พบผลลัพธ์ทั้งหมด 292 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าที่ศาลพิจารณาเหตุทิ้งร้าง แม้หนังสือหย่าไม่สมบูรณ์
โจทก์ ( ภริยา ) ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลย ( สามี ) ไปจดทะเบียนการหย่ากับโจทก์ หากไม่สามารถไปก็ขอให้มีคำสั่งให้กรมการอำเภอจดทะเบียนการหย่าให้โจทก์ ทั้งนี้โดยโจทก์อ้างเหตุว่าโจทก์จำเลยทะเลาะกันแล้วตกลงหย่ากันโดยทำหนังสือหย่ากันแล้วจำเลยก็ได้ขนทรัพย์สิ่งของอพยพไปอยู่ภูมิลำเนาเดิมของจำเลย มิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์แต่อย่างใดเกิน 1 ปี ดังนี้ แม้หนังสือหย่าจะไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ศาลก็พิจารณาเหตุ ข้อที่ร้างเกิน 1 ปีเห็นเหตุหย่าได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตาย: ศาลต้องพิจารณาจากฟ้องและข้อเท็จจริงที่ได้ความ
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตาย แต่มิได้กล่าวยืนยันลงไปว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายแม้จะมีคำขอให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 มาด้วยและตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยฆ่าผู้ตาย ศาลก็ต้องฟังทางเป็นผลดีแก่จำเลยว่า จำเลยมิได้มีเจตนาจะฆ่าผู้ตายให้ตาย คงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญา: การเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเกี่ยวกับความผิดฐานฆ่าคนตายและชิงทรัพย์
โจทย์ฟ้องหาว่าจำเลยชิงทรัพย์และฆ่าคนตาย โดยเจตนา ขอให้ลงโทษ ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยเฉพาะฐานชิงทรัพย์ ส่วนฐานฆ่าคนตายเห็นว่าจำเลยไม่เจตนาฆ่า จึงไม่ลงโทษจำเลยในฐานนี้ โจทก์อุทธรณ์ขอให้ปล่อย แต่ศาลอุทธรณ์กลับเชื่อพยานฐานที่ของจำเลย จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งหมดดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาอีกไม่ได้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์จากสัญญาสมยอม: ศาลพิจารณาความประสงค์ของผู้ฟ้องที่จะตัดสิทธิจำเลยจากการได้รับส่วนเฉลี่ย
จำเลยสมยอมกันทำสัญญากู้แล้วนำมาฟ้องศาล ทำสัญญายอมความกันแล้วจำเลยผู้ชนะคดี มายื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้ยึดทรัพย์มา โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้เพิกถอนสัญญากู้ สัญญายอมความ อีกทั้งคำพิพากษาตามยอม และขอให้จำเลยถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เสียนั้นความประสงค์อันแท้จริงของโจทก์ ก็คือจะไม่ให้จำเลยมีสิทธิได้รับส่วนเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์ได้ยึดไว้ ฉะนั้นศาลจึงพิพากษาแต่เพียงว่า จำเลยจะอ้างสิทธิตามสัญญากู้และสัญญายอมความอีก ทั้งคำพิพากษาตามยอมในคดีที่สมยอมกันนั้นมาขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์ยึดในอีกคดีหนึ่งไม่ได้ไม่จำเป็นต้องเพิกถอนสัญญาตามคำขอของโจทก์ เพราะผลคำพิพากษาในคดีของจำเลยนั้นเป็นเรื่องระหว่างจำเลยด้วยกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องคดีอาญา: โจทก์จำกัดขอบเขตการลงโทษตามที่ฟ้อง ศาลต้องพิจารณาตามที่กล่าวโทษ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำลเยสมคบกันลักแตงกวาซึ่งปลูกไว้ในนา ขอให้ลงโทษตาม กงม.ลักษณะอาญามาตรา 292 ไม่ได้ขอมาตรา 293(11) มาด้วยต้องฟังว่า โจทก์ไม่ประสงคืที่จะให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 293 คงพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 292 ตามที่โจทก์ขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำฐานลักทรัพย์ แม้ระยะเวลาพ้นโทษก่อนหน้าเกิน 5 ปี ศาลมีอำนาจพิจารณาจากพฤติการณ์
จำเลยต้องโทษฐานลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้งตาม ม. 294 และ ม. 293 แม้ครั้งหลังจะเนิ่นนานเกิน 5 ปี จึงมาทำผิดฐานลักทรัพย์ตาม ม. 294 ในคดีนี้ ศาลก็ถือว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย และลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี ไม่ลงโทษกักกัน ศาลอุทธรณืแก้เฉพาะให้ส่งไปกักกันมีกำหนด 3 ปี จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
ศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี ไม่ลงโทษกักกัน ศาลอุทธรณืแก้เฉพาะให้ส่งไปกักกันมีกำหนด 3 ปี จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย: ศาลต้องพิจารณาความรุนแรงบาดเจ็บก่อนลงโทษ แม้ฟ้องก่อนครบ 20 วัน
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกินกว่า 20 วันโดยโจทก์ยื่นฟ้องเสียก่อนครบ 20 วัน นับจากวันเกิดเหตุ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบก่อนว่าจะถึงสาหัสจริงตามฟ้องหรือไม่ ศาลจะงดสืบพยานโจกท์และลงโทษจำเลยเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ให้บุคคลภายนอกไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ ศาลต้องพิจารณาประเด็นอื่นเพิ่มเติม
การที่เจ้าหนี้กับลูกหนี้ตกลงกันให้ลูกหนี้ชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก ไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ โดยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ กรณีต้องตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 374
หากคดียังมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปอีกแต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเสียศาลสูงย่อมสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่
หากคดียังมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปอีกแต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเสียศาลสูงย่อมสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ให้บุคคลภายนอกไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
การที่เจ้าหนี้กับลูกหนี้ตกลงกันให้ลูกหนี้ชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก ไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ โดยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ กรณีต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374
หากคดียังมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปอีกแต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเสีย ศาลสูงย่อมสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
หากคดียังมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปอีกแต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเสีย ศาลสูงย่อมสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดนอกคำฟ้องในคดีข่มขืนกระทำชำเรา การบรรยายฟ้องต้องชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อำนาจด้วยกำลังกายข่มขืนกระทำชำเราโจทก์จนสำเร็จความใคร่ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 243 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กอดโจทก์ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กอดโจทก์อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 วรรค 2