พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
การที่จะลงโทษบุคคลฐานพยายามฆ่าคนนั้น ข้อเท็จจริงจะต้องให้ได้ความว่าจำเลยได้มีเจตนากระทำการเพื่อฆ่า ฉะนั้น ที่จำเลยถือปืนส่ายไปมาต่อหน้าคนหมู่มากแล้วกระสุนลั่นออกโดยไม่มีใครเห็นว่าจำเลยได้จ้องยิง คดีย่อมมีทางส่อให้วินิจฉัยได้ว่า จำเลยประมาทเลินเล่อทำปืนลั่นออกไปโดยไม่มีเจตนาจะเหนี่ยวไกปืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
การที่จะลงโทษบุคคลฐานพยายามฆ่าคนนั้นข้อเท็จจริงจะต้องให้ได้ความว่าจำเลยได้มีเจตนากระทำการเพื่อฆ่า ฉะนั้นที่จำเลยถือปืนส่ายไปมาต่อหน้าคนหมู่มากแล้วกระสุนลั่นออกโดยไม่มีใครเห็นว่าจำเลยได้จ้องยิง คดีย่อมมีทางส่อให้วินิจฉัยได้ว่า จำเลยประมาทเลินเล่อทำปืนลั่นออกไปโดยไม่มีเจตนาจะเหนี่ยวไกปืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความถูกต้องของวันเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญา แม้พยานเบิกความผิดพลาด แต่หากการสอบสวนยืนยันวันเกิดเหตุเดิมได้ ถือว่าข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
แม้ตัวผู้เสียหายจะเบิกความวันเกิดเหตุผิดจากฟ้องก็ดี และพยานโจทก์คนอื่นจำได้แต่เดือน ส่วนวันจำไม่ได้ก็ดี แต่พยานโจทก์เหล่านี้ก็ได้ให้การชั้นสอบสวนหลังจากเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย ระบุวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง ดังนี้ ถือได้ว่า ข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงวันเกิดเหตุในชั้นพิจารณาคดี ไม่กระทบต่อความเข้าใจข้อหาของจำเลย และถือว่าข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
แม้ตัวผู้เสียหายจะเบิกความวันเกิดเหตุผิดจากฟ้องก็ดีและพยานโจทก์คนอื่นจำได้แต่เดือน ส่วนวันจำไม่ได้ก็ดี แต่พยานโจทก์เหล่านี้ก็ได้ให้การชั้นสอบสวนหลังจากเกิดเหตุเพียงเล็กน้อยระบุวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง ดังนี้ ถือได้ว่าข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์โทษกักขัง: ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีที่ศาลแขวงลงโทษกักขัง
ศาลแขวงลงโทษกักขังจำเลย 2 เดือน จำเลยจะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
โทษกักขังไม่ใช่โทษจำคุก
โทษกักขังไม่ใช่โทษจำคุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิฟ้องเนื่องจากข้อเท็จจริงเบื้องต้นพิพากษาแล้ว สิทธิฟ้องเรื่องอำนาจฟ้องจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า
ศาลชั้นต้นพิจารณาและฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติไปแล้วว่าจำเลยมิได้ประพฤติผิดสัญญาเช่าเพียงเท่านี้โจทก์ก็ต้องแพ้คดีเสียแล้วฎีกาของโจทก์เรื่องอำนาจฟ้องจึงไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาและฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติไปแล้วว่าจำเลยมิได้ประพฤติผิดสัญญาเช่าเพียงเท่านี้โจทก์ก็ต้องแพ้คดีเสียแล้วฎีกาของโจทก์เรื่องอำนาจฟ้องจึงไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในข้อเท็จจริงและเจตนาทางอาญา: การยิงเพื่อขู่ ไม่ใช่เจตนาทำร้าย
แม้จำเลยจะคิดว่าพลตำรวจม้วนเป็นคนร้ายงัดห้อง แต่จำเลยก็มิได้เจตนาจะยิงคนร้าย จำเลยเพียงแต่ยิงประตูเพื่อขู่โดยไม่เห็นตัวและได้ยิงลงต่ำ ไม่ประสงค์ให้ถูกใคร หากแต่เผอิญกระสุนไปถูกไม้คร่าวจึงแฉลบไปผูกพลตำรวจม้วนเข้า ถือว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าหรือแม้แต่เจตนาจะทำร้ายพลตำรวจม้วนเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดสิทธิอุทธรณ์ในคดีศาลแขวง: ปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ ยกเว้นสิทธิจำเลย
คดีที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะทำการพิจารณาพิพากษาได้นั้น เมื่อศาลแขวงได้ทำการพิจารณาพิพากษาแล้ว การที่คู่ความจะอุทธรณ์คำพิพากษาจึงต้องบังคับตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 ม. 22 กรณีเช่นนี้ฝ่ายโจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาในคดีแพ่ง: การโต้เถียงข้อเท็จจริงเกินกรอบคำคู่ความ และข้อจำกัดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248
"ความเห็นแย้ง" ตามความในมาตรา 248 แห่ง ป.วิ. พ. หมายความถึงความเห็นแย้งเกี่ยวแก่ข้อเท็จจริง
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาข้อเท็จจริง: การท้าคดีและการพิจารณาตามคำเบิกความพยาน
'ความเห็นแย้ง' ตามความในมาตรา 248 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หมายความถึงความเห็นแย้งเกี่ยวแก่ข้อเท็จจริง
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้