พบผลลัพธ์ทั้งหมด 324 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดขวางเจ้าพนักงาน: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนเพียงพอให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ข้อหาฐานขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.119 เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเข้าแก้ไขขัดขวางและผลักไสอันเป็นการให้อุปการะแก่นายปั่นให้หนีไปได้จากการควบคุมของนายพูนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ควบคุมอยู่โดยชอบด้วยกฎหมายเช่นนี้เป็นการบรรยายความพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนในการบรรยายฟ้องคดีละเมิด: รายละเอียดปลีกย่อยไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้อง
ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด. จำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์โจทก์ ระบุความเสียหายว่า สินค้าที่บรรทุกรถยนต์มีพืชผลต่างๆ น้ำตาลและขวดเปล่า เสียหาย 12,350 บาท รถยนต์ชำรุดเสียหายค่าแรงงานฉุดลากจากคู ค่าลากจูงไปอู่ และค่าซ่อมรถ รวม 4,700 บาท ค่าเสื่อมราคา 1,600 บาท ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีพนันต้องชัดเจน หากฟ้องลักษณะหนึ่งแล้ว ศาลไม่อาจลงโทษฐานอื่นได้
เมื่อในฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏว่าได้บรรยายไว้ในที่ใดเลยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478
บัญชีก. หมายเลข 8 นอกจากนี้ในตอนท้ายฟ้องของโจทก์ยังยืนยันว่า 'ซึ่งการพนันดังกล่าวนี้ เป็นการพนันนอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 และมิใช่การพนันที่ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวงมหาดไทย' ดังนี้โจทก์ประสงค์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานเล่นการพนันฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 ทวิ จะลงโทษจำเลยตามบัญชีก. หมายเลข8 ไม่ได้
บัญชีก. หมายเลข 8 นอกจากนี้ในตอนท้ายฟ้องของโจทก์ยังยืนยันว่า 'ซึ่งการพนันดังกล่าวนี้ เป็นการพนันนอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 และมิใช่การพนันที่ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวงมหาดไทย' ดังนี้โจทก์ประสงค์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานเล่นการพนันฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 ทวิ จะลงโทษจำเลยตามบัญชีก. หมายเลข8 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994-1995/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และข้อจำกัดในการฎีกาในข้อเท็จจริง รวมถึงประเด็นการบรรยายฟ้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.251, 59 จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์ก็คงลงโทษตาม ม.251, 59 ดุจกัน แต่ให้จำคุก 4 ปี เช่นนี้เป็นกรณีแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1797-1798/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนในการบรรยายฟ้องคดีความเสียหายจากเรือชน การระบุความประมาทเลินเล่อของผู้กระทำผิดเป็นสำคัญ
ในคดีฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความประมาทเลินเล่อในทางแพ่งเมื่อได้บรรยายฟ้องพอให้เข้าใจได้ว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหามีอยู่อย่างไรแล้ว ก็ถือว่าไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายเรื่องเรือชนกัน เมื่อโจทก์กล่าวว่าเรือจำเลยแล่นกินทางเข้ามาแล้วตีวงมาชนเรือโจทก์ โดยความประมาทเลินเล่อของจำเลยดังนี้ ก็พอทำให้เข้าใจได้แล้วว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอยู่อย่างไร
ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายเรื่องเรือชนกัน เมื่อโจทก์กล่าวว่าเรือจำเลยแล่นกินทางเข้ามาแล้วตีวงมาชนเรือโจทก์ โดยความประมาทเลินเล่อของจำเลยดังนี้ ก็พอทำให้เข้าใจได้แล้วว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอยู่อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องอาญาต้องชัดเจนถึงเจตนา หากไม่ระบุเจตนาฆ่า แม้มีหัวเรื่องความผิดฐานฆ่า ก็ลงโทษไม่ได้ และการนับโทษต่อต้องมีหลักฐานชัดเจน
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยกับพวกได้สมคบกันมีอาวุธปืนและไม้ฆ้อนเป็นศาสตราวุธตียิงทำร้ายร่างกายนายกุ่นและนายมาเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้โดยจำเลยประสงค์จะเอาทรัพย์แล้วจำเลยกับพวกได้ปล้นเอาทรัพย์ของนายกุ่นนายมาไป ฯลฯ นายกุ่นได้ถึงแก่ความตายโดยพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ฯลฯ ดังนี้เห็นได้ชัดว่าฟ้องโจทก์บรรยายถึงแต่เรื่องปล้นทรัพย์และเจ้าทรัพย์ถูกทำร้ายมีบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้ระบุว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเจ้าทรัพย์เลย จะอ้างว่าโจทก์ได้ใส่หัวเรื่องในข้อหาฐานความผิดว่าสมคบกันทำการปล้นทรัพย์และฆ่าคนตายโดยเจตนามาประกอบฟ้องให้เข้าเกณฑ์ความผิดตาม ม.250 ก็ไม่ได้ เพราะหัวเรื่องนั้นไม่เรียกว่าบรรยายคำฟ้อง ดังนี้แม้โจทก์จะอ้างบทมาตรา 250 มาด้วยก็ดี ก็ลงโทษจำเลยตาม ม.250 ไม่ได้เพราะจำเลยเข้าใจข้อหาแต่เพียงว่าการปล้นทรัพย์ของจำเลยได้ทำให้เจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บสาหัส
เมื่อไม่ปรากฎในสำนวนเลยว่าจำเลยเป็นคน ๆ เดียวกับในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฎว่าได้ต้องโทษอยู่ในคดีดังกล่าว และจำเลยก็มิได้ให้การรับ ดังนี้จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
เมื่อไม่ปรากฎในสำนวนเลยว่าจำเลยเป็นคน ๆ เดียวกับในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฎว่าได้ต้องโทษอยู่ในคดีดังกล่าว และจำเลยก็มิได้ให้การรับ ดังนี้จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องอาญาต้องชัดเจนถึงเจตนา หากไม่ระบุเจตนาฆ่า แม้จะอ้างมาตรา 250 ก็ลงโทษไม่ได้ และการนับโทษต่อต้องมีหลักฐานชัดเจน
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยกับพวกได้สมคบกันมีอาวุธปืนและไม้ฆ้อนเป็นศาสตราวุธตียิงทำร้ายร่างกายนายกุ่นและนายมาเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้โดยจำเลยประสงค์จะเอาทรัพย์แล้วจำเลยกับพวกได้ปล้นเอาทรัพย์ของนายกุ่นนายมาไป ฯลฯนายกุ่นได้ถึงแก่ความตายโดยพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ฯลฯดังนี้เห็นได้ชัดว่าฟ้องโจทก์บรรยายถึงแต่เรื่องปล้นทรัพย์และเจ้าทรัพย์ถูกทำร้ายมีบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้ระบุว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเจ้าทรัพย์เลย จะอ้างว่าโจทก์ได้ใส่หัวเรื่องในข้อหาฐานความผิดว่าสมคบกันทำการปล้นทรัพย์และฆ่าคนตายโดยเจตนามาประกอบฟ้องให้เข้าเกณฑ์ความผิดตามมาตรา 250 ก็ไม่ได้ เพราะหัวเรื่องนั้นไม่เรียกว่าบรรยายฟ้อง ดังนี้แม้โจทก์จะอ้างบทมาตรา 250 มาด้วยก็ดี ก็ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 250 ไม่ได้ เพราะจำเลยเข้าใจข้อหาแต่เพียงว่าการปล้นทรัพย์ของจำเลยได้ทำให้เจ้าทรัพย์มีบาดเจ็บสาหัส
เมื่อไม่ปรากฏในสำนวนเลยว่าจำเลยเป็นคนคนเดียวกับในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฏว่าได้ต้องโทษอยู่ในคดีดังกล่าว และจำเลยก็มิได้ให้การรับ ดังนี้จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
เมื่อไม่ปรากฏในสำนวนเลยว่าจำเลยเป็นคนคนเดียวกับในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฏว่าได้ต้องโทษอยู่ในคดีดังกล่าว และจำเลยก็มิได้ให้การรับ ดังนี้จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานสมคบกันทำผิด ต้องมีการบรรยายฟ้องระบุการสมคบ หากไม่มีการบรรยายฟ้อง ศาลลงโทษฐานสมคบไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยแต่ละคนได้บังอาจใช้มีดแทงเขาตายโดยเจตนาจะฆ่า เมื่อนำสืบได้ว่าใครแทง ศาลก็ลงโทษเฉพาะผู้นั้น ส่วนที่โจทก์สืบได้เพียงว่าไปอยู่ในที่ วิวาทช่วยกลุ้มรุม แต่ไม่มีมีด ไม่มีพยานเห็นแทงจึงลงโทษไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องว่าสมคบกัน เพียงแต่อ้างกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 63 ฐานสมคบอย่างเดียวไม่พอ ลงโทษไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ศาลพิจารณาจากข้อความทั้งหมดประกอบกัน เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
การพิเคราะห์ฟ้องของโจทก์นั้นจะต้องพิจารณาข้อความที่โจทก์บรรยายไว้ทั้งหมดประกอบกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยวิ่งราวทรัพย์โจทก์ไปต่อหน้าเป็นเงิน 1,700 บาท
ดังนี้เรียกว่าโจทก์บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าทรัพย์ที่จำเลยทำการฉกฉวยไปนั้นเป็นเงิน จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยวิ่งราวทรัพย์โจทก์ไปต่อหน้าเป็นเงิน 1,700 บาท
ดังนี้เรียกว่าโจทก์บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าทรัพย์ที่จำเลยทำการฉกฉวยไปนั้นเป็นเงิน จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะและการพิสูจน์ความเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเป็นต้องบรรยายฟ้องและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน
การฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายมิฉะนั้นย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่