พบผลลัพธ์ทั้งหมด 493 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารสิทธิเพื่อหลอกลวงสถานกงสุล ถือเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
สมุดคู่ฝากบัญชีออมทรัพย์มีข้อความแสดงว่าผู้ฝากได้ฝากเงินไว้กับธนาคารย่อมเป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งสิทธิแก่ผู้ฝากที่จะเรียกถอนเงินฝากคืน หาใช่เพียงแต่เป็นหลักฐานแสดงฐานะของผู้ฝากไม่ การที่มิได้ทำขึ้นเพื่อใช้ถอนเงินฝากนั้นก็ไม่ทำให้ลักษณะของเอกสารเปลี่ยนแปลงไปจึงเป็นเอกสารสิทธิ การที่จำเลยทำปลอมสมุดคู่ฝากให้แก่ ก. และหนังสือรับรองว่าผู้นั้นเป็นพนักงานของธนาคาร ด้วยเจตนาเดียวกันที่จะใช้เป็นหลักฐานหลอกลวงเจ้าหน้าที่สถานกงสุลฯให้ออกหนังสือผ่านแดนให้แก่ผู้มีชื่อคนนั้น ไม่ว่าจำเลยจะปลอมเอกสารนั้นพร้อมกันหรือคนละคราว ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลอกลวงเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเงิน โดยการโฆษณาชักชวนทำงานต่างประเทศแต่ไม่พาไปจริง ถือเป็นความผิดฐานหลอกลวงประชาชน
จำเลยที่ 1 ประกาศรับสมัครคนงานไปทำงานในต่างประเทศจนผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งรวม 7 คนหลงเชื่อไปสมัครเพื่อทำงาน ตามที่จำเลยประกาศจำเลยกับพวกรับเงินผู้เสียหายไว้เป็นจำนวนมาก แต่ผู้เสียหายไม่ได้ไปทำงานยังต่างประเทศตามที่ จำเลยกับพวกประกาศชักชวน ดังนี้การกระทำของจำเลยที่1 ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 โดยทุจริตหลอกลวงประชาชนรวม ทั้งผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และโดยการหลอกลวงได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้เสียหายจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงประชาชนเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน โดยแสดงข้อความเท็จและยักยอกทรัพย์สิน
จำเลยที่ 1 ประกาศรับสมัครคนงานไปทำงานในต่างประเทศจนผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งรวม 7 คนหลงเชื่อไปสมัครเพื่อทำงาน ตามที่จำเลยประกาศจำเลยกับพวกรับเงินผู้เสียหายไว้เป็นจำนวนมาก แต่ผู้เสียหายไม่ได้ไปทำงานยังต่างประเทศตามที่ จำเลยกับพวกประกาศชักชวนดังนี้การกระทำของจำเลยที่1ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 โดยทุจริตหลอกลวงประชาชนรวม ทั้งผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และโดยการ หลอกลวงได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้เสียหายจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานเป็นซ่องโจรจากการร่วมวางแผนหลอกลวงเล่นพนันบนรถโดยสาร แม้ไม่ได้ขึ้นรถก็ถือเป็นผู้ร่วมกระทำผิด
จำเลยที่ 5 กับพวกรวม 10 คนจับกลุ่มกันวางแผนเพื่อจะใช้ตลับยาหม่องครอบเหรียญพนันบนรถยนต์โดยสารประจำทางโดยจำเลยที่ 1 จะเป็นคนใช้ตลับยาหม่องครอบเหรียญ แล้วให้จำเลยอื่นเป็นหน้าม้าแทงจำเลยที่ 1 แจกเงินให้จำเลยอื่น ทุกคนเพื่อนำไปแทงใครได้เสียเท่าใดให้จำไว้ เมื่อเลิกเล่นแล้วจะคืนให้หมดจำเลยอื่นขึ้นไปบนรถยนต์โดยสารประจำทางส่วนจำเลยที่ 5 รออยู่ที่สถานีขนส่ง และจะขับรถมารับจำเลยอื่นระหว่างทางหลังจากเล่นการพนันเสร็จแล้ว เมื่อรถยนต์โดยสารออกจากสถานีขนส่ง จำเลยที่ 1 กับพวกลงมือเล่นการพนันทายเหรียญแล้วชักชวนให้ผู้โดยสารมาแทงอันเป็นการสมคบกันเพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สินของผู้ที่โดยสารไปกับรถยนต์โดยสารโดยทุจริตอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ดังนี้ แม้จำเลยที่ 5 จะไม่ได้ขึ้นไปบนรถยนต์โดยสารพร้อมกับจำเลยอื่น แต่ก็รออยู่ที่สถานีขนส่งและจะขับรถตาม มารับจำเลยอื่นเมื่อเลิกเล่นกันแล้วอันเป็นการแสดงถึง การแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจำเลยที่ 5 ได้เข้าร่วมปรึกษาวางแผนกับจำเลยอื่นแล้วการกระทำของจำเลยที่ 5 จึงเป็นความผิดฐานเป็นซ่องโจร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องฉ้อโกงไม่สมบูรณ์ หากไม่ระบุทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวง หรือมูลหนี้ที่เกี่ยวข้อง
ฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกง ไม่ได้บรรยายให้ปรากฏว่าจากการกระทำของจำเลยนั้น จำเลยได้ทรัพย์สินอะไรไปจากโจทก์ หรือโจทก์ต้องถอนทำลายเอกสารสิทธิอะไรไปบ้าง ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่จะต้องกล่าวถึง แม้ฟ้องจะบรรยายว่าจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คของบุคคลภายนอกที่จำเลยไม่มีอำนาจสั่งจ่ายเพราะจำเลยไม่มีบัญชีเงินฝากในธนาคารตามเช็ค และมอบเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ก็ตามแต่ก็ไม่ได้ความว่าชำระหนี้อะไร มีมูลหนี้เกี่ยวข้องกันระหว่างโจทก์กับจำเลยอย่างไรอันพอจะแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ทรัพย์สินไปจากโจทก์เนื่องจากถูกจำเลยหลอกลวง ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วย พอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีซึ่งไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 328/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงผู้เยาว์เพื่ออนาจารและเอาทรัพย์สิน โดยอ้างความรักเป็นเครื่องมือ
จำเลยเขียนจดหมายนัดพาผู้เสียหายอายุ 14 ปี ไปอยู่ด้วยกัน บอกให้เอาเงินและของมีค่าไปด้วย จำเลยได้พาผู้เสียหายไปเบิกเงินจากธนาคารทั้งหมดเอามาเก็บไว้เสียเองและแบ่งให้มารดาจำเลยครึ่งหนึ่ง จำเลยพาผู้เสียหายย้ายที่อยู่หลายแห่ง เมื่อมารดาผู้เสียหายตามไปพบที่ต่างจังหวัด จำเลยหลบหนีการจับกุมไปได้ ไม่กล้าสู้ความจริงว่าพาไปเป็นภรรยา ไม่มาตกลงกัน พฤติการณ์บ่งชี้ว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายโดยยกความรักใคร่ฉันชู้สาวมาอ้างกลบเกลื่อนความคิดกระทำอนาจาร และหลอกเอาทรัพย์สินมีค่าของผู้เสียหาย จำเลยมีภรรยาแล้ว และขณะพาผู้เสียหายหลบหนี จำเลยก็ยังอยู่กินกับภรรยาดังนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2918/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและการออกเช็คไร้มูลค่า: กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
จำเลยกับพวกร่วมกันใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบสินค้าให้แก่จำเลยไป และในวันนั้นเอง จำเลยออกเช็คให้แก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ค่าสินค้าที่หลอกลวงไปนั้น เห็นได้ว่าการเขียนเช็คมอบให้แก่ผู้เสียหายได้กระทำในเวลาต่อเนื่องใกล้ชิดกับเวลาที่รับสินค้าไปจากผู้เสียหาย โดยมีเจตนาอย่างเดียวคือให้ได้สินค้าตามที่ต้องการจากผู้เสียหาย การออกเช็คเป็นเพียงการกระทำส่วนหนึ่งของการหลอกลวงเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าจากผู้เสียหายเท่านั้นการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฉ้อโกงและเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค แต่เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2645/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานหลอกลวงประชาชนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน มีหน้าที่ด้านพัฒนาชุมชนโดยเป็นผู้วางแผนหรือวางโครงการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกับราษฎรและติดต่อประสานงานระหว่างราษฎรกับทางราชการ จำเลยเป็น ผู้วางโครงการจัดสร้างทำนบฝายน้ำล้นตามความต้องการของราษฎร เพื่อเสนอให้ พ. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนำไปชี้แจงขอรับ เงินจัดสรร จากรัฐบาล การที่จำเลยหลอกลวงเอาเงินราษฎรที่ เข้าร่วมประชุมด้วยการเสนอข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยอ้างว่าเพื่อจะนำไปมอบ ให้ พ.เป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นขอจัดสรรเงินจากทางราชการ และเอาเงินนั้นไว้เป็นของตนจึงเป็นการ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบแม้จะเป็นการจูงใจ ให้ราษฎรที่ประชุมมอบเงินหรือทรัพย์สินให้แก่จำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148
การกระทำอันจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น ถือเอาเจตนาแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก ให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นข้อสำคัญ มิได้ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นเกณฑ์ การที่ จำเลยหลอกลวงเอาเงินจากราษฎรที่มาประชุมจัดสร้างทำนบ ฝายน้ำล้นแม้บุคคลที่ถูกจำเลยหลอกลวงจะมีหลายคน ก็ถือ ไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน ตามมาตรา 343
คดีที่โจทก์ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222แต่ข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้นไม่พอแก่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานใน สำนวนเพิ่มเติมได้
การกระทำอันจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น ถือเอาเจตนาแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก ให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นข้อสำคัญ มิได้ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นเกณฑ์ การที่ จำเลยหลอกลวงเอาเงินจากราษฎรที่มาประชุมจัดสร้างทำนบ ฝายน้ำล้นแม้บุคคลที่ถูกจำเลยหลอกลวงจะมีหลายคน ก็ถือ ไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน ตามมาตรา 343
คดีที่โจทก์ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222แต่ข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้นไม่พอแก่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานใน สำนวนเพิ่มเติมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2645/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานตาม ม.157 จากการหลอกลวงราษฎรเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวในการจัดสร้างทำนบ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานพัฒนาชุมชนมีหน้าที่ด้านพัฒนาชุมชนโดยเป็นผู้วางแผนหรือวางโครงการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกับราษฎรและติดต่อประสานงานระหว่างราษฎรกับทางราชการ จำเลยเป็น ผู้วางโครงการจัดสร้างทำนบฝายน้ำล้นตามความต้องการของราษฎร เพื่อเสนอให้ พ. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนำไปชี้แจงขอรับ เงินจัดสรร จากรัฐบาล การที่จำเลยหลอกลวงเอาเงินราษฎรที่ เข้าร่วมประชุมด้วยการเสนอข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยอ้างว่าเพื่อจะนำไปมอบ ให้ พ. เป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นขอจัดสรรเงินจากทางราชการ และเอาเงินนั้นไว้เป็นของตนจึงเป็นการ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบแม้จะเป็นการจูงใจ ให้ราษฎรที่ประชุมมอบเงินหรือทรัพย์สินให้แก่จำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 การกระทำอันจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น ถือเอาเจตนาแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก ให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นข้อสำคัญ มิได้ถือเอาจำนวน ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นเกณฑ์ การที่ จำเลยหลอกลวงเอาเงินจากราษฎรที่มาประชุมจัดสร้างทำนบ ฝายน้ำล้นแม้บุคคลที่ถูกจำเลยหลอกลวงจะมีหลายคน ก็ถือ ไม่ได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน ตามมาตรา 343 คดีที่โจทก์ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟัง ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 แต่ข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้นไม่พอแก่การวินิจฉัย ปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานใน สำนวนเพิ่มเติมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฉ้อโกง: การหลอกลวงให้เชื่อว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายโดยมีเจตนาทุจริต แม้ยังไม่ได้รับทรัพย์สิน
การที่จำเลยนำความเท็จมาอวดอ้างแก่ผู้เสียหายว่าจำเลยและพวก สามารถติดต่อกับบริษัทสุรามหาราษฎร จำกัด ให้แต่งตั้งผู้เสียหาย เป็นตัวแทนจำหน่ายสุราแม่โขงซึ่งไม่เป็นความจริง โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตที่จะหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย แม้ผู้เสียหายจะไม่ส่งมอบทรัพย์ให้ตามที่จำเลยหลอกลวง การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดฐานพยายามฉ้อโกงผู้เสียหายแล้ว