พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5923/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลให้ชำระค่าขึ้นศาลฎีกา ถือเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา
จำเลยที่ 1 เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาไม่ถูกต้อง เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่จากจำเลยให้ครบถ้วน และศาลชั้นต้นได้มีหมายแจ้งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่ยังขาดอยู่แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยไม่ยอมชำระ กรณีถือได้ว่า จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2), 246 และมาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5698/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการนำส่งฎีกา ทำให้ถูกวินิจฉัยเป็นการทิ้งฟ้อง
จำเลยยื่นฎีกาแแล้วไม่มานำส่งสำเนาฎีกาให้แก่โจทก์ตามกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่ง แม้จำเลยจะชำระค่าใช้จ่ายในการนำส่งไว้แล้วก็ไม่ทำให้จำเลยหมดหน้าที่ที่จะต้องจัดการนำส่งตามคำสั่งศาลชั้นต้น ทั้งเป็นการมาเสียค่าใช้จ่ายในการนำส่งเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามคำสั่งแล้วอีกด้วย จึงเป็นกรณีที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลชั้นต้น เป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือว่าจำเลยทิ้งฟ้องฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2), 246, 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทิ้งฟ้องฎีกาจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และสิทธิเรียกร้องค่าขาดแรงงานครัวเรือนที่ซ้ำซ้อนกับคดีอื่น
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ที่2และให้โจทก์ที่2นำส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยภายใน5วันไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิดหากส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงภายใน15วันนับแต่วันส่งไม่ได้มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้องฎีกา ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ที่2ให้นำฎีกามายื่นลงชื่อทราบคำสั่งแล้วถือว่าโจทก์ที่2ได้ทราบคำสั่งแล้วต่อมาพนักงานเดินหมายนำหมายส่งสำเนาฎีกาไปส่งให้แก่จำเลยที่1แต่ส่งไม่ได้โจทก์ที่2ไม่ได้แถลงต่อศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน15วันจึงเป็นการ ทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2) ค่าขาดแรงงานในครอบครัวที่ภริยาโจทก์ที่1ถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำละเมิดของจำเลยทั้งสามเมื่อโจทก์ที่2ซึ่งเป็นบุตรของโจทก์ที่1กับผู้ตายอาศัยอยู่บ้านเดียวกับโจทก์ที่1การที่โจทก์ที่1จ้างบุคคลอื่นมาทำงานแทนผู้ตายโจทก์ที่2ย่อมได้รับประโยชน์จากการทำงานของบุคคลอื่นนี้ด้วยทั้งโจทก์ที่2ก็มิได้จ้างบุคคลอื่นมาช่วยทำงานอีกเมื่อศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าเสียหายส่วนนี้แก่โจทก์ที่1แล้วความเสียหายของโจทก์ที่2ในส่วนนี้ย่อมหมดไปโจทก์ที่2ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5575/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการคัดค้านคำสั่งริบทรัพย์ในคดียาเสพติด: ผู้มีสิทธิคือผู้คัดค้านคำขอริบเท่านั้น
ผู้ที่จะขอให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาพิพากษากลับหรือแก้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ริบทรัพย์ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามคำขอของโจทก์ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดพ.ศ.2534มาตรา30,31คือผู้คัดค้านคำขอซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นเมื่อบุคคลดังกล่าวมิได้ยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาจำเลยซึ่งมิได้ร้องคัดค้านคำขอของโจทก์จึงไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์และฎีกาเกี่ยวกับเรื่องนี้การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้จึงไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5372/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์ ถือเป็นการทิ้งฟ้องตามมาตรา 174(2)
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 และมาตรา 236 ไม่ได้ห้ามมิให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งแก่อีกฝ่าย ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งให้อีกฝ่ายได้เพื่อให้อีกฝ่ายได้ทราบถึงข้ออุทธรณ์ซึ่งหากมีข้อคัดค้านอย่างใดก็จะได้แก้อุทธรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลเมื่อโจทก์ได้ทราบคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์แก่จำเลยโดยชอบแล้วแต่โจทก์ไม่ปฏิบัติตาม กรณีต้องด้วยมาตรา 174(2) ถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5372/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ถือเป็นการทิ้งฟ้อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา234และมาตรา236ไม่ได้ห้ามมิให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งแก่อีกฝ่ายศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งให้อีกฝ่ายได้เพื่อให้อีกฝ่ายได้ทราบถึงข้ออุทธรณ์ซึ่งหากมีข้อคัดค้านอย่างใดก็จะได้แก้อุทธรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลเมื่อโจทก์ทราบคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์แก่จำเลยโดยชอบแล้วแต่โจทก์ไม่ปฎิบัติตามกรณีต้องด้วยมาตรา134(2)ถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4984/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลและการชำระค่าธรรมเนียมศาลนอกกำหนดเวลา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2536 ว่า คดีผู้ร้องไม่มีมูล ให้ยกคำร้อง หากผู้ร้องประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 15 วัน เมื่อผู้ร้องไม่เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้น ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลอุทธรณ์ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งตาม ป.วิ.พ.มาตรา 156 วรรคท้าย แต่ผู้ร้องได้ยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้วและศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของผู้ร้อง ซึ่งผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่ง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 แต่ผู้ร้องหาได้กระทำไม่ คำสั่งศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2536 จึงยังคงมีผลบังคับต่อไปและย่อมเป็นอันถึงที่สุดการที่ผู้ร้องยื่นคำร้องในเวลาต่อมาต่อศาลชั้นต้นอ้างว่า พอที่จะรวบรวมเงินเป็นค่าธรรมเนียมศาลบางส่วนได้แล้ว ขอนำค่าธรรมเนียมศาลมาวางต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนดเวลา 10 วันนับแต่วันยื่นคำร้อง จึงเป็นการยื่นคำร้องเมื่อพ้นระยะเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้ว แม้พอถือได้ว่าเป็นการที่ผู้ร้องขอขยายระยะเวลานำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้น แต่ก็ไม่เข้ากรณีมีเหตุสุดวิสัยที่ศาลชั้นต้นจะสั่งอนุญาตตามคำขอของผู้ร้องได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 คดีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตและกำหนดเวลาให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเรื่องค่าขึ้นศาลถือเป็นการทิ้งฟ้อง
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ซึ่งเสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลใหม่อย่างคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องภายใน15 วัน โจทก์อุทธรณ์คำสั่งเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่า เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ จึงให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องมาวางศาลภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องนั้น เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาใหม่ให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลมาชำระเพื่อที่จะให้ดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นไปโดยชอบคำสั่งของศาลชั้นต้นเช่นนี้มิใช่คำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดคดี กรณีจึงไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144
แม้โจทก์จะเห็นว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ให้ครบภายในเวลาที่กำหนดอันเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไร โจทก์กระทำได้แต่เพียงโต้แย้งคำสั่งนั้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในโอกาสต่อไปเท่านั้น การที่โจทก์มีข้อโต้แย้งหรือเห็นว่าคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลแต่อย่างใด มิฉะนั้นการดำเนินกระบวนพิจารณาจะเป็นไปโดยไม่สะดวกและเรียบร้อย การกระทำของโจทก์จึงเป็นการทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2)
แม้โจทก์จะเห็นว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ให้ครบภายในเวลาที่กำหนดอันเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไร โจทก์กระทำได้แต่เพียงโต้แย้งคำสั่งนั้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในโอกาสต่อไปเท่านั้น การที่โจทก์มีข้อโต้แย้งหรือเห็นว่าคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลแต่อย่างใด มิฉะนั้นการดำเนินกระบวนพิจารณาจะเป็นไปโดยไม่สะดวกและเรียบร้อย การกระทำของโจทก์จึงเป็นการทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียค่าขึ้นศาลใหม่ในคดีมีทุนทรัพย์ และผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล การทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ซึ่งเสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลใหม่อย่างคดีมีทุนทรัพย์ภายใน15วันโจทก์อุทธรณ์คำสั่งเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาศาลฎีกามีคำสั่งว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ให้ยกคำร้องของโจทก์ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์และให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องมาวางศาลภายใน15วันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาใหม่ให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลมาชำระคำสั่งของศาลชั้นต้นเช่นนี้มิใช่คำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดคดีไม่ต้องด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา144 ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลใหม่ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องภายใน15วันโจทก์กลับแถลงขออนุญาตไม่เสียค่าขึ้นศาลก่อนโดยอ้างว่าจะอุทธรณ์ฎีกาต่อไปในภายหลังซึ่งศาลชั้นต้นไม่อนุญาตจนเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้วถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2) คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเติมเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาแม้โจทก์จะเป็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องอย่างไรโจทก์กระทำได้แต่เพียงโต้แย้งคำสั่งนั้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาในโอกาสต่อไปเท่านั้นการที่โจทก์มีข้อโต้แย้งหรือเห็นว่าคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3612/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการนำส่งหมายนัดชี้สองสถาน
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา182จะให้ศาลกำหนดวันชี้สองสถานโดยแจ้งให้คู่ความทราบแต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้โจทก์มีหน้าที่นำส่งหมายนัดโดยสั่งในวันที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้สั่งว่าจำเลยที่1ขาดนัดยื่นคำให้การประกอบกับมาตรา70ก็ให้อำนาจศาลที่จะสั่งให้โจทก์มีหน้าที่นำส่งหมายนัดได้จึงต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วศาลไม่จำต้องแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้โจทก์ทราบอีก จำเลยทั้งหกไม่ทราบวันนัดชี้สองสถานเพราะโจทก์ไม่ได้นำส่งหมายนัดชี้สองสถานตามคำสั่งศาลย่อมทำให้กระบวนพิจารณาเสียไปโดยศาลไม่อาจทำการชี้สองสถานในวันนัดนั้นได้การที่โจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลดังกล่าวโดยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดย่อมเป็นการทิ้งฟ้องตามมาตรา174(2) การทิ้งฟ้องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้คืนค่าธรรมเนียมศาลเหมือนกรณีที่ศาลไม่รับคำฟ้องหรือถอนฟ้องหรือยอมความกันตามมาตรา151การที่ศาลไม่สั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลแก่โจทก์จึงชอบแล้ว