่อนด้วยเรื่องผู้เสียหายเลี้ยงสุกร มูลสุกรส่งกลิ่นเหม็นไปถึงห้องที่จำเลยเช่าแล้วจำเลยได้ไปเอามีดปังตอปลายแหลมจากห้องที่จำเลยเช่ามาฟันและแทงผู้เสียหายเป็นบาดแผลที่ขมับ ข้อศอก รักแร้ และคาง ถึงสาหัส ดังนี้เป็นการทำร้ายในปัจจุบันทันทีนั้น เมื่อไม่มีเรื่องอื่นถึงขนาดจะเอาชีวิตกันมาก่อน แม้มีดที่จำเลยใช้ทำร้ายอาจทำให้ถึงตายได้ แต่บาดแผลแต่ละแผลที่ผู้เสียหายได้รับไม่ร้ายแรงแสดงว่าจำเลยฟันและแทงไปตามธรรมดาตามโอกาสอำนวยไม่ได้เลือกหรือตั้งใจทำร้ายที่อวัยวะส่วนสำคัญ เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาชี้ขาดกรณีฟันศีรษะผู้เสียหายไม่ถึงขั้นเจตนาฆ่า
จำเลยใช้มีดโต้ปลายมน มีคมข้างเดียวใช้ฟันได้อย่างเดียว ขนาดตัวมีดยาว 10 นิ้วฟุต ด้ามมีดยาว 4 นิ้วฟุตวิ่งเข้าไปทางด้านหลังฟันถูกศีรษะผู้เสียหาย 1 ทีเกิดบาดแผลยาว 2 เซนติเมตรลึกจดกระโหลกศีรษะ กระโหลกศีรษะไม่ร้าวหรือแตก แสดงว่าฟันไม่เต็มแรงและถูกหน้ามีดเพียงเล็กน้อย ผู้เสียหายรักษาบาดแผล 25 วันหาย แม้จะได้ความว่าฟันแล้วผู้เสียหายวิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ตามไป แต่จำเลยไม่ได้ทำร้ายผู้เสียหายอีก ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 แม้ไม่นำปืนขึ้นทะเบียนภายใน 90 วัน ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีอาวุธปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แต่เห็นว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 6 บัญญัติว่า ถ้าผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่อาจขออนุญาตได้ตามกฎหมาย นำปืนมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ต่อมาโจทก์จะฎีกาว่าในขณะที่ศาลฎีกากำลังพิจารณาคดีนี้อยู่ได้เลยกำหนดให้นำอาวุธปืนไปขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตแล้วและจำเลยก็มิได้นำไปขึ้นทะเบียนภายในกำหนด จึงต้องมีความผิดฐานนี้อยู่ ดังนี้ ฟังไม่ขึ้นเพราะเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาถูกต้องตามบทกฎหมายที่มีอยู่ในเวลาพิพากษาคดีแล้ว แม้จำเลยจะมิได้นำปืนไปขอรับใบอนุญาตภายใน 90 วัน ก็ไม่ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปศาลฎีกาไม่มีเหตุที่จะต้องแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2849/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลสาหัสและการลดโทษจากคำให้การชั้นสอบสวน ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์
แม้บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลของแพทย์ว่ามีรอยฟกช้ำที่คอ ที่หลัง และที่สะเอว มีโลหิตคั่งภายในช่องท้อง ลำไส้ส่วนนอกฉีกขาด แพทย์ต้องผ่าตัดช่องท้อง จะรักษาแผลหายเกินยี่สิบเอ็ดวันก็ตามแต่เมื่อต่อมาราว 7 วัน ผู้เสียหายได้ผูกคอตายไปเสียก่อน และได้ความตามคำแพทย์ผู้ชันสูตรบาดแผลและเป็นผู้รักษาผู้เสียหายว่าเมื่อผู้เสียหายผูกคอตาย แผลจวนจะหายแล้ว สามารถเดินไปมาได้บ้างหลังจากผ่าตัดแล้วเพียง3 วัน อาจจะทำงานจักสานได้หลังผ่าตัด 10 วันเช่นนี้ แม้ผู้เสียหายจะไม่ถึงแก่ความตายเพราะเหตุอื่นไปก่อนครบ 20 วันหลังจากถูกทำร้าย ก็ยังไม่รับฟังไม่ถนัดว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงทุพพลภาพด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน จึงไม่ใช่อันตรายสาหัส
เมื่อศาลเชื่อข้อเท็จจริงเป็นดังคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยซึ่งแตกต่างกับคำให้การชั้นศาล แม้คำให้การชั้นสอบสวนนั้นโจทก์เป็นฝ่ายส่งอ้างเพื่อหักล้างคำเบิกความของจำเลยในชั้นศาล ก็นับได้ว่าคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุปรานีลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ได้
เมื่อศาลเชื่อข้อเท็จจริงเป็นดังคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยซึ่งแตกต่างกับคำให้การชั้นศาล แม้คำให้การชั้นสอบสวนนั้นโจทก์เป็นฝ่ายส่งอ้างเพื่อหักล้างคำเบิกความของจำเลยในชั้นศาล ก็นับได้ว่าคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุปรานีลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งสถานะทางสาธารณะของที่ดิน: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงแล้วว่า ทางพิพาทเป็นทางเดินซึ่งเจ้าของที่ดินอุทิศให้ทำถนนสาธารณะ เป็นทางสาธารณะ ฎีกามีใจความว่า ทางพิพาทเป็นภารจำยอมซึ่งคนในละแวกนั้นใช้เดินโดยเจ้าของที่ดินไม่ห้ามปรามเป็นทำนองว่าเจ้าของที่ดินไม่ได้อุทิศให้ไม่ใช่ทางสาธารณะนั้น เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2457/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการวิวาทแย่งมีด ศาลฎีกายืนโทษจำเลย
จำเลยกับผู้ตายได้วิวาทกอดปล้ำทำร้ายกัน ผู้ตายหยิบมีดดาบยาวประมาณ 1 แขน ฟันจำเลยที่แขนและที่ศีรษะจำเลยแย่งมีดดาบนั้นมาฟันผู้ตาย 3 ครั้ง สองครั้งแรกถูกที่แขนทั้งสองข้าง ครั้งสุดท้ายฟันที่ชายโครงขวาจนมีดดาบหักจากด้าม เป็นบาดแผลฉีกขาดยาว 15 เซนติเมตร กระดูกซี่โครงหัก 1 ซี่ แสดงว่าจำเลยฟันผู้ตายเต็มแรงและด้วยกำลังโกรธ โดยมุ่งประหัตประหาร ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
เมื่อจำเลยกับผู้ตายสมัครใจต่อสู้กัน จำเลยจะอ้างว่าเป็นการป้องกันไม่ได้ และการกระทำดังกล่าวก็ไม่เป็นบันดาลโทสะตามกฎหมาย
เมื่อจำเลยกับผู้ตายสมัครใจต่อสู้กัน จำเลยจะอ้างว่าเป็นการป้องกันไม่ได้ และการกระทำดังกล่าวก็ไม่เป็นบันดาลโทสะตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวด้วยอาวุธร้ายแรงเมื่อถูกกลุ้มรุมทำร้ายด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายกับพวกอีกหลายคนกลุ้มรุมทำร้ายจำเลยผู้เสียหายใช้มีดดาบยาว 1 เมตรฟันจำเลยถูกที่แก้มแล้วจะฟันซ้ำจำเลยจึงชักปืนพกสั้นยิงไปหลายนัด กระสุนปืนถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส การที่จำเลยใช้ปืนยิงในขณะที่ถูกผู้เสียหายกับพวกรุกไล่ติดตามฟันในระยะกระชั้นชิดเป็นพัลวันอยู่เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1967/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: ศาลฎีกาแก้โทษ ลดมาตราส่วนโทษ และพิจารณาอายุของจำเลย
คดีอาญาของศาลคดีเด็กและเยาวชน แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ทั้งบทและกำหนดโทษที่ศาลชั้นต้นวางมา เป็นการแก้มากแต่การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นการส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กนั้น ถือไม่ได้ว่าพิพากษาลงโทษจำเลยโดยจำคุกเกิน 1 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22
การกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นการพยายามฆ่า โดยการไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ก่อนที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย จำเลยกับพวกผู้เสียหายมีสาเหตุกันด้วยเรื่องผู้เสียหายขับรถเฉียดรถจำเลยแล้วมีการตะโกนท้าทายกันเล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายมิได้หยุดรถ ต่อมาจำเลยกลับไปบ้านเอาปืนมายืนตรงที่เกิดเหตุ พอผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มา จำเลยก็ยิงเอาโดยไม่มีข้อเท็จจริงใดยืนยันว่าจำเลยมารออยู่เพื่อจะยิงผู้เสียหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยยังไม่ถึงขั้นพยายามฆ่าโดยการ ไตร่ตรองไว้ก่อน
การกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นการพยายามฆ่า โดยการไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ก่อนที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย จำเลยกับพวกผู้เสียหายมีสาเหตุกันด้วยเรื่องผู้เสียหายขับรถเฉียดรถจำเลยแล้วมีการตะโกนท้าทายกันเล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายมิได้หยุดรถ ต่อมาจำเลยกลับไปบ้านเอาปืนมายืนตรงที่เกิดเหตุ พอผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มา จำเลยก็ยิงเอาโดยไม่มีข้อเท็จจริงใดยืนยันว่าจำเลยมารออยู่เพื่อจะยิงผู้เสียหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยยังไม่ถึงขั้นพยายามฆ่าโดยการ ไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1955/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุบรรเทาโทษจากพฤติการณ์การกระทำ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกามีอำนาจปรับลดโทษได้
แม้ข้อนำสืบของจำเลยจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่การพิจารณา และถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษ แต่พฤติการณ์การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเหตุอื่นซึ่งเป็นเหตุบรรเทาโทษประการหนึ่ง ที่ศาลจะถือเป็นเหตุลดโทษให้จำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้วถึงแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาปัญหาข้อนี้ขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะยกข้อที่เป็นคุณแก่จำเลยขึ้นปรับกำหนดโทษจำเลยใหม่ได้
ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เพียงหนึ่งในสาม เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรก็มีอำนาจลดโทษให้ถึงกึ่งหนึ่งได้
ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เพียงหนึ่งในสาม เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรก็มีอำนาจลดโทษให้ถึงกึ่งหนึ่งได้