พบผลลัพธ์ทั้งหมด 432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีขับไล่เมื่อไม่ได้เป็นเจ้าของ/ครอบครองที่ดิน & อายุความรบกวนการครอบครอง
คู่ความตกลงสละประเด็นข้ออื่นทั้งหมด คงต่อสู้กันในประเด็นว่า 'โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทและขณะฟ้องไม่ได้เป็นผู้ครอบครองที่พิพาท โจทก์จะมีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่' ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นผู้เช่าที่พิพาทมาจากวัด จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน หากไม่ได้ครอบครองเพื่อตนเอง
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีอาวุธปืนไม่มีเลขทะเบียนเครื่องหมายของเจ้าพนักงานประทับไว้ในความครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นปืนของจำเลยที่ 2ซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ได้ตามกฎหมาย ดังนี้ ข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ในข้อสารสำคัญ และจำเลยที่ 1 มิได้หลงต่อสู้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 588/2509)
ปืนมีเลขทะเบียนเครื่องหมายของเจ้าพนักงานเป็นของจำเลยที่ 2ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยที่ 2 มอบอาวุธปืนกระบอกที่กล่าวให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรถือในขณะกำลังรอขึ้นรถกลับบ้านมาด้วยกัน ดังนี้ จำเลยที่ 1 ยังไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1824/2499)
ปืนมีเลขทะเบียนเครื่องหมายของเจ้าพนักงานเป็นของจำเลยที่ 2ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยที่ 2 มอบอาวุธปืนกระบอกที่กล่าวให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรถือในขณะกำลังรอขึ้นรถกลับบ้านมาด้วยกัน ดังนี้ จำเลยที่ 1 ยังไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1824/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน: ความผิดฐานบุกรุกต้องมีเจตนาและที่ดินต้องชัดเจนว่าเป็นของผู้อื่น
คดียังไม่ได้ความชัดว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือของนางพอนจำเลยเข้าไปทำนาในที่พิพาทโดยนางพอนให้เข้าไปทำ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก ตามนัยฎีกาที่ 253/2510
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์สินของกลางในการคัดค้านการริบและการเสนอคำร้องต่อศาลทั้งในระหว่างพิจารณาและหลังมีคำพิพากษา
ในคดีอาญาที่โจทก์มีคำขอให้ริบของกลางนั้น เจ้าของทรัพย์สินของกลางจะมีคำเสนอหรือคำร้องต่อศาลชั้นต้นในระหว่างพิจารณาคดีนั้นก็ได้ ซึ่งศาลชั้นต้นจำต้องรับคำเสนอหรือคำร้องนั้นไว้เพื่อพิจารณาและวินิจฉัยต่อไปตามมาตรา 33 วรรคท้าย หรือมาตรา 34
ในกรณีที่ศาลได้สั่งให้ริบทรัพย์สินตามมาตรา 33 หรือ 34 แล้วเจ้าของอันแท้จริงมีสิทธิที่จะทำคำเสนอต่อศาลตามมาตรา 36 ไม่ว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่ก็ตาม และถ้าปรากฏตามคำเสนอดังกล่าวว่าเจ้าของอันแท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น ศาลก็ต้องสั่งให้คืนทรัพย์สินแก่เจ้าของอันแท้จริงถ้าทรัพย์นั้นยังคงมีอยู่แต่คำเสนอนี้จะต้องกระทำต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดเท่านั้น
ในกรณีที่ศาลได้สั่งให้ริบทรัพย์สินตามมาตรา 33 หรือ 34 แล้วเจ้าของอันแท้จริงมีสิทธิที่จะทำคำเสนอต่อศาลตามมาตรา 36 ไม่ว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่ก็ตาม และถ้าปรากฏตามคำเสนอดังกล่าวว่าเจ้าของอันแท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น ศาลก็ต้องสั่งให้คืนทรัพย์สินแก่เจ้าของอันแท้จริงถ้าทรัพย์นั้นยังคงมีอยู่แต่คำเสนอนี้จะต้องกระทำต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์ที่ถูกยึด ไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์เพื่อปล่อยทรัพย์
เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์ที่ถูกยึดไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียภาษีโรงเรือนกรณีมีผู้เช่าเดิมและผู้เช่าบิดพลิ้วมิยอมออกไป ไม่อยู่ในข้อยกเว้นตามกฎหมาย
โรงเรือนเป็นของจำเลย อยู่ในเขตเทศบาลจำเลย มิได้ปิดไว้และจำเลยมิได้อยู่เองหรือให้ผู้อื่นอยู่ หากแต่มีผู้เช่าอยู่สืบมาจากเจ้าของเดิม แต่ผู้เช่าบิดพลิ้วไม่ยอมออกไป ดังนี้ ไม่อยู่ในข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 9(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียภาษีโรงเรือนกรณีมีผู้เช่าเดิมและผู้เช่าบิดพลิ้วไม่ออกไป ไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย
โรงเรือนเป็นของจำเลย อยู่ในเขตเทศบาลจำเลย มิได้ปิดไว้และจำเลยมิได้อยู่เอง หรือให้ผู้อื่นอยู่ หากแต่มีผู้เช่าอยู่สืบมาจากเจ้าของเดิม แต่ผู้เช่าบิดพลิ้วไม่ยอมออกไป ดังนี้ ไม่อยู่ในข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 9(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ส.ค.1 ไม่ใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ การแจ้งครอบครองที่ดินไม่สร้างข้อสันนิษฐานว่าผู้แจ้งเป็นเจ้าของ
การแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่นั้น (แจ้ง ส.ค.1) หาใช่เป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าผู้แจ้งการครอบครองเป็นผู้มีสิทธิในที่นั้นเสมอไปไม่
มาตรา 1373 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิครอบครองเฉพาะในที่ดินซึ่งได้มีการจดทะเบียนออกโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว ฉะนั้น ที่ผู้ร้องไปแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 5 จึงไม่อาจปรับเข้าข้อสันนิษฐานตามความในมาตรา 1373 ได้
มาตรา 1373 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิครอบครองเฉพาะในที่ดินซึ่งได้มีการจดทะเบียนออกโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว ฉะนั้น ที่ผู้ร้องไปแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 5 จึงไม่อาจปรับเข้าข้อสันนิษฐานตามความในมาตรา 1373 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664-1665/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นการครอบครองในฐานะเจ้าของ มิใช่แทนเจ้าของ การยกที่ดินของผู้อื่นให้โจทก์ไม่มีผลผูกพัน
ฉ. เข้าครอบครองที่ดินจัดหาผลประโยชน์แทนจำเลยที่ 2 หาใช่จัดทำในฐานะตนเองเป็นเจ้าของไม่ แม้จะนานสักปานใดก็ตาม หาทำให้ได้กรรมสิทธิ์ทางปรปักษ์ไม่เว้นแต่จะได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือโดยบอกกล่าวไปยังเจ้าของ ว่าไม่มีเจตนายึดถือทรัพย์แทนเจ้าของต่อไป
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ฉ. ย่อมไม่มีสิทธิที่จะยกที่ดินพิพาทซึ่งไม่ใช่ของตนให้แก่ผู้อื่น
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ฉ. ย่อมไม่มีสิทธิที่จะยกที่ดินพิพาทซึ่งไม่ใช่ของตนให้แก่ผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเช่าซื้อ: การขายฝากโดยผู้เช่าซื้อไม่มีผลผูกพันต่อเจ้าของกรรมสิทธิ์
จำเลยเช่าซื้อเครื่องยนต์ไปจากโจทก์ แล้วผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ ก่อนโจทก์ฟ้องเรียกเงินค้างชำระ จำเลยเอาเครื่องยนต์นั้นไปขายฝากแก่ผู้ร้อง เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย จำเลยประนีประนอมยอมความกับโจทก์ยอมชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างแต่แล้วก็ผิดนัดชำระอีก แม้จำเลยจะมิได้ไถ่เครื่องยนต์นั้นคืนจากผู้ร้องตามสัญญาขายฝาก โจทก์ก็ยังมีสิทธินำยึดเครื่องยนต์นั้นได้ เพราะจำเลยมิได้มีกรรมสิทธิ์อันจะนำไปขายฝากได้