พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรม การครอบครองอาวุธปืนและพยายามลักลอบออกนอกราชอาณาจักร ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ใช่ต่างกรรมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงคือกระทำความผิด ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่กรรมหนึ่ง และกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรโดยพยายามลักลอบนำโลหะรูปกวางและอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนออกนอกราชอาณาจักรอีกกรรมหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ จำเลยรับสารภาพ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกันโดยแยกเป็น 2 ข้อ คือ ฐานบุกรุกและฐานทำให้เสียทรัพย์ ทั้งจำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้อง ซึ่งถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดทั้ง 2 ฐาน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนสงครามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้มีไว้ในวันเวลาเดียวกัน
มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามกฎหมายบัญญัติบทความผิดและบทลงโทษไว้คนละ มาตรา ย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่ามีความประสงค์ที่จะแยก ความผิด 2 ฐานนี้ออกจากกันทั้งวัตถุของกลางก็เป็นคนละประเภทแสดงว่าเจตนามีไว้แตกต่างกัน และความผิดแต่ละประเภทสำเร็จแล้วนับแต่มีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีไว้ ในวันเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาของนิติบุคคลจากการละเมิดประมวลรัษฎากรและการแยกความผิดแต่ละกรรม
เมื่อฟ้องโจทก์ตอนแรกได้บรรยายว่า จำเลยจัดให้มีการฉายภาพยนตร์ เพื่อเก็บเงินจากผู้ซื้อตั๋วเข้าชมภาพยนตร์จำเลยได้กระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทง และได้บรรยายการกระทำตามข้อ (ก)(ข)(ค)และ(ง) กับอ้างมาตราในประมวลรัษฎากร ซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดฟ้องโจทก์จึงได้บรรยายแล้วว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดตามฟ้องแต่ผู้เดียวและโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทุกกระทงความผิดดังนั้น แม้ฟ้องข้อ (ข) บรรยายว่าพนักงานของจำเลยที่ได้รับแต่งตั้งจากจำเลยเป็นผู้ฉีกตั๋วและข้อ (ค) บรรยายว่าพนักงานของจำเลยไม่นำกากตั๋วใส่ภาชนะโดยไม่กล่าวถึงจำเลยก็พอเห็นได้ว่าการกระทำของพนักงานของจำเลยผู้ได้รับแต่งตั้งจากจำเลย เป็นการกระทำของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของผู้จัดให้มีมหรสพและผู้รับผิดชอบดำเนินการมหรสพนั้นเอง ทั้งข้อเท็จจริงก็ ฟังได้ว่า จำเลยได้กระทำผิดโดยผู้ได้รับแต่งตั้งจากจำเลยให้คอยรับตั๋วจากผู้ดู ไม่ฉีกตั๋วที่ได้รับจากผู้ดูแล้วไม่นำกากตั๋วใส่ภาชนะ ทันที อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลรัษฎากร โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้ จำเลยรับผิดทางอาญาได้
จำเลยจำหน่ายตั๋วเข้าชมภาพยนตร์โดยมิได้ปิดอากรมหรสพ 346ฉบับ ไม่ฉีกอากรมหรสพที่ปิดทับบนตั๋วให้ขาดเป็นสองตอน 7 ฉบับ และไม่นำกากตั๋วใส่ภาชนะทันที 143 ฉบับ เมื่อการเสียอากรมหรสพ ต้องเสียเป็นรายตัวผู้ดูตามประมวลรัษฎากร มาตรา 132 การกระทำของจำเลยดังกล่าวก็เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียอากรตั๋วทุก ๆ ฉบับแม้ จะกระทำต่อเนื่องในการฉายภาพยนตร์รอบเดียวก็ตามแต่ก็แยกการกระทำออกจากกันได้ตามตั๋วแต่ละฉบับ จึงเป็นความผิดหลายกรรม ต่างกันรวม 496 กระทง หาใช่เป็นความผิดเพียง 3 กระทงไม่
จำเลยจำหน่ายตั๋วเข้าชมภาพยนตร์โดยมิได้ปิดอากรมหรสพ 346ฉบับ ไม่ฉีกอากรมหรสพที่ปิดทับบนตั๋วให้ขาดเป็นสองตอน 7 ฉบับ และไม่นำกากตั๋วใส่ภาชนะทันที 143 ฉบับ เมื่อการเสียอากรมหรสพ ต้องเสียเป็นรายตัวผู้ดูตามประมวลรัษฎากร มาตรา 132 การกระทำของจำเลยดังกล่าวก็เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียอากรตั๋วทุก ๆ ฉบับแม้ จะกระทำต่อเนื่องในการฉายภาพยนตร์รอบเดียวก็ตามแต่ก็แยกการกระทำออกจากกันได้ตามตั๋วแต่ละฉบับ จึงเป็นความผิดหลายกรรม ต่างกันรวม 496 กระทง หาใช่เป็นความผิดเพียง 3 กระทงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่อเรียกค่าไถ่ ความผิดตามมาตรา 313, 316, และ 317 ไม่เป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยกับพวกร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุ 4 ปี ไปจากมารดาผู้ปกครอง และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เยาว์ไว้เพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่เป็นความผิดหลายบท คือตามมาตรา 313 ประกอบด้วยมาตรา 316 บทหนึ่ง และตามมาตรา 317 อีกบทหนึ่ง มิใช่เป็นความผิดหลายกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี: การพิจารณาความผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลยเขียนเช็คซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินรวม 9 ฉบับชำระหนี้ให้โจทก์ โดยลงวันออกเช็คแต่ละฉบับแตกต่างกัน แม้บางฉบับจะลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและเช็คทุกฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันเดียวกันก็ตาม แต่จำเลยมีเจตนาที่จะให้ธนาคารใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้เจตนาเดียวกัน: พรากผู้เยาว์ + พาไปเพื่ออนาจาร
การกระทำครั้งเดียวคราวเดียว แม้จะมีเจตนาอย่างเดียวกัน แต่ประสงค์ให้เกิดผลเป็นความผิดหลายฐาน ย่อมเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยพานางสาว บ.ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ.ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
การที่จำเลยพานางสาว บ.ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ.ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: พรากผู้เยาว์และการพาไปเพื่อการอนาจาร แม้เกิดจากการกระทำครั้งเดียว
การกระทำครั้งเดียวคราวเดียว แม้จะมีเจตนาอย่างเดียวกันแต่ประสงค์ให้เกิดผลเป็นความผิดหลายฐาน ย่อมเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยพานางสาว บ. ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ. ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
การที่จำเลยพานางสาว บ. ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ. ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายกรรมต่างกันในคดีอากร โดยจำเลยรับสารภาพ ศาลอุทธรณ์ลงโทษทุกกรรมได้ชอบ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยทั้งสามบังอาจร่วมกันอนุญาตให้ผู้ดูซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับยกเว้นอากรมหรสพเข้าดูภาพยนตร์ โดยไม่เสียอากรมหรสพในชั้นราคา 8 บาท จำนวน 204 คนๆละ 1 ครั้ง กับในชั้นราคา 10 บาท จำนวน 21 คน คนละ 1 ครั้ง รวม 225 คน 225 ครั้ง เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2517 ระหว่างเวลา 10 นาฬิกา ถึง 21 นาฬิกา ดังนี้ เห็นได้ว่าฟ้องโจทก์บรรยายชัดเจนแล้วว่าจำเลยทั้งสามกระทำความหลายกรรมต่างกัน จำเลยทั้งสามรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจึงต้องลงโทษจำเลยเป็น 225 กระทง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายกรรมต่างกันจากการไม่เก็บอากรมหรสพ ศาลอุทธรณ์ลงโทษทุกกรรมได้ชอบแล้ว
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยทั้งสามบังอาจร่วมกันอนุญาตให้ผู้ดูซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับยกเว้นอากรมหรสพเข้าดูภาพยนตร์โดยไม่เสียอากรมหรสพในชั้นราคา 8 บาท จำนวน 204 คน ๆ ละ 1 ครั้งกับในชั้นราคา 10 บาท จำนวน 21 คน คนละ 1 ครั้ง รวม 225 คน225 ครั้ง เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2517 ระหว่างเวลา 10 นาฬิกา ถึง21 นาฬิกา ดังนี้ เห็นได้ว่าฟ้องโจทก์บรรยายชัดเจนแล้วว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน จำเลยทั้งสามรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจึงต้องลงโทษจำเลยเป็น 225 กระทง