คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำรับสารภาพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 439 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจากคำรับสารภาพชั้นจับกุมที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา และการพิจารณาโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยมีเหตุบรรเทา
ศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลดโทษแก่จำเลยในแต่ละกระทงความผิด และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกระทงละห้าปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาขออย่าให้ลดโทษให้แก่จำเลย เป็นฎีกาดุลพินิจ ของศาลซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 จำเลยรับสารภาพชั้นจับกุมเพราะจำนนต่อหลักฐานแต่ในชั้นสอบสวนและในชั้นพิจารณาให้การปฏิเสธ ดังนี้คำรับในชั้นจับกุมของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาไม่มีเหตุที่จะลดโทษให้แก่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจากคำรับสารภาพชั้นจับกุมที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา และการพิจารณาโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยคำนึงถึงเหตุผลและความน่าเห็นใจ
ศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลดโทษแก่จำเลยในแต่ละกระทงความผิด และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกระทงละห้าปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาขออย่าให้ลดโทษให้แก่จำเลย เป็นฎีกาดุลพินิจของศาลซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยรับสารภาพชั้นจับกุมเพราะจำนนต่อหลักฐานแต่ในชั้นสอบสวนและในชั้นพิจารณาให้การปฏิเสธ ดังนี้คำรับในชั้นจับกุมของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาไม่มีเหตุที่จะลดโทษให้แก่จำเลย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีและเหตุอันควรปราณี ลดโทษอาญาได้
คดีไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุฆ่าผู้ตาย แต่จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพและนำชี้ที่เกิดเหตุ จึงทำให้พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เช่น อาวุธปืนที่ใช้ยิงผู้ตายและรถจักรยานยนต์ที่จำเลยใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิดได้คำรับสารภาพของจำเลยทั้งสามจึงถือได้ว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอย่างมาก นับว่าเป็นเหตุอันควรปราณีแก่จำเลยทั้งสามได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพเพียงพอต่อการลงโทษจำเลยในคดีข่มขืนฆ่า
โจทก์มีพยาน 1 ปากที่เห็นเหตุการณ์ขณะชาย คนหนึ่งวิ่งไล่เด็กผู้หญิงไป และในมือข้างขวาของชาย ผู้นั้นมีวัตถุยาวประมาณ 1ศอกเศษพยานได้ยิน เสียงเด็กผู้หญิงร้องว่า "กูจะบอกพ่อกู" จุดที่พยานยืนดู เหตุการณ์อยู่นั้น ห่างจากที่คนทั้งสองวิ่งไล่กันประมาณ200-300เมตร พยานจึงไม่สามารถจำได้ว่าเป็นใคร แต่ระยะเวลาที่พยานว่าเห็นเหตุการณ์ตรงกับเวลาที่เกิดเหตุพอดี ชาย ที่วิ่งไล่เด็กผู้หญิงไปก็สวมเสื้อผ้าเช่นเดียวกับที่พยานพบจำเลยหลังเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย ซึ่งเมื่อนำไปพิจารณาประกอบกับรายละเอียดในคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว ฟังลงโทษจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพประกอบพยานหลักฐานอื่น ฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานข่มขืนและฆ่า
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์ขณะจำเลยข่มขืนและฆ่าเด็กหญิง พ. แต่โจทก์มีพยานมาเบิกความว่าเห็นชายคนหนึ่งวิ่งไล่เด็กผู้หญิง พยานจำไม่ได้ว่าเป็นใครเพราะยืนดูอยู่ห่าง ปรากฏว่าเวลาที่พยานเห็นเหตุการณ์นั้นตรงกับเวลาที่เกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุเล็กน้อยพยานได้พบจำเลยอยู่ตรงบริเวณใกล้กับที่พบศพเด็กหญิง พ. จำเลยสวมเสื้อผ้าเช่นเดียวกับเสื้อผ้าของชายที่วิ่งไล่เด็กผู้หญิง ทั้งพฤติการณ์ของชายและเด็กผู้หญิงที่พยานเห็นนั้นก็ตรงกับข้อเท็จจริงตามคำรับสารภาพของจำเลย ประกอบกับได้ความว่า การทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพของจำเลยนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยถามจำเลยทุกขั้นตอน และบางครั้งเมื่อผู้แสดงแทนผู้ตายทำไม่ถูก จำเลยก็บอกให้ทำใหม่ให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นเหตุผลแสดงว่าจำเลยได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ ดังนี้ ฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดตามฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา: พยานแวดล้อม, คำรับสารภาพ, และการพิสูจน์ความผิดฐานมีอาวุธปืน
เมื่อประจักษ์พยานโจทก์มาเบิกความต่อศาล แต่รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนร้าย คำเบิกความนั้นย่อมเป็นพยานชั้นหนึ่ง แม้คำให้การชั้นสอบสวนของประจักษ์พยานนั้นจะมีใจความว่า จำได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายก็เป็นเพียงพยานชั้นสอง ศาลต้องฟังคำเบิกความในชั้นพิจารณาเป็นสำคัญ
แม้คดีไม่มีประจักษ์พยาน ศาลก็รับฟังพยานแวดล้อมกรณีหลังเกิดเหตุของโจทก์ ประกอบกับคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยลงโทษจำเลยได้
เมื่อคดีฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนร้ายยิงผู้ตายในรถโดยสารประจำทางโดยไม่ปรากฏว่า จำเลยหยิบฉวยอาวุธปืนจากที่ใดในรถโดยสารประจำทางมายิงโดยปัจจุบันทันที ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่า จำเลยพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยต้องมีความผิดฐานพาอาวุธปืน ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ไม่มีอาวุธปืนอันเป็นวัตถุพยานมาแสดงเป็นหลักฐาน และไม่มีพยานมาพิสูจน์ความผิดว่าอาวุธปืนที่จำเลยยิงผู้ตายเป็นอาวุธปืนประเภทตามฟ้องหรือไม่ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพและการนำชี้ที่เกิดเหตุเป็นหลักฐานสำคัญในการพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์
แม้พยานโจทก์มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมจำเลยและพนักงานสอบสวนมาเบิกความประกอบคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและสอบสวนแต่จำเลยก็ไม่ได้อ้างตัวเองเป็นพยานปฏิเสธคำรับสารภาพดังกล่าว ทั้งยังนำชี้ที่เกิดเหตุ แสดงจุดที่ใช้เป็นช่องทางเข้าบ้านผู้เสียหาย งัดฝาบ้านเข้าไปลักทรัพย์ช่องทางเอาทรัพย์ออกจากบ้านผู้เสียหาย จุดที่ถอดขาตู้โทรทัศน์ทิ้งไว้ ตลอดจนช่องทางที่ออกจากบ้านผู้เสียหาย ตรงกับร่องรอยของคนร้าย ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยรับสารภาพในชั้นจับกุมและสวบสวนตามความสัตย์จริง และรับฟังลงโทษจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพและการนำชี้ที่เกิดเหตุเป็นหลักฐานสำคัญยืนยันความผิดของผู้ต้องหา
แม้พยานโจทก์มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมจำเลยและพนักงานสอบสวนมาเบิกความประกอบคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและสอบสวนแต่จำเลยก็ไม่ได้อ้างตัวเองเป็นพยานปฏิเสธคำรับสารภาพดังกล่าว ทั้งยังนำชี้ที่เกิดเหตุ แสดงจุดที่ใช้เป็นช่องทางเข้าบ้านผู้เสียหาย งัดฝาบ้านเข้าไปลักทรัพย์ช่องทางเอาทรัพย์ออกจากบ้านผู้เสียหาย จุดที่ถอดขาตู้โทรทัศน์ทิ้งไว้ ตลอดจนช่องทางที่ออกจากบ้านผู้เสียหาย ตรงกับร่องรอยของคนร้าย ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยรับสารภาพในชั้นจับกุมและสวบสวนตามความสัตย์จริง และรับฟังลงโทษจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานประกอบกันฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริง แม้พยานบอกเล่าและคำรับสารภาพในชั้นสอบสวนจะมีน้ำหนักน้อย
คำเบิกความซัดทอดของผู้มีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยเป็นคำพยานที่มีน้ำหนักน้อยโจทก์ต้องมีพยานอื่นประกอบจึงจะฟังลงโทษจำเลยได้ คำให้การของผู้เสียหายและประจักษ์พยานที่ให้ไว้ในชั้นสอบสวนรวมทั้งบันทึกการชี้ตัวจำเลยถือเป็นพยานบอกเล่าเมื่อไม่ได้ตัวผู้เสียหายและประจักษ์พยานมาเบิกความต่อศาลเพราะโจทก์ไม่สามารถติดตามตัวมาได้ย่อมเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักน้อยเช่นกันแต่เมื่อฟังประกอบกับคำเบิกความซัดทอดของผู้มีส่วนร่วมกระทำผิดและคำรับสารภาพในชั้นสอบสวนที่จำเลยได้ให้ไว้ด้วยความสมัครใจแล้วหากมีน้ำหนักฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงก็สามารถรับฟังลงโทษจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ – ความผิดอาญา – การพิสูจน์ความเสียหาย – พยานหลักฐาน – การรับฟังคำรับสารภาพ
จำเลยที่1เป็นพนักงานโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลมีหน้าที่ควบคุมการฆ่าสัตว์ให้ถูกต้องและเป็นไปตามใบควบคุมอาชญาบัตรไม่ควบคุมตรวจนับการฆ่าสุกรเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแต่ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายคือเทศบาลนั้นทางนำสืบพยานโจทก์ได้ความว่าเทศบาลไม่ได้รับความเสียหายประชาชนเป็นผู้ที่อาจได้รับความเสียหายจากการแพร่โรคจากสุกรที่ฆ่าโดยมิได้ตรวจโรคก่อนซึ่งเป็นการนำสืบนอกคำฟ้องการกระทำของจำเลยที่1จึงไม่เป็นความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาล ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่1มิได้เป็นผู้สั่งฆ่าหรือจัดการฆ่าจำเลยที่1จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่2ฆ่าสุกรตามฟ้องโจทก์มิได้อุทธรณ์ข้อหาตามความผิดนี้ย่อมยุติโจทก์ฎีกาไม่ได้ว่าจำเลยที่1ร่วมกับจำเลยที่2ฆ่าสุกร.
of 44