คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิ่งปลูกสร้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 323 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166-1168/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินราชพัศดุ: สิทธิของโจทก์สิ้นสุดเมื่อสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด
ในฟ้องโจทก์ระบุไว้ชัดว่า ห้องพิพาทเป็นของโจทก์ ไม่ได้กล่าวอ้างถึงสิทธิอื่น เป็นการยืนยันว่ามีอำนาจให้เช่าเพราะโจทก์เป็นเจ้าของแต่อย่างเดียวจำเลย จึงชอบที่จะยกข้อที่ว่าห้องพิพาทตกเป็นของราชพัศดุแล้ว ไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจให้เช่าขึ้นเป็นข้อต่อสู้ได้
ว.เช่าที่ดินราชพัศดุมาเพื่อปลูกสร้างอาคารให้เช่า โดยมีข้อตกลงในสัญญาว่า เมื่อสัญญาสิ้นกำหนดแล้ว บรรดาสิ่งปลูกสร้างตกเป็นของรัฐบาลทั้งสิ้น โจทก์เช่าช่วงที่ดินที่ ว.เช่ามาจากทางราชการนั้นอีกต่อหนึ่งแล้วปลูกสร้างห้องพิพาทขึ้นให้จำเลยเช่า สัญญาเช่าที่ดินราชพัศดุระหว่าง ว.กับทางราชการสิ้นกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2506 โจทก์ทราบถึงข้อตกลงสัญญาระหว่าง ว.กับทางราชการดี และรู้ล่วงหน้าตามข้อสัญญาแล้วว่าโจทก์จะมีอำนาจให้เช่าได้ภายในกำหนดเวลาเพียงเท่าที่ ว.จะพึงมีตามสัญญาเช่าจากทางราชการ และอาคารที่ ว.ปลูกสร้างลงในที่พิพาทจะตกเป็นของราชพัศดุเมื่อสิ้นกำหนดสัญญาเช่าด้วย ดังนี้ แม้โจทก์จะเป็นผู้ปลูกสร้างห้องพิพาทก็ตาม ก็ปลูกโดยสวมสิทธิ ว. ต้องอยู่ในบังคับแห่งสัญญาระหว่าง ว. กับทางราชการด้วย เมื่อสัญญาเช่าที่ดินระหว่าง ว. กับทางราชการสิ้นกำหนด และทางราชการได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว กรรมสิทธิ์ในห้องพิพาทก็ตกเป็นของราชพัศดุตามสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2507 ว. หมดสิทธิในที่พิพาท กรรมสิทธิ์ในห้องพิพาทและอำนาจการให้เช่าของโจทก์ก็สิ้นสุดลงด้วย
โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20-23/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาว่าไม้แปรรูปอยู่ในสภาพสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ตามกฎหมายป่าไม้ จำเป็นต้องมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน
เมื่อข้อเท็จจริงตามฟ้องคำให้การว่า++และโจทก์แถลงยังไม่ชัดแต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลย จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงที่จะวินิจฉัยว่าไม้สักที่จำเลยมีไว้ละใช้ตีพื้นตีฝา ไม้ลักษณะบานประตูหน้าต่างที่ยังไม่ติดอาคาร ไม้โครงเตียงที่ยังไม่ได้ประกอบเป็นเตียง เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้หรือไม่ ก็จำต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ งดสืบพยานก่อนได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน ทำให้วินิจฉัยสภาพไม้เป็นสิ่งปลูกสร้าง/เครื่องใช้ไม่ได้
เมื่อข้อเท็จจริงตามฟ้อง คำให้การจำเลย และโจทก์แถลงยังไม่ชัด แต่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลย จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงที่จะวินิจฉัยว่าไม้สักที่จำเลยมีไว้และใช้ตีพื้นฝา ไม้ลักษณะบานประตูหน้าต่างที่ยังไม่ติดอาคารไม้โครงเตียงที่ยังไม่ได้ประกอบเป็นเตียง เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้หรือไม่ ก็จำต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้เช่า: กรณีจำเลยรุกล้ำพื้นที่เช่าที่สิ่งปลูกสร้างมีอยู่ก่อน ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้อง
ผู้เช่าไม่ได้เข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่าการที่จะจัดการให้จำเลยผู้ซึ่งไม่ได้เช่าที่ดินส่วนนั้นรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าของที่ดิน ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 774-776/2505)
เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ก็ต้องยกฟ้องโจทก์โดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้อโต้เถียงอื่นๆ ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แบ่งกรรมสิทธิ์รวม & สิ่งปลูกสร้าง: โรงเรียนแยกแบ่ง/ขายได้ แต่ไม่รวมกับการประมูล/ขายทอดตลาด และเงินชดเชยแยกต่างหาก
เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมฟ้องขอแบ่งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมผู้อื่นตามส่วนของตน เมื่อปรากฏว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมผู้หนึ่งได้ปลูกโรงเรียนไว้บนที่ดินนั้น ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามส่วนโดยให้เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมผู้ปลูกโรงเรียนได้รับแบ่งที่ดินตอนที่ปลูกโรงเรียนได้ หากไม่ตกลง จึงให้ขายโดยประมูลราคาระหว่างเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมด้วยกัน หรือขายทอดตลาด
โจทก์และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมได้รับส่วนแบ่งไม่เท่ากัน และเป็นเรื่องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมค่าฤชาธรรมเนียมจึงควรให้เป็นพับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินริมน้ำฟ้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกีดขวาง แม้ที่ดินนั้นเป็นสาธารณสมบัติ
เจ้าของที่ดินซึ่งมีเขตจดแม่น้ำ มีสิทธิฟ้องผู้ที่ปลูกเรือนอยู่ในที่ชายตลิ่งกีดขวางปิดกั้นหน้าที่ดินนั้นให้รื้อถอนเรือนออกไปได้แม้ที่ๆ ปลูกเรือนจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินก็ตามผู้ซื้อที่ดินที่มีเขตจดแม่น้ำยอมให้ผู้ขาย ซึ่งมีเรือนปลูกอยู่ในที่ชายตลิ่งหน้าที่ดินนั้นคงอยู่ต่อไปได้ 1 ปีจึงจะรื้อถอนไป ความยินยอมนี้ถือได้เพียงว่าไม่มีการละเมิดในระยะเวลาดังกล่าวนั้น เมื่อผู้ซื้อบอกกล่าวให้ผู้ขายรื้อถอนไปแล้ว ผู้ขายยังขัดขืน ผู้ซื้อฟ้องขับไล่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง สัญญาที่ระบุที่ดินรวมห้องแถวถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด
เมื่อสัญญาซื้อขายที่ดินตอนต้นระบุถึงที่ดินซึ่งมีห้องแถวรวมอยู่ด้วย แม้ตอนต่อมาจะเขียนสัญญาซื้อขายใช้คำแต่เพียงว่า ผู้ขายยอมขายที่ดิน ผู้ซื้อยอมรับซื้อที่ดินโดยไม่มีข้อความเพิ่มเติมว่า "พร้อมกับห้องแถวด้วย" ก็ต้องหมายความว่า เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้าง คือห้องแถวพิพาทซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินและเป็นส่วนควบของที่ดิน
เมื่อสัญญาซื้อขายแสดงว่า ยอมขายห้องแถวด้วย โดยไม่มีข้อตกลงพิเศษว่า ให้ห้องแถวคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โจทก์ซึ่งเป็นผู้ขายไม่มีสิทธินำสืบว่าต้องการขายแต่ที่ดิน ไม่ขายห้องแถว เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในค่าเช่าสิ่งปลูกสร้างหลังเลิกสัญญาและคดีล้มละลายของผู้เช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิได้รับดอกผล
การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ให้เช่าสิ่งปลูกสร้างร้องขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซึ่งผู้เช่าถูกฟ้องล้มละลายคืนแก่ตนพร้อมทั้งดอกผลของสิ่งปลูกสร้างตามคำสั่งศาลนั้นคำร้องของผู้ร้องไม่มีลักษณะเป็นการคัดค้านการยึดทรัพย์ และไม่มีสภาพเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะดำเนินการสอบสวนและมีคำสั่งดังนั้น แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมีคำสั่งประการใด กรณีย่อมไม่เข้าพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 158 และมาตรา 146ฉะนั้น เมื่อคดีพิพาทเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องก็ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยกคำคัดค้านของผู้ร้อง ผู้ร้องย่อมมีสิทธิยื่นคำขอต่อศาลได้ ในกรณีที่ผู้ร้องเรียกค่าเช่าอันเป็นดอกผลจากทรัพย์สินที่ให้เช่าในระยะเวลาที่ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของผู้ร้องแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องส่งมอบเงินค่าเช่านั้นให้แก่ผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 111 และ 1336

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดิน: คำพิพากษาบังคับรื้อสิ่งปลูกสร้าง หรือชดใช้ค่าที่ดิน
คำพิพากษาที่บังคับให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษารื้อห้องแถวที่ปลูกรุกล้ำเข้าไปในที่พิพาทออกเสียจากที่พิพาทถ้าไม่สามารถจะรื้อได้ให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาใช้ค่าที่ดินให้แก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานั้นลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะเลือกปฏิบัติในประการหลังโดยอ้างเหตุว่าถ้ารื้อห้องแถวแล้วลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะได้รับความเสียหายมากนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าที่ดิน: การครอบครองผลผลิตจากต้นไม้ในที่เช่า และสิทธิเหนือสิ่งปลูกสร้าง
สัญญาเช่าที่ดินย่อมครอบคลุมไปถึงต้นผลไม้ที่อยู่ในที่ดินที่เช่าด้วย หากผู้ให้เช่าที่ดินมีความประสงค์จะสงวนไว้ใช้สอยเก็บกินส่วนตัว ก็ชอบที่จะระบุไว้ในสัญญาเช่าให้ชัดแจ้ง มิฉะนั้นผู้เช่าที่ดินย่อมมีสิทธิเก็บผลไม้อันเป็นดอกผลตามธรรมชาติของต้นผลไม้ในที่ดินที่เช่าได้ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิหวงห้าม
สัญญาเช่าที่ดินมีข้อความว่า "ผู้ให้เช่าให้ผู้เช่าเช่าที่ดินแปลงที่กล่าวข้างบนนี้ทั้งแปลงไว้จัดตั้งสนามมวยจัดการแสดงมหรสพและการค้าอื่นๆ มีกำหนด 10 ปี ฯลฯ" นั้น เป็นการเช่าที่ดินหมดทั้งแปลง มิใช่บางส่วนการที่ระบุไว้ว่าเพื่อจัดตั้งสนามมวยจัดการแสดงมหรสพและการค้าอื่นๆ นั้น เป็นเพียงแสดงวัตถุประสงค์บางอย่างในการเช่าไว้ในสัญญาเท่านั้น มิใช่เป็นการจำกัดว่าผู้เช่าจะใช้สิทธิอย่างอื่นในฐานะผู้เช่าเหนือทรัพย์สินที่เช่ามิได้
of 33