พบผลลัพธ์ทั้งหมด 238 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสินบริคณห์ต้องกระทำโดยสามีภริยาร่วมกัน การจำหน่ายโดยภริยาผู้เดียวเป็นโมฆะ
ที่ดินซึ่งเป็นสินบริคณห์โฉนดมีชื่อสามีภริยา ภริยาเอาไปโอนขายแต่ผู้เดียว สามีมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย: สิทธิในทรัพย์มฤดกและการแบ่งทรัพย์สิน
ทรัพย์สินของสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องถือ+กรรมสิทธิร่วม
โจทก์เป็นมารดารผู้ตาย+ขอแบ่งทรัพย์มฤดกของผู้ตายจากจำเลย เมื่อฟังว่าจำเลยและผู้ตายไม่ใช่สามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มฤดกของผู้ตาย ศาลย่อมให้จำเลยคืนทรัพย์มฤดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ได้ ไม่เป็นการ+ฟ้องนอกประเด็นอย่างไร
ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้เป็นโทษแก่โจทก์แล้ว โจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยจะอุทธรณ์แต่ไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นนั้น แต่อุทธรณ์ในประเด็นข้ออื่น ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะกลับไปชี้ขาดในประเด็นข้อนั้นให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
โจทก์เป็นมารดารผู้ตาย+ขอแบ่งทรัพย์มฤดกของผู้ตายจากจำเลย เมื่อฟังว่าจำเลยและผู้ตายไม่ใช่สามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มฤดกของผู้ตาย ศาลย่อมให้จำเลยคืนทรัพย์มฤดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ได้ ไม่เป็นการ+ฟ้องนอกประเด็นอย่างไร
ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้เป็นโทษแก่โจทก์แล้ว โจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยจะอุทธรณ์แต่ไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นนั้น แต่อุทธรณ์ในประเด็นข้ออื่น ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะกลับไปชี้ขาดในประเด็นข้อนั้นให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดจากการเป็นสามีภริยาต้องด้วยกฎหมาย การแบ่งสินสมรส และการพิสูจน์สินเดิม
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิงก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจาการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้ และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 177 วรรค 2
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มี ก.ม.จำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยา จะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิมก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏ แต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวนส่วนแบ่งใน+อันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยา+ได้รับ ศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 177 วรรค 2
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มี ก.ม.จำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยา จะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิมก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏ แต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวนส่วนแบ่งใน+อันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยา+ได้รับ ศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นสามีภริยา,สินสมรส,สินเดิม,การขาดจากการเป็นสามีภริยา,ภริยาร้าง
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิง ก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจากการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มีกฎหมายจำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาจะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิม ก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏแต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวณส่วนแบ่งในสินสมรสอันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาคนหนึ่งจะได้รับศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนในสินสมรสด้วย
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มีกฎหมายจำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาจะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิม ก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏแต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวณส่วนแบ่งในสินสมรสอันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาคนหนึ่งจะได้รับศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนในสินสมรสด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกกรณีไม่มีสินเดิม และการครอบครองแทนโจทก์
ในกรณีที่เป็นผัวเมียตามกฎหมายเก่า เมื่อไม่ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายมีสินเดิม ก็ต้องแบ่งสินสมรสให้แก่สามี 2 ส่วน ภรรยา 1 ส่วน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยปกครองมฤดกแทนโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อที่ไม่มีทรัพย์มฤดก โจทก์ฎีกาฝ่ายจำเลยเถียงในชั้นฎีกาในข้ออื่น มิได้เถียงในข้อปกครองแทน ดังนี้ศาลฎีกาคงถือว่าจำเลยปกครองมฤดกแทนโจทก์
โจทก์ฟ้องแบ่งมฤดกและตีราคามาในคำขอท้ายฟ้องด้วยนั้นศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ตามส่วนที่โจทก์ขอโดยไม่ต้องจำกัดให้ได้รับเกินราคาท้ายฟ้องได้เพราะการตีราคามานั้น เพื่อเรียกค่าธรรมเนียมศาล
ผู้ร้องขอส่วนแบ่งมฤดกมาในศาลชั้นต้น เมื่อคดีสู่ศาลสูง ผู้ร้องก็ยื่นคำร้องขอส่วนแบ่งในชั้นศาลสูงอีกได้โดยไม่ต้องทำเป็นอุทธรณ์ฎีกา
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยปกครองมฤดกแทนโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อที่ไม่มีทรัพย์มฤดก โจทก์ฎีกาฝ่ายจำเลยเถียงในชั้นฎีกาในข้ออื่น มิได้เถียงในข้อปกครองแทน ดังนี้ศาลฎีกาคงถือว่าจำเลยปกครองมฤดกแทนโจทก์
โจทก์ฟ้องแบ่งมฤดกและตีราคามาในคำขอท้ายฟ้องด้วยนั้นศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ตามส่วนที่โจทก์ขอโดยไม่ต้องจำกัดให้ได้รับเกินราคาท้ายฟ้องได้เพราะการตีราคามานั้น เพื่อเรียกค่าธรรมเนียมศาล
ผู้ร้องขอส่วนแบ่งมฤดกมาในศาลชั้นต้น เมื่อคดีสู่ศาลสูง ผู้ร้องก็ยื่นคำร้องขอส่วนแบ่งในชั้นศาลสูงอีกได้โดยไม่ต้องทำเป็นอุทธรณ์ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกกรณีสามีภริยาไม่มีสินเดิม และการปกครองมรดกแทนโจทก์
ในกรณีที่เป็นผัวเมียตามกฎหมายเก่า เมื่อไม่ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายมีสินเดิม ก็ต้องแบ่งสินสมรสให้แก่สามี 2 ส่วน ภรรยา 1 ส่วน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยปกครองมรดกแทนโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อที่ไม่มีทรัพย์มรดก โจทก์ฎีกา ฝ่ายจำเลยเถียงในชั้นฎีกาในข้ออื่น มิได้เถียงในข้อปกครองแทน ดังนี้ศาลฎีกาคงถือว่าจำเลยปกครองมรดกแทนโจทก์
โจทก์ฟ้องแบ่งมรดกและตีราคามาในคำขอท้ายฟ้องด้วยนั้นศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ตามส่วนที่โจทก์ขอโดยไม่ต้องจำกัดให้ได้รับเกินราคาท้ายฟ้องได้ เพราะการตีราคามานั้นเพื่อเรียกค่าธรรมเนียมศาล
ผู้ร้องขอส่วนแบ่งมรดกมาในศาลชั้นต้น เมื่อคดีสู่ศาลสูง ผู้ร้องก็ยื่นคำร้องขอส่วนแบ่งในชั้นศาลสูงอีกได้โดยไม่ต้องทำเป็นอุทธรณ์ฎีกา
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยปกครองมรดกแทนโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อที่ไม่มีทรัพย์มรดก โจทก์ฎีกา ฝ่ายจำเลยเถียงในชั้นฎีกาในข้ออื่น มิได้เถียงในข้อปกครองแทน ดังนี้ศาลฎีกาคงถือว่าจำเลยปกครองมรดกแทนโจทก์
โจทก์ฟ้องแบ่งมรดกและตีราคามาในคำขอท้ายฟ้องด้วยนั้นศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ตามส่วนที่โจทก์ขอโดยไม่ต้องจำกัดให้ได้รับเกินราคาท้ายฟ้องได้ เพราะการตีราคามานั้นเพื่อเรียกค่าธรรมเนียมศาล
ผู้ร้องขอส่วนแบ่งมรดกมาในศาลชั้นต้น เมื่อคดีสู่ศาลสูง ผู้ร้องก็ยื่นคำร้องขอส่วนแบ่งในชั้นศาลสูงอีกได้โดยไม่ต้องทำเป็นอุทธรณ์ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่ยังอยู่กินด้วยกัน ไม่มีอำนาจฟ้องเว้นแต่กฎหมายบัญญัติ
สามีภริยาที่ยังอยู่กินด้วยกัน จะฟ้องร้องกันด้วยเรื่องทรัพย์สินที่บริคณห์ปนกันอยู่นั้นมิได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้
ภรรยาอ้างว่า ทรัพย์เป็นสินสมรส ฝ่ายสามีว่าเป็นทรัพย์ของผู้อื่น จะฟ้องสามีขอให้ศาลแสดงว่าเป็นสินสมรสไม่ได้
ภรรยาอ้างว่า ทรัพย์เป็นสินสมรส ฝ่ายสามีว่าเป็นทรัพย์ของผู้อื่น จะฟ้องสามีขอให้ศาลแสดงว่าเป็นสินสมรสไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์หลังหย่า: เหตุบวชเป็นภิกษุไม่เกี่ยวข้อง
ในเรื่องยึดทรัพย์ระหว่างสามีภริยา. หญิงร้องขัดทรัพย์ว่าได้ทำหนังสือหย่าขาดกับจำเลยแล้ว. ศาลจะอ้างว่าผู้ร้องขาดกับจำเลยโดยจำเลยบวชเป็นภิกษุไม่ได้.เพราะเป็นการนอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพาไปเพื่ออยู่กินเป็นสามีภริยาโดยสุจริต ไม่ถือเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์
ชายพาหญิงไปโดยรักใคร่กัน เพื่อไปอยู่กินเป็นสามี ภริยากันโดยสุจริต ไม่ผิดตาม ม.275
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาโอนที่ดินระหว่างสามีภริยาที่ยังไม่ได้หย่าเป็นโมฆะได้
สามีภริยาตกลงหย่ากันด้วยปาก แล้วสามีทำสัญญายกที่ดินให้ภริยา แต่ยังคงเป็นสามีภริยากันตลอดมา ดั่งนี้สามีย่อมปฏิเสธสัญญานั้นได้