คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้สิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายทายาท: ทายาทไม่ต้องรับผิดเกินทรัพย์มรดก
โจทก์นำหนี้ของผู้ตายมาฟ้องจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นทายาทให้ล้มละลายหนี้ดังกล่าวจึงมิใช่หนี้ที่จำเลยทั้งสามจะต้องรับผิดเป็นส่วนตัวแม้จำเลยทั้งสามจะเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายซึ่งจะต้องรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ของผู้ตายที่โดยสภาพไม่เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ด้วยก็ตาม ก็ไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่จะตกได้แก่ตน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1601 และตามคำฟ้องระบุเพียงว่าจำเลยทั้งสามเป็นทายาทของผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยแต่ละคนได้รับมรดกไว้เป็นจำนวนเท่าใด เพียงพอที่จะชำระหนี้แทนผู้ตายหรือไม่โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสามให้ล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทายาทไม่ต้องรับผิดเกินทรัพย์มรดก - อำนาจฟ้องล้มละลาย
โจทก์นำหนี้ของผู้ตายมาฟ้องจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นทายาทให้ล้มละลาย หนี้ดังกล่าวจึงมิใช่หนี้ที่จำเลยทั้งสามจะต้องรับผิดเป็นส่วนตัวแม้จำเลยทั้งสามจะเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตาย ซึ่งจะต้องรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ของผู้ตายที่โดยสภาพไม่เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ด้วยก็ตาม ก็ไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่จะตกได้แก่ตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1601 และตามคำฟ้องระบุเพียงว่าจำเลยทั้งสามเป็นทายาทของผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยแต่ละคนได้รับมรดกไว้เป็นจำนวนเท่าใดเพียงพอที่จะชำระหนี้แทนผู้ตายหรือไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสามให้ล้มละลายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเห็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีผลบังคับ ศาลมีอำนาจตัดสินชี้ขาดเอง เจ้าหนี้ต้องอุทธรณ์คำสั่งศาลเท่านั้น
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่มีผู้ขอรับชำระต่อศาล แม้จะเห็นควรให้ได้รับชำระหนี้บางส่วนและยกคำขอรับชำระหนี้บางส่วน แต่ความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นไม่มีผลบังคับแต่อย่างใด เพราะศาลอาจพิจารณาวินิจฉัยหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ ฉะนั้นจึงยังไม่มีการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อย่างหนึ่งอย่างใดที่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 146 ผู้ร้องจะยื่นคำร้องต่อศาลให้สั่งแก้ไขความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หาได้ไม่ ต่อเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอย่างไรแล้วผู้ร้องจึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ผู้ร้องได้รับทราบคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเห็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีผลบังคับ ศาลมีอำนาจพิจารณาตัดสินชี้ขาดเรื่องหนี้สินตามกฎหมายล้มละลาย
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่มีผู้ขอรับชำระต่อศาล แม้จะเห็นควรให้ได้รับชำระหนี้บางส่วนและยกคำขอรับชำระหนี้บางส่วน แต่ความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นไม่มีผลบังคับแต่อย่างใด เพราะศาลอาจพิจารณาวินิจฉัยหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ ฉะนั้นจึงยังไม่มีการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อย่างหนึ่งอย่างใดที่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 146 ผู้ร้องจะยื่นคำร้องต่อศาลให้สั่งแก้ไขความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หาได้ไม่ ต่อเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอย่างไรแล้วผู้ร้องจึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ผู้ร้องได้รับทราบคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา153.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1440/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตเช็ค: การห้ามธนาคารจ่ายเงินเพื่อตรวจสอบหนี้สินก่อนชำระค่าหุ้น ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยซื้อหุ้นของบริษัท ป.จากโจทก์ โดยโจทก์รับรองว่าจะช่วยเรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้ของบริษัทให้การที่จำเลยห้ามธนาคารมิให้ ใช้เงินตามเช็คพิพาทซึ่งจำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เป็นค่าซื้อหุ้นดังกล่าว เพราะจำเลยจะต้องตรวจสอบบัญชีลูกหนี้ซึ่งมี รายละเอียดไม่สมบูรณ์ถึง 158 รายการ ที่โจทก์จะต้องไปเรียกเก็บ เงินให้จำเลยเสียก่อน ถือว่าไม่เป็นการกระทำโดยมีเจตนาทุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1440/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คซื้อหุ้นและการตรวจสอบหนี้สินของบริษัท การกระทำโดยไม่มีเจตนาทุจริต
จำเลยซื้อหุ้นของบริษัท ป. จากโจทก์ โดยโจทก์รับรองว่าจะช่วยเรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้ของบริษัทให้ การที่จำเลยห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คพิพาท ซึ่งจำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เป็นค่าซื้อหุ้นดังกล่าว เพราะจำเลยจะต้องตรวจสอบบัญชีลูกหนี้ ซึ่งมีรายละเอียดไม่สมบูรณ์ถึง 158 รายการ ที่โจทก์จะต้องไปเรียกเก็บเงินให้จำเลยเสียก่อน ถือว่าไม่เป็นการกระทำโดยมีเจตนาทุจริต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้ค้ำประกันลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว แม้สุจริตก็ขอรับชำระหนี้ไม่ได้ตามกฎหมายล้มละลาย
เจ้าหนี้รู้อยู่แล้วว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ยังยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้น โดยเจ้าหนี้จำนองที่ดินค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้แม้เจ้าหนี้กระทำไปโดยตั้งใจจะพยุงฐานะของลูกหนี้ และกระทำโดยสุจริตก็ถือได้ว่าเป็นการยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้เพิ่มขึ้นทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ไม่ได้ตามมาตรา 94(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล้มละลาย: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลอื่นประกอบข้อสันนิษฐานทางกฎหมาย เพื่อประเมินฐานะหนี้สินที่แท้จริงของผู้ถูกฟ้อง
การที่ศาลจะมีคำสั่งให้บุคคลใดเป็นบุคคลล้มละลายนั้นนอกจากจะอาศัยข้อเท็จจริง อันเป็นเงื่อนไขตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายแล้ว ยังต้องพิเคราะห์ถึงเหตุผลอื่นมาประกอบที่พอแสดงให้เห็นว่าจำเลยตก อยู่ ในฐานะผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจริง ลำพังแต่ทางนำสืบของโจทก์แม้จะได้ความตามข้อสันนิษฐานของกฎหมาย แต่ถ้า ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงอื่นมาสนับสนุนแสดงให้เห็นถึงฐานะของจำเลยว่าตก อยู่ ในสภาพมีหนี้สินล้นพ้นตัวอย่างใด ทั้งจำเลยได้นำสืบว่าหนี้ระงับแล้ว และจำเลยอยู่ในฐานะชำระหนี้ได้ จึงยังไม่พอถือว่าจำเลยสมควรตก เป็นบุคคลล้มละลาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5606/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับหนังสือแจ้งหนี้โดยผู้เยาว์ทำให้การส่งเอกสารไม่ชอบตามกฎหมาย
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีหนังสือแจ้งความและเตือนให้ผู้ร้องชำระหนี้โดยส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ ปรากฏว่าหุ้นส่วนผู้จัดการของผู้ร้องมิได้รับหนังสือดังกล่าวด้วยตนเอง แต่มีบุตรของหุ้นส่วนผู้จัดการผู้ร้องซึ่งมีอายุไม่เกินยี่สิบปีเป็นผู้รับแทนทั้งสองครั้ง การส่งเอกสารดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 73 ทวิ, 76 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 119.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5353/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ฐานะล้มละลาย: พิจารณาหนี้สิน ทรัพย์สิน และความสามารถในการชำระหนี้
จำเลยเป็นหนี้ธนาคารโดยเบิกเงินเกินบัญชี เป็นเงิน 300,000 บาทเศษ แต่มีที่ดินจำนองเป็นประกัน 3 แปลง ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยเป็นหนี้ บุคคลอื่นอีก มูลหนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นคดีล้มละลาย เป็นกรณีเรียกเงินตามเช็ค ที่สั่งจ่ายล่วงหน้าตามที่ตกลงไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งเช็คส่วนมากยังไม่ถึงกำหนด สำหรับเช็คบางฉบับที่ถึงกำหนดแล้ว เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คเป็นคดีอื่น จำเลยก็ยอมใช้จนครบนอกจากนี้จำเลยยังมีทรัพย์สินอยู่อีกหลายอย่างกับมีอาชีพจัดสรรที่ดินขายด้วย แสดงว่ามีฐานะมั่นคงพอที่จะชำระหนี้ได้ คดียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวอันโจทก์จะฟ้อง ให้ล้มละลายได้
of 48