พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม้ลงมือเพียงครั้งเดียว โดยไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันตัวหรือบันดาลโทสะได้
เมื่อผู้ตายล้มลงและจอบหลุดจากมือ ผู้ตายไม่อาจจะทำร้ายจำเลยได้การที่จำเลยได้ใช้จอบของผู้ตายตีผู้ตายขณะล้มนอนอยู่ จนกะโหลกศีรษะแตก แสดงว่าตีโดยแรง แม้ตีเพียง 1 ที ก็ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จะอ้างว่ากระทำเพื่อเป็นการป้องกันตัวไม่ได้
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยเปิดน้ำในนาของผู้ตายจนแห้งเพื่อนำเข้าไปใช้ในนาของจำเลย เมื่อผู้ตายมาด่าและท้าจำเลย จำเลยทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จะอ้างว่ากระทำไปโดยบันดาลโทสะไม่ได้
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยเปิดน้ำในนาของผู้ตายจนแห้งเพื่อนำเข้าไปใช้ในนาของจำเลย เมื่อผู้ตายมาด่าและท้าจำเลย จำเลยทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จะอ้างว่ากระทำไปโดยบันดาลโทสะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้มีดแทงอวัยวะสำคัญ ผู้กระทำผิดมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมใบมีดกว้าง 11/2 เซนติเมตร ยาว 81/2 เซนติเมตรรวมทั้งด้ามยาว 1 คืบ แทงผู้เสียหายที่ท้องอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญจนตับฉีกขาด พร้อมกับพูดว่า"ลุง ฆ่าเสียเถิด" ประกอบกับนายแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลว่าตับฉีกนี้ ถ้าไม่รักษาให้ทันท่วงที จะมีเลือดออกทำให้ช่องท้องอักเสบ อาจทำให้ถึงตายได้ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ และขอบเขตการฟ้องร้องผู้สนับสนุน
จำเลยโกรธผู้เสียหาย ถือปืนไปท้ายิงผู้เสียหายที่เรือนผู้เสียหายผู้เสียหายเดินถือเสียมลงจากเรือนมาหาจำเลยในลักษณะที่จะต่อสู้กับจำเลย ต่อจากนั้นจำเลยได้ใช้ปืนยิงผู้เสียหายเช่นนี้ เป็นเรื่องสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้กัน จำเลยจะอ้างว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวหาได้ไม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยสองคนร่วมกันเป็นตัวการ ใช้ปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า ผู้เสียหายไม่ตายสมดังเจตนาของจำเลยทั้งสองให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289, 80, 83แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าขณะที่จำเลยที่ 1กำลังทะเลาะกับผู้เสียหายก่อนลงมือยิงนั้น จำเลยที่ 2 พูดยุให้จำเลยที่ 1 ยิง เมื่อโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยที่ 2 ยุยงส่งเสริมให้จำเลยที่ 1 ยิงผู้เสียหายกับทั้งมิได้อ้างมาตรา 84 มาในฟ้องด้วย เช่นนี้ ศาลย่อมจะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดตามข้อเท็จจริงที่โจทก์สืบได้นั้นไม่ได้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยสองคนร่วมกันเป็นตัวการ ใช้ปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า ผู้เสียหายไม่ตายสมดังเจตนาของจำเลยทั้งสองให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289, 80, 83แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าขณะที่จำเลยที่ 1กำลังทะเลาะกับผู้เสียหายก่อนลงมือยิงนั้น จำเลยที่ 2 พูดยุให้จำเลยที่ 1 ยิง เมื่อโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยที่ 2 ยุยงส่งเสริมให้จำเลยที่ 1 ยิงผู้เสียหายกับทั้งมิได้อ้างมาตรา 84 มาในฟ้องด้วย เช่นนี้ ศาลย่อมจะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดตามข้อเท็จจริงที่โจทก์สืบได้นั้นไม่ได้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2223/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม้การกระทำจะมุ่งร้ายต่อผู้อื่น แต่พลาดไปถูกผู้ตาย ศาลไม่ถือว่าแตกต่างจากฟ้อง
ฟ้องว่า จำเลยตีผู้ตายได้รับอันตรายแก่กายและยิงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 295 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยตีผู้ตายไม่ถึงกับได้รับอันตรายแก่กาย แล้ว ก. เข้าห้ามจำเลยจึงยิง ก. แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้ดังนี้ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันจะเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องฐานฆ่าผู้อื่น(อ้างฎีกาที่ 784/2509) และการกระทำของจำเลยเป็นความผิด 2 กระทงตามมาตรา 391 และมาตรา 288, 60 ไม่ใช่ 2 บท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ และเจตนาฆ่า การจำคุกในข้อหาฆ่าผู้อื่น
จำเลยมาทวงปืนของจำเลยจากผู้ตายซึ่งจำเลยแน่ใจว่าผู้ตายเป็นคนเอามา ผู้ตายใช้มีดพกปลายแหลมแทงจำเลยแต่ไม่ถูกจำเลยใช้มีดเหลียนฟันผู้ตาย 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายหันกลับมาจะทำร้ายจำเลยจนผู้ตายแขนขาดทั้งสองข้าง และมีบาดแผลที่อื่นอีกหลายแห่งถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันและการที่จำเลยฟันผู้ตายหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ด้วยเจตนาจะฟันผู้ตายให้ถึงแก่ความตายเท่านั้น ไม่เป็นการฆ่าโดยกระทำทารุณโหดร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงรุนแรง ลดหย่อนโทษอาญา ฆ่าผู้อื่น
จำเลยอยู่กับผู้ตายซึ่งเป็นมารดาเลี้ยง จำเลยขอเงินผู้ตายเพื่อเอาไปให้หมอเป็นค่ารักษาไข้ ผู้ตายไม่ให้ และด่าจำเลยว่าลูกหมา ชาติหมา แล้วผู้ตายขึ้นไปชั้นบนถือปืนลูกซองลงมาจ้องจะยิงจำเลย จำเลยใช้มือซ้ายจับปากกระบอกปืนและใช้มือขวาจับด้ามขวาน เหวี่ยงสันขวานไปที่ขมับซ้ายของผู้ตาย ผู้ตายปล่อยปืนล้มนอนหงาย จำเลยแย่งปืนจากผู้ตายไว้ ขณะนั้นผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรเลย และไม่มีโอกาสทำร้ายจำเลยได้อีกแล้ว จำเลยยังใช้ปืนยิงผู้ตายถึง 2 นัดที่หน้าอกและศีรษะและยังใช้สันขวานทุบศีรษะผู้ตายอีก โดยกระทำไปด้วยความโกรธ พฤติการณ์เช่นนี้ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายที่จำเลยได้รับผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่การที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยดังกล่าวแล้วและเอาปืนมาจ้องจะยิงจำเลย ข่มเหงจำเลยทั้งๆ ที่จำเลยหลบไปข้างประตู ผู้ตายยังถือปืนตามไปจ้องจะยิงจำเลยอีกจำเลยแย่งปืนได้ จึงใช้ปืนนั้นยิงและใช้ขวานทุบผู้ตาย ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม แม้จำเลยจะมิได้ยกเหตุนี้ขึ้นต่อสู้ ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา: การพิสูจน์เจตนาจากพฤติการณ์ร่วมกัน
จำเลยสองคนกับพวกอีกหนึ่งคนมีอาวุธปืนทุกคนขึ้นไปบนเรือนผู้ตายพร้อมกันและไปยืนอยู่ด้วยกันพร้อมที่จะช่วยเหลือกันได้ จำเลยคนหนึ่งยิงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็พากันลงเรือนวิ่งหนีไปพร้อมกันในทางเดียวกัน พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยทั้งสองกับพวกได้ตั้งใจร่วมกันในการจะไปยิงผู้ตาย ถือว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2740/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและเหตุบันดาลโทสะ: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นจากการโกรธจากการถูกไล่ออกจากโรงเรียน
แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายแต่โจทก์มีพยานแวดล้อมกรณี และชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ โดยไม่มีข้อต่อสู้ใดๆ ทั้งได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับให้พนักงานสอบสวนทำแผนที่และบันทึกไว้ดังนี้ ศาลรับฟังคำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนประกอบกับพยานแวดล้อมกรณีดังกล่าวแล้วได้ว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า
โรงเรียนเป็นของบุตรผู้ตายโดยผู้ตายทำการเป็นเจ้าของโรงเรียนอยู่ เมื่อผู้ตายไม่ชอบจำเลย ก็ย่อมจะให้จำเลยออกจากโรงเรียนได้ การที่ผู้ตายบอกให้จำเลยออกไปจากโรงเรียนทันที เป็นการใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยโกรธที่ถูกผู้ตายออกปากไล่ออกไปจากโรงเรียนในเดี๋ยวนั้น จึงหยิบปืนในกระเป๋าถือยิงผู้ตายไปทันทีดังนี้ การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำลงโดยบันดาลโทสะ อันจะได้ลดโทษตามกฎหมาย
โรงเรียนเป็นของบุตรผู้ตายโดยผู้ตายทำการเป็นเจ้าของโรงเรียนอยู่ เมื่อผู้ตายไม่ชอบจำเลย ก็ย่อมจะให้จำเลยออกจากโรงเรียนได้ การที่ผู้ตายบอกให้จำเลยออกไปจากโรงเรียนทันที เป็นการใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยโกรธที่ถูกผู้ตายออกปากไล่ออกไปจากโรงเรียนในเดี๋ยวนั้น จึงหยิบปืนในกระเป๋าถือยิงผู้ตายไปทันทีดังนี้ การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำลงโดยบันดาลโทสะ อันจะได้ลดโทษตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงน้ำใจ: การพิจารณาโทษจำคุกคดีฆ่าผู้อื่น
ผู้ตายเคยลวนลามภรรยาจำเลยมาแล้วครั้งหนึ่ง วันเกิดเหตุจำเลยกลับจากเก็บถั่วขึ้นไปห้างไร่ของจำเลย เห็นผู้ตายกำลังกอดรั้งตัวภรรยาจำเลยอยู่ จำเลยเกิดโทสะพอจำเลยร้องว่าผู้ตาย ผู้ตายก็ผละออกกระโดดหนีลงจากห้างไร่จำเลยคว้าได้ปืนยาวที่พิงไว้ข้างฝาลงบันไดตามไปยิงผู้ตายที่พื้นดิน ซึ่งขณะนั้นเดินออกไปห่างจากห้างไร่ 3 วากระสุนปืนถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้จะให้การรับสารภาพแล้วเบิกความปฏิเสธ ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์ที่ร่วมกันก่อเหตุ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกที่หลบหนี ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องก็อ้างตนเองเข้าเบิกความเป็นพยานว่าไม่ได้กระทำผิด โดยไม่ต้องถอนคำให้การเดิมได้
ผู้ตายเป็นหลานของ ท. ท. กับสามีไปทวงหนี้จากสามีจำเลยเกิดทะเลาะกันจนเกือบต่อสู้กัน ผู้ตายเข้าห้ามและว่าให้ไปพูดกันที่บ้านสามีจำเลย เมื่อไปพูดกันก็ทะเลาะกันอีกผู้ตายเข้าห้ามไว้อีกเมื่อผู้ตายกลับบ้านแล้ว หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง จำเลยกับสามีและชายอีกคนหนึ่งมาร้องถามหาผู้ตาย พอผู้ตายออกมา ชายที่มากับจำเลยถามว่าคนไหนคือผู้ตาย จำเลยชี้มือบอก ชายคนนั้นก็ยิงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปทางเดียวกัน ถือว่าจำเลยร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้ตาย
ผู้ตายเป็นหลานของ ท. ท. กับสามีไปทวงหนี้จากสามีจำเลยเกิดทะเลาะกันจนเกือบต่อสู้กัน ผู้ตายเข้าห้ามและว่าให้ไปพูดกันที่บ้านสามีจำเลย เมื่อไปพูดกันก็ทะเลาะกันอีกผู้ตายเข้าห้ามไว้อีกเมื่อผู้ตายกลับบ้านแล้ว หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง จำเลยกับสามีและชายอีกคนหนึ่งมาร้องถามหาผู้ตาย พอผู้ตายออกมา ชายที่มากับจำเลยถามว่าคนไหนคือผู้ตาย จำเลยชี้มือบอก ชายคนนั้นก็ยิงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปทางเดียวกัน ถือว่าจำเลยร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้ตาย