พบผลลัพธ์ทั้งหมด 297 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งความรับผิดชอบในความผิดฐานชิงทรัพย์และลักทรัพย์ เมื่อการกระทำเกิดขึ้นต่างเวลากัน
คนร้าย 2 คนสมคบกันไปลักทรัพย์เขาเมื่อลักได้แล้วพาทรัพย์หนี คนหนึ่งพาทรัพย์ออกพ้นจากบ้านเจ้าทรัพย์ ไปแล้ว อีกคนหนึ่งถูกพวกเจ้าพนักงานสกัดหน้าไว้ในบริเวณบ้านคนร้ายคนที่ถูกสกัดหน้า จึงทำร้ายคนที่สกัดหน้า มีบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ แสดงว่ากระทำร้ายเพื่อจะหลบหนี อันนับได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อตัวคนร้ายคนนั้นเองโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับการสมคบกันมาลักทรัพย์แต่แรก คนร้ายคนที่ทำร้าย จึงมีผิดฐานชิงทรัพย์แต่ผู้เดียวส่วนคนร้ายคนที่พาทรัพย์พ้นบ้านไปแล้วนั้น คงมีผิดเพียงฐานลักทรัพย์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกความผิดฐานชิงทรัพย์และลักทรัพย์เมื่อมีการทำร้ายร่างกายระหว่างหลบหนี
คนร้าย 2 คนสมคบกันไปลักทรัพย์เขา เมื่อลักได้แล้วพาทรัพย์หนี คนหนึ่งพาทรัพย์ออกพ้นจากบ้านเจ้าทรัพย์ ไปแล้ว อีกคนหนึ่งถูกพวกเจ้าทรัพย์สกัดหน้าไว้ในบริเวณบ้าน คนร้ายคนที่ถูกสกัดหน้า จึงทำร้ายคนที่สกัดหน้า มีบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ แสดงว่ากระทำร้ายเพื่อจะหลบหนี อันนับได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อตัวคนร้ายคนนั้นเองโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับการสมคบกันมาลักทรัพย์แต่แรก คนร้ายคนที่ทำร้าย จึงมีผิดฐานชิงทรัพย์แต่ผู้เดียว ส่วนคนร้ายคนที่พาทรัพย์พ้นบ้านไปแล้วนั้นคงมีผิดเพียงฐานลักทรัพย์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะบุคคล: การพิสูจน์สัญชาติของจำเลยที่หลบหนีการเนรเทศ และการรับราชการ
จำเลยเป็นจีนต่างด้าวโดยกำเนิดและถูกสั่งเนรเทศออกไปจากราชอาณาจักรจนตลอดชีวิต แล้วภายหลังได้หลบหนีเข้ามาและอ้างตนว่าเป็นคนไทย จนได้เข้ารับราชการทหาร ดังนี้ คดีก็คงอยู่ในอำนาจศาลพลเรือนที่จะพิจารณาพิพากษากรณีหลบหนีการเนรเทศของจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะบุคคล: การหลบหนีการเนรเทศและการอ้างสัญชาติไทยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเนรเทศ
จำเลยเป็นจีนต่างด้าวโดยกำเนิดและถูกสั่งเนรเทศออกไปจากราชอาณาจักรจนตลอดชีวิต แล้วภายหลังได้หลบหนีเข้ามาและอ้างตนว่าเป็นคนไทยจนได้เข้ารับราชการทหาร ดังนี้ คดีก็คงอยู่ในอำนาจศาลพลเรือนที่จะพิจารณาพิพากษากรณีหลบหนีการเนรเทศของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ vs. ฉ้อโกง: การหลอกลวงแล้วหลบหนีพร้อมทรัพย์สิน
จำเลยแต่งคนไปหลอกเจ้าทรัพย์ว่า จะซื้อแหวนเพ็ชร เจ้าทรัพย์ได้นำแหวนมาให้ดู 2 วง ระหว่างดูและต่อราคากัน เผอิญเจ้าทรัพย์ปวดปัสสาวะ จึงเข้าห้องน้ำไม่เกิน 5 นาที กลับออกมาไม่พบจำเลย ๆ ได้หลบหนีและนำแหวนไปด้วย ดังนี้เจ้าทรัพย์หาได้มอบการครอบครองให้แก่จำเลยไม่ จำเลยจึงมีผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับนายประกันจากการหลบหนีของจำเลย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลล่าง
คดีอาญา ศาลพิพากษาปรับนายประกันฐานผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินเกิน 2000 บาท นายประกันย่อมฎีกาขอลดหย่อนค่าปรับได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1096/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำไม่เข้าข่ายวิ่งราวทรัพย์ แม้มีการหยิบทรัพย์แล้วหลบหนี เพราะขาดเจตนาฉกฉวย
ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์นั้นได้แก่การลักทรัพย์โดยการใช้กิริยาฉกฉวยเอาทรัพย์หนีไปต่อหน้า
จำเลยหยิบผ้าของเจ้าทรัพย์ซึ่งวางขายอยู่ แล้วรีบพามาขึ้นรถ 3 ล้อนั้น จำเลยไม่ได้ใช้กิริยาฉกฉวยเอาทรัพย์นั้น การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
จำเลยหยิบผ้าของเจ้าทรัพย์ซึ่งวางขายอยู่ แล้วรีบพามาขึ้นรถ 3 ล้อนั้น จำเลยไม่ได้ใช้กิริยาฉกฉวยเอาทรัพย์นั้น การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษอาญาซ้ำจากเคยหลบหนีระหว่างต้องโทษ และขอบเขตการบังคับใช้มาตรา 73, 59, 39
จำเลยต้องโทษมาแล้วหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายจำเลยได้หลบหนีไปในระหว่างต้องโทษ แล้วกลับมากระทำผิดในคดีนี้ภายหลังที่พ้นโทษครั้งที่ 4 ไปยังไม่เกิน 3 ปี ก็เพิ่มโทษตามมาตรา 73 ได้
เมื่อคดีต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 กึ่งหนึ่ง และลดฐานปราณีตามมาตรา 59 ลงกึ่งหนึ่ง โทษเพิ่มและลดมีกำหนดเสมอกัน ต้องหักกลบลบกันไปตาม มาตรา 39
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้รับของโจรตามฟ้องไว้จริง แต่ ไม่ได้ลักทรัพย์ตามโจทก์ฟ้อง การพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ จึงเกินคำรับของจำเลย
เมื่อคดีต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 กึ่งหนึ่ง และลดฐานปราณีตามมาตรา 59 ลงกึ่งหนึ่ง โทษเพิ่มและลดมีกำหนดเสมอกัน ต้องหักกลบลบกันไปตาม มาตรา 39
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้รับของโจรตามฟ้องไว้จริง แต่ ไม่ได้ลักทรัพย์ตามโจทก์ฟ้อง การพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ จึงเกินคำรับของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังจับกุมผู้ต้องหาหลบหนี: อำนาจตามกฎหมายและขอบเขตการกระทำ
ถ้าบุคคลซึ่งจะถูกจบหลบหนีหรือพยายามจะหลบหนี ผู้ทำการจับมีอำนาจใช้วิธีหรือความป้องกันทั้งหลายเท่าที่เหมาะแก่พฤตติการณ์แห่งเรื่องในการจับผู้นั้น
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วย ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่โดยจับกุมผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ร้ายสำคัญเรื่องปล้นทรัพย์ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยที่ 1 เกรงความผิด จึงสั่งให้จำเลยที่ 2 ยิง ดังนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำตาม ก.ม.วิ.อาญามาตรา 83 วรรค 2 แต่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินไปกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 53
(อ้างฎีกา 618/2461)
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วย ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่โดยจับกุมผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ร้ายสำคัญเรื่องปล้นทรัพย์ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยที่ 1 เกรงความผิด จึงสั่งให้จำเลยที่ 2 ยิง ดังนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำตาม ก.ม.วิ.อาญามาตรา 83 วรรค 2 แต่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินไปกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 53
(อ้างฎีกา 618/2461)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังในการจับกุมผู้ต้องหาหลบหนี: อำนาจตามกฎหมายและความเกินสมควร
ถ้าบุคคลซึ่งจะถูกจับหลบหนีหรือพยายามจะหลบหนี ผู้ทำการจับมีอำนาจใช้วิธีหรือความป้องกันทั้งหลายเท่าที่เหมาะแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องในการจับผู้นั้น
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วย ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่โดยจับกุมผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ร้ายสำคัญเรื่องปล้นทรัพย์ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยที่ 1 เกรงความผิด จึงสั่งให้จำเลยที่ 2 ยิง ดั่งนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 83 วรรค 2 แต่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินไปกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 53 (อ้างฎีกา 618/2461)
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วย ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่โดยจับกุมผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ร้ายสำคัญเรื่องปล้นทรัพย์ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยที่ 1 เกรงความผิด จึงสั่งให้จำเลยที่ 2 ยิง ดั่งนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 83 วรรค 2 แต่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินไปกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 53 (อ้างฎีกา 618/2461)