คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขาดนัด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 616 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีจากความบกพร่องของทนายโจทก์ และการไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลมีสิทธิยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องและกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้แล้ว ทนายโจทก์ลงชื่อทราบคำสั่งดังกล่าว ถึงวันนัดโจทก์ทนายโจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166,181โจทก์จะขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำวันนัดคลาดเคลื่อนซึ่งเกิดจากความบกพร่องของทนายโจทก์เองมิได้และแม้ทนายโจทก์จะป่วยทนายโจทก์ก็สามารถแจ้งให้โจทก์ทราบหรือทำคำร้องขอเลื่อนคดีมอบให้ผู้อื่นมายื่นต่อศาลได้ การที่โจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโดยไปแจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี จึงไม่ใช่เหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอพิจารณาใหม่ในคดีเยาวชนและครอบครัว ต้องเป็นคู่ความที่ศาลสั่งขาดนัดและแพ้คดี
คดีเยาวชนและครอบครัวผู้ที่จะขอให้มีการพิจารณาใหม่ ต้องเป็นคู่ความฝ่ายที่ศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณา และศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นที่พิพาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวพ.ศ. 2534 มาตรา 6 คดีที่มารดา ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท จึงไม่มีประเด็นที่พิพาทและผู้คัดค้านเพิ่งยื่นคำร้องเข้ามาภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งว่าผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายแล้วไม่ได้เข้าเป็นคู่ความในคดีมาแต่แรก เป็นเหตุให้ไม่มีโอกาสที่จะถูกศาลสั่งให้เป็นฝ่ายขาดนัดพิจารณาและมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นพิพาท ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอพิจารณาใหม่ในคดีไม่มีข้อพิพาท ผู้คัดค้านต้องเป็นคู่ความที่ศาลสั่งขาดนัดและแพ้คดีจึงจะมีสิทธิ
ผู้ที่จะขอให้พิจารณาใหม่ ต้องเป็นคู่ความฝ่ายที่ศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณา และศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นที่พิพาท แต่คดีนี้เป็นคดีไม่มีข้อพิพาทจึงไม่มีประเด็นที่พิพาทและผู้คัดค้านก็ไม่ได้เข้าเป็นคู่ความในคดีมาแต่แรก จึงไม่ได้ถูกศาลชั้นต้นสั่งให้เป็นฝ่ายขาดนัดพิจารณา และถูกศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นพิพาท ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกไปยังถิ่นที่อยู่หลายแห่งของจำเลย และผลของการขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยมีถิ่นที่อยู่หลายแห่งและอยู่สับเปลี่ยนกันไป บ้านเลขที่ที่ระบุในคำฟ้องจึงเป็นภูมิลำเนาอีกแห่งหนึ่งของจำเลย การที่พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับหมายนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งตามที่อยู่ของจำเลยในคำฟ้อง โดยมีภริยาของจำเลยเป็นผู้รับไว้แทน จึงถือได้ว่าส่งหมายให้แก่จำเลยโดยชอบแล้ว จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่ไปศาลในวันสืบพยานโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ จำเลยไม่อาจขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยมีภูมิลำเนาหลายแห่ง และการขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ
จำเลยที่ 1 มีถิ่นที่อยู่หลายแห่งซึ่งอยู่สับเปลี่ยนกันไปบ้านเลขที่ที่ระบุในคำฟ้องเป็นภูมิลำเนาอีกแห่งหนึ่งของจำเลยที่ 1 แม้จะมิใช่บ้านที่จำเลยที่ 1 มีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านก็ตาม การที่พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับหมายนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งที่บ้านดังกล่าวโดยมีภริยาของจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับไว้แทน จึงถือว่าได้ส่งหมายนั้น ๆ ให้แก่จำเลยที่ 1 ทราบโดยชอบแล้ว จำเลยที่ 1 ไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่ไปศาลในวันสืบพยานโจทก์ ถือว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ จำเลยที่ 1 จึงไม่อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปยังภูมิลำเนาหลายแห่งของจำเลย การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
แม้จำเลยมีสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดงว่าขณะที่ถูกฟ้องจำเลยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี แต่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งแก่โจทก์ขณะทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ว่าอยู่บ้านเลขที่ 389/4 จังหวัดนครราชสีมา และจำเลยอ้างว่าขณะนั้นอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 357 จังหวัดนครราชสีมา แต่เมื่อพนักงานเดินหมายไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่บ้านตามภูมิลำเนาในคำฟ้องคือ บ้านเลขที่ 96 จังหวัดอุบลราชธานี ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยเต็มใจยอมรับหมายไว้แทนโดยไม่มีผู้ใดปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้อยู่ที่บ้านตามที่กล่าวในคำฟ้องและไม่ปรากฏว่าภริยาจำเลยรับหมายไว้แทนจำเลยโดยหลงผิด พฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อได้ว่าจำเลยอยู่อาศัยในบ้านเดียวกับภริยา และถือได้ว่าจำเลยมีถิ่นที่อยู่หลายแห่งซึ่งอยู่สับเปลี่ยนกันไป ดังนั้นบ้านที่ระบุในคำฟ้องจึงเป็นภูมิลำเนาอีกแห่งหนึ่งของจำเลย ถือได้ว่าได้ส่งหมายนั้นให้แก่จำเลยทราบโดยชอบแล้ว เมื่อจำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่ไปศาลในวันสืบพยานจึงต้องถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดยจงใจจำเลยไม่อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3872/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันสืบพยานและการขาดนัดพิจารณา: การเผชิญสืบที่พิพาทถือเป็นการสืบพยานแล้ว
จำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนขอเผชิญสืบที่พิพาท และศาลได้ไปเผชิญสืบในวันที่จำเลยขอ ถือได้ว่าเป็นการสืบพยานและวันดังกล่าวเป็นวันสืบพยานตาม ป.วิ.พ. มาตรา 1(10)ประกอบมาตรา 102 วรรคแรก การที่โจทก์ได้ร่วมไปเผชิญสืบในวันนั้นย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้มาศาลในวันสืบพยานตามมาตรา 197 วรรคสอง แม้โจทก์จะไม่มาศาลในวันสืบพยานจำเลยนัดต่อมา ก็ไม่เป็นการขาดนัดพิจารณาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้วสืบพยานจำเลยต่อไปโดยมิได้สืบพยานฝ่ายโจทก์ เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งป.วิ.พ. ว่าด้วยการพิจารณา ศาลฎีกาย่อมเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่มิชอบดังกล่าวเสียตามมาตรา 243(2) ประกอบด้วยมาตรา 247โดยพิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาและกระบวนพิจารณาภายหลังจากนั้นทั้งหมดกับให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3872/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดสืบพยานนอกสถานที่และการขาดนัดพิจารณา ศาลต้องปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนโดยนัดแรกจำเลยขอให้ศาลไปเผชิญสืบที่พิพาทและศาลก็ได้ไปเผชิญสืบในวันที่จำเลยขอ ถือได้ว่าเป็นการสืบพยานและวันดังกล่าวเป็นวันสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(10) ดังนั้นการที่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และโจทก์ที่ 6 ร่วมไปเผชิญสืบที่พิพาทในวันดังกล่าวย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้มาศาลในวันสืบพยานตามมาตรา 197 วรรคสองแล้ว แม้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และโจทก์ที่ 6 จะไม่มาศาลในวันสืบพยานจำเลยนัดต่อมาก็ตามก็ไม่เป็นการขาดนัดพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3849/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ถือจงใจ ทำให้ไม่รับพิจารณาใหม่
ชั้นขอให้พิจารณาใหม่ จำเลยที่ 3 และที่ 10 ฎีกาเพียงว่าสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอมนำมาเป็นมูลบังคับคดีกับจำเลยไม่ได้ โดยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในเหตุขาดนัดแต่ประการใดเลย ฎีกาของจำเลย-ที่ 3 และที่ 10 จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
เมื่อการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องหรือหมายนัดสืบพยาน-โจทก์เป็นไปโดยชอบแล้ว จำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด และไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์โดยอ้างเพียงว่าผู้รับไว้แทนทำหาย หรือมีอาชีพขับรถรับจ้างไม่ค่อยอยู่บ้านเท่านั้น พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จึงไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3849/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดยื่นคำให้การและไม่ไปศาล ศาลถือว่าจงใจขาดนัด แม้จะมีเหตุทำเอกสารหาย
ชั้นขอให้พิจารณาใหม่ จำเลยที่ 3 และที่ 10 ฎีกาเพียงว่าสัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอมนำมาเป็นมูลบังคับคดีกับจำเลยไม่ได้โดยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในเหตุขาดนัดแต่ประการใดเลย ฎีกาของจำเลยที่ 3 และที่ 10 จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย เมื่อการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องหรือหมายนัดสืบพยานโจทก์เป็นไปโดยชอบแล้ว จำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดและไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์โดยอ้างเพียงว่าผู้รับไว้แทนทำหาย หรือมีอาชีพขับรถรับจ้างไม่ค่อยอยู่บ้านเท่านั้นพฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาจึงไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่
of 62