พบผลลัพธ์ทั้งหมด 479 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต: การออกหนังสือสำคัญ ส.๑/๔๒ ที่ไม่ถูกต้อง
ตาม พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๑๖ อธิบดีกรมสรรพสามิตมีอำนาจอนุญาตให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราประเภทที่ ๑ หรือประเภทที่ ๒ หรือตัวแทนออกหนังสือสำคัญแบบ ส.๑/๔๒ สำหรับขนสุราออกจากสถานที่ขายสุราของตน ได้ ตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดไว้โดย ถือ เสมือนหนึ่งเป็นใบอนุญาตขนสุราตาม มาตรา ๑๔ การที่จำเลยซื้อ เบียร์จำนวน ๒,๔๐๐ ขวดจากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราและผู้ได้รับใบอนุญาตได้ ออกหนังสือสำคัญแบบ ส.๑/๔๒ ให้จำเลย โดยเขียนชื่อ ผู้ซื้อซึ่ง จำเลยเป็นผู้บอกไม่ตรงกับความเป็นจริงและไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวจะมีตัวตน จริงหรือไม่ จึงถือว่าไม่ปฏิบัติตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนด ไม่มีผลให้หนังสือสำคัญดังกล่าวเป็นเสมือนหนึ่งใบอนุญาตขนสุรา จำเลยจึงมีความผิดฐาน ขนสุราโดย ไม่ได้รับใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติสุราพ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๑๔ ๓๘ ทวิ และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.๒๔๙๗(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๘.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสุราโดยใช้หนังสือสำคัญ ส.1/42 ที่กรอกข้อมูลไม่ตรงความเป็นจริง ไม่ถือเป็นใบอนุญาตขนสุรา
ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 16 อธิบดีกรมสรรพสามิตมีอำนาจอนุญาตให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราประเภทที่ 1 หรือประเภทที่ 2 หรือตัวแทนออกหนังสือสำคัญแบบ ส.1/42 สำหรับขนสุราออกจากสถานที่ขายสุราของตนได้ตามเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดไว้โดยถือเสมือนหนึ่งเป็นใบอนุญาตขนสุราตามมาตรา 14 การที่จำเลยซื้อเบียร์จำนวน 2,400 ขวดจากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราและผู้ได้รับใบอนุญาตได้ออกหนังสือสำคัญแบบ ส.1/42 ให้จำเลยโดยเขียนชื่อผู้ซื้อซึ่งจำเลยเป็นผู้บอกไม่ตรงกับความเป็นจริงและไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวจะมีตัวตนจริงหรือไม่ จึงถือว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนด ไม่มีผลให้หนังสือสำคัญดังกล่าวเป็นเสมือนหนึ่งใบอนุญาตขนสุรา จำเลยจึงมีความผิดฐานขนสุราโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493มาตรา 14,38 ทวิ และพระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497มาตรา 8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีหนังสือสำคัญ ส.1/42 ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข
ตาม พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 16 อธิบดีกรมสรรพสามิตมีอำนาจอนุญาตให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราประเภทที่ 1 หรือประเภทที่ 2 หรือตัวแทนออกหนังสือสำคัญแบบ ส.1/42 สำหรับขนสุราออกจากสถานที่ขายสุราของตน ได้ ตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดไว้โดย ถือ เสมือนหนึ่งเป็นใบอนุญาตขนสุราตาม มาตรา 14 การที่จำเลยซื้อ เบียร์จำนวน 2,400 ขวดจากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราและผู้ได้รับใบอนุญาตได้ ออกหนังสือสำคัญแบบ ส.1/42 ให้จำเลย โดยเขียนชื่อ ผู้ซื้อซึ่ง จำเลยเป็นผู้บอกไม่ตรงกับความเป็นจริงและไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวจะมีตัวตน จริงหรือไม่ จึงถือว่าไม่ปฏิบัติตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนด ไม่มีผลให้หนังสือสำคัญดังกล่าวเป็นเสมือนหนึ่งใบอนุญาตขนสุรา จำเลยจึงมีความผิดฐาน ขนสุราโดย ไม่ได้รับใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 มาตรา 1438 ทวิ และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2497(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 8.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1630/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกันการชำระหนี้ตามคำพิพากษา: เงื่อนไขการสิ้นสุดความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดย ให้จำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้อง ชำระตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้นพร้อมด้วยดอกเบี้ย จนถึง วันฟังคำสั่งมาวางศาล ผู้ค้ำประกันนำที่ดินมาวางต่อศาลชั้นต้น และทำหนังสือค้ำประกันจำเลยโดย มีหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นประกันว่า ถ้า จำเลยแพ้คดีโจทก์และไม่นำเงินมาชำระให้ตามคำพิพากษาเป็นจำนวนทั้งสิ้นเท่าใด ผู้ค้ำประกันยอมให้บังคับคดีเอาจากหลักทรัพย์ที่นำมาวางไว้เป็นประกันได้ ทันที ดังนี้ความรับผิดของผู้ค้ำประกันตาม หนังสือค้ำประกันฉบับนี้จะสิ้นไปก็ต่อเมื่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาศาลใด ศาลหนึ่งพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ หรือในระหว่างฎีกาได้ มีการทำหนังสือค้ำประกันขึ้นใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งมีเงื่อนไข – อุทธรณ์ไม่ชัดแจ้ง – ศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย โดยวินิจฉัยว่า ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นฟ้องที่มีเงื่อนไขและยังไม่มีข้อโต้แย้งตามกฎหมายจำเลยอุทธรณ์ว่า ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์ มิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นว่าไม่ชอบอย่างไรหรือเพราะเหตุใด จึงเป็นอุทธรณ์ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ชอบที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเรื่องแบ่งสินสมรสเป็นฟ้องที่มีเงื่อนไข ศาลไม่ต้องรับ หากศาลยังไม่พิพากษาให้หย่า
โจทก์ฟ้องขอหย่าโดยอ้างเหตุตามกฎหมาย จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการดังโจทก์กล่าวหา ขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอให้แบ่งสินสมรส ดังนี้ศาลจะต้องวินิจฉัยว่ามีเหตุหย่าตามฟ้องหรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุหย่า ศาลก็พิพากษายกฟ้องไป ไม่ต้องพิจารณาตามฟ้องแย้งของจำเลย การที่จำเลยฟ้องแย้งว่าถ้าศาลพิพากษาหย่าก็ให้แบ่งสินสมรส จึงเป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข ศาลรับคำให้การแต่ไม่รับฟ้องแย้ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งแบ่งสินสมรสมีเงื่อนไข ศาลไม่รับ หากยังมิได้วินิจฉัยเหตุหย่า
การที่โจทก์ฟ้องขอหย่าโดยอ้างเหตุตามกฎหมาย จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการดังโจทก์กล่าวหา ขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอให้แบ่งสินสมรสนั้น เมื่อจำเลยปฏิเสธว่าไม่มีเหตุหย่า ศาลจะต้องวินิจฉัยว่ามีเหตุหย่าตามฟ้องหรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุหย่าก็ต้องพิพากษายกฟ้อง โดยไม่ต้องพิจารณาตามฟ้องแย้งของจำเลย ฉะนั้นฟ้องแย้งของจำเลยที่ว่า ถ้าศาลพิพากษาให้หย่าก็ให้แบ่งสินสมรสจึงเป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข ศาลชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้ง.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งแบ่งสินสมรสมีเงื่อนไข: ศาลไม่รับ หากยังไม่มีเหตุหย่า
โจทก์ฟ้องขอหย่าโดยอ้างเหตุตามกฎหมาย จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการดังโจทก์กล่าวหา ขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอให้แบ่งสินสมรส ดังนี้ ศาลจะต้องวินิจฉัยว่ามีเหตุหย่าตามฟ้องหรือไม่ถ้าไม่มีเหตุหย่า ศาลก็พิพากษายกฟ้องไป ไม่ต้องพิจารณาตามฟ้องแย้งของจำเลย การที่จำเลยฟ้องแย้งว่าถ้าศาลพิพากษาหย่าก็ให้แบ่งสินสมรส จึงเป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข ศาลรับคำให้การแต่ไม่รับฟ้องแย้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขการฟ้องแย้งในคดีหย่า: ศาลไม่รับฟ้องแย้งหากไม่มีเหตุหย่า
โจทก์ฟ้องขอหย่าโดยอ้างเหตุตามกฎหมาย จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำการดังโจทก์กล่าวหา ขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอให้แบ่งสินสมรส ดังนี้ศาลจะต้องวินิจฉัยว่ามีเหตุหย่าตามฟ้องหรือไม่ถ้าไม่มีเหตุหย่า ศาลก็พิพากษายกฟ้องไป ไม่ต้องพิจารณาตามฟ้องแย้งของจำเลย การที่จำเลยฟ้องแย้งว่าถ้าศาลพิพากษาหย่าก็ให้แบ่งสินสมรส จึงเป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข ศาลรับคำให้การแต่ไม่รับฟ้องแย้ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คชำระหนี้สินค้าและเงื่อนไขการส่งมอบสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ค่าสินค้าที่ค้างชำระโจทก์ร่วมกับสินค้าใหม่ที่จำเลยสั่งซื้อจากโจทก์ร่วมเมื่อโจทก์ร่วมยังส่งสินค้าให้จำเลยไม่ครบถ้วน แต่นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงิน แม้ธนาคาร ตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่าบัญชีปิดแล้ว การกระทำของจำเลยก็ยังไม่เป็นความผิด.