พบผลลัพธ์ทั้งหมด 305 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2131/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงชื่อในเอกสารโดยถูกหลอกลวงไม่เป็นนิติกรรม การโอนที่ดินเป็นโมฆะ
การที่ผู้ทำเอกสารเซ็นชื่อลงในกระดาษ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเอกสารเพื่อใช้ในกิจการอย่างหนึ่ง เพราะถูกหลอกลวงไม่เป็นการเจตนาทำนิติกรรมไม่มีผลผูกพันเจ้าของที่เซ็นชื่อประการใด เมื่อเอกสารเหล่านั้นไม่ผูกพันการโอนไปซึ่งกรรมสิทธิ์แห่งที่พิพาทที่อาศัยเอกสารเหล่านั้นดำเนินไปจึงไม่มีผลผูกพันผู้ลงชื่อในเอกสารเพราะถูกหลอกลวง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2131/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงชื่อในเอกสารโดยถูกหลอกลวง ไม่ถือเป็นนิติกรรม ไม่ก่อให้เกิดผลผูกพัน
การที่ผู้ทำเอกสารเซ็นชื่อลงในกระดาษ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเอกสารเพื่อใช้ในกิจการอย่างหนึ่ง เพราะถูกหลอกลวงไม่เป็นการเจตนาทำนิติกรรม ไม่มีผลผูกพันเจ้าของที่เซ็นชื่อประการใด เมื่อเอกสารเหล่านั้นไม่ผูกพัน การโอนไปซึ่งกรรมสิทธิ์แห่งที่พิพาทที่อาศัยเอกสารเหล่านั้นดำเนินไป จึงไม่มีผลผูกพันผู้ลงชื่อในเอกสารเพราะถูกหลอกลวง(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213-1215/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินของบริษัท: นิติกรรมถูกต้องหากอยู่ในวัตถุประสงค์และอำนาจกรรมการ
เอกสารสัญญากู้ซึ่งบริษัทจำกัดอันเป็นนิติบุคคลกู้เงินบุคคลอื่นมาหมุนเวียนในธุระกิจการค้าโดยทางกรรมการของบริษัทที่กระทำไปโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่และข้อบังคับทั้งข้อบังคับก็มิได้ระบุห้ามการกู้ยืมย่อมอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัทจึงเป็นนิติกรรมอันใช้บังคับได้ตาม ก.ม.หาใช่เป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์ หรือส่วนตัวกรรมการผู้นั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213-1215/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินของบริษัท: นิติกรรมสมบูรณ์เมื่อทำตามข้อบังคับและอยู่ในวัตถุประสงค์
เอกสารสัญญากู้ซึ่งบริษัทจำกัดอันเป็นนิติบุคคลกู้เงินบุคคลอื่นมาหมุนเวียนในธุรกิจการค้า โดยทางกรรมการของบริษัทที่กระทำไปโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่และข้อบังคับ ทั้งข้อบังคับก็มิได้ระบุห้ามการกู้ยืม ย่อมอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัทจึงเป็นนิติกรรมอันใช้บังคับได้ตามกฎหมาย หาใช่เป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์หรือส่วนตัวกรรมการผู้นั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมเนื่องจากจำเลยสมคบกันเอาทรัพย์สินไปจากเจ้าหนี้ ทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
โจทก์กล่าวฟ้องว่าจำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ที่ 1 ไปโดยให้โจทก์ที่ 2 ค้ำประกัน และจำเลยที่ 1 ได้นำทะเบียนรถยนต์มีชื่อจำเลยที่ 1 มาหลอกโจทก์ทั้ง 2 ว่าเป็นของจำเลยที่ 1 แท้จริงรถคันนั้นจำเลยที่1 ซื้อผ่อนส่งจากบริษัทดีทแฮลม์ ยังผ่อนไม่หมดรถยังเป็นของบริษัทจำเลยที่ 2 ก็ทราบความดังนี้ดี แล้วจำเลยที่ 1 พาจำเลยที่ 2 ไปบริษัทชำระเงินที่ค้างผ่อนส่งแล้วให้บริษัทโอนใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของนอกจากรถคันนี้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินอย่างใดอีก
ตามฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้แสดงว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบตรงตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้
ตามฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้แสดงว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 เสียเปรียบตรงตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียกรรมนิติกรรม ไม่ต้องมีแบบพิธี เพียงแสดงเจตนาชัดเจน
การบอกล้างโมฆียกรรมนั้น มิต้องทำตามแบบพิธีอย่างใด ๆ เพียงแสดงเจตนาบอกล้างไปยังอีกฝ่ายหนึ่งก็พอแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบเพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบเพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียกรรมไม่จำเป็นต้องมีแบบพิธี เพียงแสดงเจตนาถึงพอ
การบอกล้างโมฆียกรรมนั้นมิต้องทำตามแบบพิธีอย่างใดๆเพียงแสดงเจตนาบอกล้างไปยังอีกฝ่ายหนึ่งก็พอแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมภริยาต้องได้รับความยินยอมจากสามี หากสามีไม่ยินยอม นิติกรรมเป็นโมฆียะและอาจตกเป็นโมฆะได้
นิติกรรมที่หญิงมีสามีไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมนั้นย่อมเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างแล้วก็ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 138
่การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้ว ผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ ฟังไม่ได้
่การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้ว ผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ ฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆียะของนิติกรรมที่ภริยาทำโดยสามีไม่รู้เห็น การบอกล้างทำให้ตกเป็นโมฆะ
นิติกรรมที่หญิงมีสามีไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมนั้นย่อมเป็นโมฆียะเมื่อสามีบอกล้างแล้วก็ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138
การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้วผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ฟังไม่ได้
การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้วผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงของนิติกรรมและการสืบพยานในคดีที่อ้างนิติกรรมอำพราง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กู้เงิน ฮ..ฮ. ให้โจทก์ทำสัญญาเป็นขายที่ดินให้ ฮ. ตกลงกันว่าโจทก์ใช้เงินกู้คืนแล้วฮ. โอนที่ดินคืนให้ โจทก์ใช้เงินแล้ว ฮ.ตายเสียกอนโอน จำเลยกลับอ้างว่า เป็นหุ้นส่วนเจ้าของที่ดินร่วมกับ ฮ. โจทก์จึงขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ ดังนี้ โจทก์นำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเอกสารสัญญาขายที่ดิน