พบผลลัพธ์ทั้งหมด 248 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            คดีเลิกหุ้นส่วนไม่มีทุนทรัพย์: ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณา แม้เคยมีคำพิพากษายกฟ้องมาก่อน ไม่ขัดมาตรา 144/148
                        
                        โจทก์ฟ้องขอเลิกหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชี  ไม่ใช่เป็นเรื่องเรียกร้องทรัพย์สิน  หรือส่วนแบ่งอย่างใด  จึงเป็นคดีมีคำขอปลดเปลื้องทุกข์  อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรืออีกนัยหนึ่งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์  เพราะโจทก์ไม่ได้เรียกร้องทรัพย์สิน  และคดีก็ไม่ได้พิพาทกันว่าทรัพย์สินในหุ้นส่วนนี้มีอะไรบ้าง  คดีอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาได้
ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 144 เป็นเรื่องห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมที่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดแล้วใหม่อีก ส่วนมาตรา 148 ห้ามมิให้คู่ความฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวงๆพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มิได้อุทธรณ์คงนำคดีนั้นไปฟ้องยังศาลแพ่ง ศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องอีก
โดยวินิจฉัยว่า เป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง โจทก์จึงมายื่นฟ้องต่อศาลแขวงอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์มาฟ้องเป็นคดีใหม่ กรณีไม่ใช่มาตรา 144 และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 148 เพราะศาล-ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องอันเป็นมูลฟ้องนั้น ศาลแขวงต้องรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินคดีต่อไป
                                    ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 144 เป็นเรื่องห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมที่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดแล้วใหม่อีก ส่วนมาตรา 148 ห้ามมิให้คู่ความฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวงๆพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มิได้อุทธรณ์คงนำคดีนั้นไปฟ้องยังศาลแพ่ง ศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องอีก
โดยวินิจฉัยว่า เป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง โจทก์จึงมายื่นฟ้องต่อศาลแขวงอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์มาฟ้องเป็นคดีใหม่ กรณีไม่ใช่มาตรา 144 และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 148 เพราะศาล-ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องอันเป็นมูลฟ้องนั้น ศาลแขวงต้องรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินคดีต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2495
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลและฟ้องซ้ำ: คดีเลิกหุ้นส่วนที่ไม่เกินอำนาจศาลแขวง
                        
                        โจทก์ฟ้องขอเลิกหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชี ไม่ใช่เป็นเรื่องเรียกร้องทรัพย์สิน หรือส่วนแบ่งอย่างใด จึงเป็นคดีมีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรืออีกนัยหนึ่งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เพราะโจทก์ไม่ได้เรียกร้องทรัพย์สิน และคดีก็ไม่ได้พิพาทกันว่าทรัพย์สินในหุ้นส่วนนี้มีอะไรบ้างคดีอยู่ในอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144เป็นเรื่องห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมที่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดแล้วใหม่อีก ส่วนมาตรา148 ห้ามมิให้คู่ความมาฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวง ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มิได้อุทธรณ์คงนำคดีนั้นไปฟ้องยังศาลแพ่งศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องอีกโดยวินิจฉัยว่า เป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงโจทก์จึงมายื่นฟ้องต่อศาลแขวงอีกครั้งหนึ่งดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์มาฟ้องเป็นคดีใหม่กรณีไม่ใช่มาตรา 144 และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 148 เพราะศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องอันเป็นมูลฟ้องนั้นศาลแขวงต้องรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินคดีต่อไป
                                    ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144เป็นเรื่องห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมที่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดแล้วใหม่อีก ส่วนมาตรา148 ห้ามมิให้คู่ความมาฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวง ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์มิได้อุทธรณ์คงนำคดีนั้นไปฟ้องยังศาลแพ่งศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องอีกโดยวินิจฉัยว่า เป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงโจทก์จึงมายื่นฟ้องต่อศาลแขวงอีกครั้งหนึ่งดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์มาฟ้องเป็นคดีใหม่กรณีไม่ใช่มาตรา 144 และไม่ต้องห้ามตามมาตรา 148 เพราะศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องอันเป็นมูลฟ้องนั้นศาลแขวงต้องรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินคดีต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2494
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาล: คดีอาญาที่เกินอำนาจศาลแขวงแต่โจทก์ไม่โต้แย้ง จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกา
                        
                        คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 223,304 นั้นอยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม แม้หนังสือที่ปลอมจะเป็นหนังสือสำคัญอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 224,225 ซึ่งมีอัตราโทษเกินอำนาจศาลแขวงก็ดีก็เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นคดีที่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้อยู่นั่นเอง
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวงโจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
                                    ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวงโจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2493
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลแขวง: ความผิดหลายบท ใช้บทหนัก แม้บทเบาอยู่ในอำนาจ
                        
                        ในกรณีที่ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบทด้วยกันนั้น  หากพิจารณาได้ข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์แล้ว ศาลก็ต้องใช้อาญาที่เป็นบทหนักลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 70 ฉะนั้นเมื่อความผิดตามบทกฎหมายที่หนักนั้น เกินอำนาจศาลแขวงแม้ความผิดบทเบา จะอยู่ในอำนาจศาลแขวง  ศาลแขวงก็ต้องพิพากษายกฟ้องเสีย เพราะต้องถือว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2493
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลและการพิพาทกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน: คดีเกินอำนาจศาลแขวงเนื่องจากราคาเกินเกณฑ์
                        
                        โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเรือนพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของบิดา บิดาตาย จึงเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์  จำเลยต่อสู้ว่า โรงเรือนพิพาทไม่ใช่ของบิดาโจทก์เป็นโรงเรือนที่จำเลยร่วมกับผู้มีชื่อออกเงินทุนสร้างขึ้นเป็นสถานกุศลกิจดังนี้ เป็นคดีพิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิ์ในโรงเรือนพิพาทนั้น  เมื่อโรงเรือนพิพาทมีราคาถึง 6000 บาท คดีก็เกินอำนาจผู้พิพากษานายเดียวจะพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์ฟ้องคดีเกินอำนาจศาลแขวงต่อศาลแขวง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกอำนาจศาลขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลแขวงนั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจศาลตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าวศาลสูงก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
                                    โจทก์ฟ้องคดีเกินอำนาจศาลแขวงต่อศาลแขวง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกอำนาจศาลขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลแขวงนั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจศาลตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าวศาลสูงก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1757/2492
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลแขวง: คดีทำลายสัญญาจำนองไม่ใช่เรื่องฟ้องเรียกกรรมสิทธิ์
                        
                        คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายสัญญาจำนอง และสัญญายอมความต่อศาลระหว่างจำเลยมูลคดีเป็นเรื่องขอให้ทำลายสัญญาไม่ใช่เรื่องฟ้องเรียกกรรมสิทธิ์จากจำเลย  แม้มีข้อเท็จจริงโต้เถียงกันว่า โจทก์กับจำเลยเป็นผัวเมียกันหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฟ้องที่ศาลแขวงได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลแขวงพิจารณาคดีฉ้อโกงและคำขอคืนทรัพย์สิน
                        
                        ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ซึ่งมีอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้น แม้โจทก์จะขอให้ใช้ทรัพย์ที่ฉ้อโกงเป็นราคามากมายเท่าใด ศาลแขวงก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้โจทก์แยกฟ้องคดีส่วนแพ่งจากคดีส่วนอาญาตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. 41 นั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ตาม ม. 196
                                    คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้โจทก์แยกฟ้องคดีส่วนแพ่งจากคดีส่วนอาญาตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. 41 นั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ตาม ม. 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2490
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลแขวงในคดีฉ้อโกงและการพิจารณาคำขอเรียกทรัพย์สิน: คำสั่งแยกฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
                        
                        ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ซึ่งมีอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้นแม้โจทก์จะขอให้ใช้ทรัพย์ที่ฉ้อโกงเป็นราคามากมายเท่าใด ศาลแขวงก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้โจทก์แยกฟ้องคดีส่วนแพ่งจากคดีส่วนอาญาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 41 นั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม มาตรา 196
                                    คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้โจทก์แยกฟ้องคดีส่วนแพ่งจากคดีส่วนอาญาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 41 นั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม มาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2490
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลแขวงพิจารณาเรื่องใช้ราคาทรัพย์ในคดียักยอกทรัพย์ แม้ราคาสูงเกินกว่าที่ศาลแขวงปกติจะพิจารณาได้
                        
                        ในคดีเรื่องยักยอกทรัพย์ซึ่งอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้นแม้โจทก์จะขอให้ใช้ราคาทรัพย์มากมายเพียงใดศาลแขวงก็มีอำนาจพิพากษาได้
ศาลแขวงลงโทษฐานยักยอกทรัพย์ แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์ เมื่อศาลสูงเห็นว่า การไม่รับพิจารณานั้นทำไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่
(อ้างฎีกาที่ 180/2490)
                                    ศาลแขวงลงโทษฐานยักยอกทรัพย์ แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์ เมื่อศาลสูงเห็นว่า การไม่รับพิจารณานั้นทำไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่
(อ้างฎีกาที่ 180/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2490
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            อำนาจศาลแขวงพิจารณาคดีลักทรัพย์พร้อมเรียกค่าเสียหาย แม้ราคาทรัพย์สูง
                        
                        ในคดีเรื่องลักทรัพย์ซึ่งอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้นแม้โจทก์จะขอให้ใช้ราคาทรัพย์มากมายเพียงไรศาลแขวงก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
ศาลแขวงลงโทษฐานลักทรัพย์แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์เมื่อศาลสูงเห็นว่าการไม่รับพิจารณานั้นไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่
                                    ศาลแขวงลงโทษฐานลักทรัพย์แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์เมื่อศาลสูงเห็นว่าการไม่รับพิจารณานั้นไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่