พบผลลัพธ์ทั้งหมด 334 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยในคดีหลัง แม้ความผิดในคดีก่อนถูกล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิมได้
ศาลตัดสินลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยในคดีหลัง จนคดีถึงที่สุดไปแล้วก่อนพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ.2499 ใช้บังคับ แม้ความผิดซึ่งจำเลยต้องโทษในคดีก่อนที่เป็นเหตุถูกเพิ่มโทษในคดีหลังจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 8 พ.ย. 2499 และจำเลยได้พ้นโทษในคดีก่อนไปแล้วก็ตามก็ไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขการเพิ่มโทษในคดีหลังได้
เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว ศาลนั้นจะแก้ไขคำพิพากษาเกี่ยวกับการเพิ่มโทษหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่แก้ไขถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด
เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว ศาลนั้นจะแก้ไขคำพิพากษาเกี่ยวกับการเพิ่มโทษหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่แก้ไขถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษาเมื่อคดีถึงที่สุด และการโอนการยึดไปยังคดีอื่น
โจทก์ยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษาในดคีหนึ่ง คดีนั้นถึงที่สุด โดยจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี ต้องถือว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยึดทรัพย์ไว้ก่อนพิพากษานั้น เป็นอันยกเลิกไปในตัว โจทก์จะขอให้โอนการยึดทรัพย์เช่นว่านี้ไปเป็นการบังคับคดีในอีกคดีหนึ่งซึ่งโจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีหาได้ไม่ การที่โจทก์จะขอให้บังคับคดีในคดีที่โจทก์เป็นฝ่ายชนะอย่างไร ก็จะต้องไปดำเนินการในคดีนั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษค่าปรับเป็นกักขังตามกฎหมายใหม่ แม้คดีถึงที่สุดแล้ว ศาลยังปรับโทษได้หากเป็นคุณแก่จำเลย
ศาลพิพากษาปรับ และให้บังคับตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 18 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะพิพากษาต่อมาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 ใช้บังคับ ศาลย่อมกักขังแทนค่าปรับตามกฎหมายใหม่ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลย แม้คำพิพากษาที่ใช้กฎหมายเก่าจะถึงที่สุดไปแล้วก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษกักกันหลังคดีอาญาถึงที่สุด โดยอาศัยบทบัญญัติกฎหมายที่บัญญัติขึ้นใหม่ที่เป็นคุณแก่จำเลย
การที่จะรื้อฟื้นเอาคำพิพากษาในคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว มาเปลี่ยนแปลงได้ จะต้องอาศัยอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 2 วรรค 2 และมาตรา 3
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 12 ถึง 16 ได้บัญญัติเรื่องวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้และได้มี ม.41 บัญญัติถึงเงื่อนไขในการที่จะกักกันไว้ด้วย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479 ม.8,9 ต้องนำบทบัญญัติม.41 แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่บัญญัติภายหลังเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้บังคับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 12 ถึง 16 ได้บัญญัติเรื่องวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้และได้มี ม.41 บัญญัติถึงเงื่อนไขในการที่จะกักกันไว้ด้วย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.กักกันฯ พ.ศ.2479 ม.8,9 ต้องนำบทบัญญัติม.41 แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่บัญญัติภายหลังเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้บังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างเหมาว่าความ: ค่าจ้างต้องจ่ายเมื่อคดีถึงที่สุด แม้ด้วยวิธีใดก็ตาม
ข้อความในสัญญาจ้างว่าความตอนหนึ่งมีความชัดเจนว่า"ค่าจ้างทั้งสิ้นเป็นเงิน 9,000 บาท จ่ายเป็น 3 งวดๆ ที่ 1 จ่าย 3,000 บาท หลังวันทำสัญญา 7 วัน งวดที่ 2 จ่ายในระหว่างคดี 3,000 บาท งวดที่ 3 อีก3,000 บาท เมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดเป็นอันหมดเงินค่าจ้าง" ข้อความแห่งสัญญาดังกล่าวเป็นการจ้างเหมาทั้งหมดเมื่อโจทก์ว่าความให้แก่จำเลยจนคดีเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้วแม้จะถึงที่สุดโดยวิธีใดที่ศาลใดก็ตามจำเลยก็ต้องชำระค่าจ้างให้แก่โจทก์เต็มตามจำนวนที่กล่าวไว้ในสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดเมื่อคดีความถึงที่สุด แม้มีการนิรโทษกรรมภายหลัง ก็ไม่ทำให้คำสั่งเดิมเป็นโมฆะ
โจทก์ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาว่ามีความผิดฐานให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ปรับ 200 บาท กับให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 8 ปี คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ จำเลยซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีคำสั่งให้โจทก์ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัด ต่อมาคดีที่โจทก์ถูกฟ้องนั้นถึงที่สุดโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เช่นนี้ ต้องถือว่า คำสั่งจำเลยดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
พ.ร.บ.ลบล้างมลทินโทษ พ.ศ.2500 ไม่มีผลทำให้คำสั่งของจำเลยที่สั่งไว้ก่อนแล้วเช่นนั้นเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย
พ.ร.บ.ลบล้างมลทินโทษ พ.ศ.2500 ไม่มีผลทำให้คำสั่งของจำเลยที่สั่งไว้ก่อนแล้วเช่นนั้นเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: แม้ประเด็นต่างกัน หากเหตุฟ้องร้องเดียวกัน คดีถึงที่สุดแล้ว ห้ามฟ้องซ้ำ
คดีจะเป็นฟ้องซ้ำนั้นตาม ม.148 วางหลักสำคัญไว้ว่าคู่ความเดียวกันอย่างหนึ่ง ได้ฟ้องร้องกันจนคดีดึงที่สุดแล้วอย่างหนึ่ง เหตุแห่งการฟ้องร้องเป็นอันเดียวกันอีกอย่างหนึ่ง ต้องห้ามมิให้รื้อฟื้นร้องฟ้องกันอีก
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้ก็เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดี แต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือ จำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง (ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้าม เพราะเป็นฟ้องซ้ำ.
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้ก็เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดี แต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือ จำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง (ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้าม เพราะเป็นฟ้องซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกักกันต้องรอคดีถึงที่สุดก่อน ศาลไม่ลงโทษหากคดีระหว่างอุทธรณ์ยังไม่สิ้นสุด
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานปล้นทรัพย์ และฐานจัดหาหญิงเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นมาแล้ว 2 ครั้ง และในครั้งที่ 3 ต้องโทษฐานลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดอันเป็นเหตุร้ายอีก โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษกักกันจำเลย เมื่อปรากฏว่า คดีฐานลักทรัพย์ครั้งหลังนี้ยังไม่ถึงที่สุด ศาลย่อมไม่พิพากษาให้ลงโทษกักกันแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีตกทอดแก่ทายาท: เมื่อโจทก์มรณะหลังศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว สิทธิในการบังคับคดีจะตกทอดไปยังทายาทโดยธรรม
โจทก์มรณะภายหลังจากศาลพิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว สิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดีย่อมตกทอดมายังทายาทต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้หลังศาลตัดสินเรื่องบุริมสิทธิในคดีล้มละลาย: เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิ
ในกรณีที่เจ้าหนี้ของผู้ล้มละลายกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เข้าว่าคดีเป็นการพิพาทในประเด็นว่า เจ้าหนี้จะมีบุริมสิทธิในทรัพย์สินของผู้ล้มละลายหรือไม่ ส่วนหนี้ที่เจ้าหนี้มีอยู่แก่ผู้ล้มละลายนั้น เป็นอันรับรองว่าได้มีอยู่จริงนั้น แม้ศาลจะตัดสินว่าเจ้าหนี้ไม่มีบุริมสิทธิ ก็คงถือได้ว่าเจ้าหนี้คงเป็นเจ้าหนี้ธรรมดาผู้ล้มละลายอยู่ คดีจึงเข้าอยู่ใน พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 93 คือเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือนนับแต่วันคดีถึงที่สุด ( ประชุมใหญ่ ) ครั้งที่ 2/97