พบผลลัพธ์ทั้งหมด 337 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โคพลัดหลง - ยักยอกทรัพย์ - ความผิดทางอาญา
ผู้เสียหายเคยปล่อยโคหากินตามลำพังในตอนเช้า ตอนบ่ายจึงต้อนกลับโคหายไป รุ่งขึ้นมีคนเห็นโคอยู่ตามลำพัง รุ่งขึ้นอีกวันจึงมีผู้เห็นจำเลยพาโคนั้นไป กรณีเช่นนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานยักยอกเก็บทรัพย์ของผู้อื่นหามีผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรไม่ (ไม่ได้ความว่าจำเลยรู้มาก่อนว่าโคเป็นของผู้เสียหาย)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมกระทงความผิดทางอาญาและการถอนฟ้องของผู้เสียหาย ศาลฎีกาแก้โทษจำเลยเหลือความผิดฐานฉุดคร่าอนาจารเพียงกระทงเดียว
ศาลอุทธรณ์พิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 243 และ 276 เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์หรือยอมความกับจำเลยสำหรับความผิดตาม ม.243 แล้ว ศาลฎีกาพิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตาม ม.246 เพียงกระทงเดียว และศาลฎีกา มีอำนาจกำหนดโทษสำหรับความผิดตาม ม.276 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนสัญชาติไทยจากกรณีการกระทำความผิดทางอาญาและการพิจารณาถึงสัญชาติเดิมของบิดามารดา
กรณีที่ผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักร แต่บิดาเป็นคนต่างด้าว กระทำผิด พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสารฯโดยบังอาจมีตั้งและใช้เครื่องส่งและรับวิทยุติดต่อกับต่างประเทศนั้น เป็นการกระทำอันเป็นเหตุที่ศาลจะสั่งให้ถอนสัญชาติไทยได้
มาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติซึ่งแก้ไข เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การได้สัญชาติโดยการเกิด หาได้หมายถึงเรื่องที่จะสั่งถอนสัญชาติตามมาตรา 16 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติไม่
มาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติซึ่งแก้ไข เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การได้สัญชาติโดยการเกิด หาได้หมายถึงเรื่องที่จะสั่งถอนสัญชาติตามมาตรา 16 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญา: การกระทำโดยไม่ได้เจตนาจากอาการลมบ้าหมู
ปืนลั่นจากมือจำเลยในขณะที่จำเลยกำลังเป็นลมบ้าหมูไม่รู้สึกตัวไปถูกผู้เสียหายเข้า จำเลยไม่มีผิดฐานพยายามฆ่าคนหรือทำร้ายร่างกาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
การที่จำเลยถูกผู้เสียหายไล่ออกจากงาน รุ่งขึ้นกลับมาหาผู้เสียหายและซื้อเหล็กแหลมรูปสามเหลี่ยมยาวคืบเศษพกติดมาด้วยและได้ใช้แทงผู้เสียหายขณะที่ไม่รู้ตัวถูกสีข้างซ้ายโดยแรงทะลุเข้าช่วงท้องไปถูกม้ามถึงต้องตัดม้ามออกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตาย ที่ไม่ตายก็เพราะได้รับการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงต้องผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ม.249,60.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญาจากการขุดดินรุกล้ำทางหลวง: การจำกัดสิทธิในการอุทธรณ์และการฎีกา
การที่ขุดพื้นดินยกคันนาล้ำทางหลวงย่อมเป็นความผิดตามมาตรา 336(13) หาใช่ตาม มาตรา 336(2) ไม่
เมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามมาตราหนึ่งโจทก์มิได้อุทธรณ์คดีจึงเป็นอันยุติ โจทก์จะฎีกาต่อมาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานั้นหาได้ไม่
เมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามมาตราหนึ่งโจทก์มิได้อุทธรณ์คดีจึงเป็นอันยุติ โจทก์จะฎีกาต่อมาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานั้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดทางอาญา: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนและการสมคบเพื่อกระทำความผิดทางอาญา
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิงจนมีคนวิ่งมาร้องถาม ชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้น ขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอก ทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไป พฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วางเพลิงรถทำให้ถึงแก่ความตาย: ความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 185 และ 187
จำเลยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจุดเผารถยนต์ของผู้อื่นซึ่งมีคนนอนอยู่เป็นเหตุให้รถนั้นเสียหาย และไฟไหม้คนที่นอนในรถนั้นตาย ดังนี้จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 185 และ 187 ตอน 2 อันบัญญัติให้ระวางโทษตามมาตรา 186 ตอนท้าย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2475 มาตรา 4-5 อันเป็นความผิดหลายบท ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 187 ตอน 2 ประกอบด้วยมาตรา 186 ตอนท้ายซึ่งเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสั่งห้ามประกอบการค้าระหว่างการดำเนินคดีอาญา: ต้องมีมูลความผิดทางอาญาเสียก่อน
จำเลยประกอบการเลื่อยไม้อันเป็นการค้าประเภทต้องควบคุมตามประกาศใช้เทศบัญญัติ ฯโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ โจทก์จะฟ้องทางแพ่งขอให้ศาลสั่งห้ามโดยอาศัยอำนาจความในพ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 68 โดยไม่ปรากฎว่าจำเลยทำผิดรับโทษทางอาญาความมาตรานี้อย่างใดดังนี้เท่ากับขอให้สั่งห้ามไปก่อนโดยลำพัง (โดยไม่ปรากฎความผิด)เช่นนี้ เป็นคำขอที่ไม่ชอบ