คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็คพิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 256 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในคดีเช็คพิพาทหลายฉบับ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแต่ละฉบับถือเป็นกรรมต่างกัน และการฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจโทษเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน20,000 บาท และลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 แต่ละกระทงไม่เกิน 1 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้ลดค่าปรับให้แก่จำเลยที่ 1 และลงโทษจำเลยที่ 2ในสถานเบาและรอการลงโทษจำเลยที่ 2 ไว้ด้วยนั้น เป็นการฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
จำเลยออกเช็คพิพาทรวม 4 ฉบับ เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์ในวันเดียวกันและสั่งจ่ายเงินวันเดียวกัน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปในวันเดียวกันทั้งหมดทุกฉบับแต่การออกเช็คดังกล่าวเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่ปรากฏในเช็คซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การที่จำเลยทั้งสองออกเช็คหลายฉบับและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าวจึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 31/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การรับโอนเช็คโดยชอบ และอำนาจศาลในการงดสืบพยานที่ประวิงคดี
ร.และจำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาทซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นผู้สั่งจ่ายไปแลกเงินสดจากโจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทมาในฐานะผู้รับเงินตามเช็ค จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
จำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อในเช็ค ซึ่งเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่ง ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น ตามมาตรา 900
ศาลต้องเลื่อนคดีเพราะพยานจำเลยปากหนึ่งไม่มาศาลถึง 6ครั้ง เนื่องจากพยานไม่เต็มใจมาเบิกความโดยพยานหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับหมาย พยานเคยมีหนังสือแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า พยานไม่เคยเกี่ยวข้องกับจำเลยและไม่ทราบว่าจำเลยจะอ้างเป็นพยานในประเด็นข้อใด แสดงว่าพยานปากนี้อาจจะมิใช่ผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงในคดีก็ได้ ทั้งไม่ปรากฏจากคำแถลงหรือข้อนำสืบของจำเลยว่าพยานดังกล่าวเป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีที่จะนำสืบอย่างไรฉะนั้นการที่จะให้ได้ตัวพยานปากนี้มาเบิกความนอกจากจะทำให้คดีต้องล่าช้าแล้ว คำเบิกความของพยานน่าจะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยแต่อย่างใด พยานดังกล่าวจึงเป็นพยานที่ประวิงให้ชักช้าแม้การที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิกความจะมิใช่ความผิดของจำเลย ศาลก็มีอำนาจที่จะงดสืบพยานเช่นว่านั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3934/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทหลังเลิกสัญญาเช่าซื้อ: ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องเงินจากผู้ทำเช็ค
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์แต่แล้วผิดสัญญา เจ้าของยึดรถคืนเมื่อจำเลยได้ออกเช็คพิพาทชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างก่อนเลิกสัญญาเช่าซื้อ และเจ้าของรถสลักหลังเช็คให้โจทก์ก่อนบอกเลิกสัญญา โจทก์ได้รับโอนเช็คมาเป็นการชำระหนี้จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อธนาคาร ปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3820/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเช็คพิพาทโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีมูลหนี้เป็นการคบคิดฉ้อฉล
คำให้การจำเลยที่ว่า จำเลยได้จ่ายเช็คพิพาทให้แก่ ส.และต่อมาได้มีการหักกลบลบหนี้กัน เช็คพิพาททั้งสามฉบับไม่มีมูลหนี้ต่อกันอีกการที่โจทก์ซึ่งเป็นมารดาของส. ได้นำเช็คพิพาทมาฟ้องจำเลยโดยอ้างว่าได้รับโอนมาจาก ส.นั้น.จะเห็นได้ชัดแจ้งว่าโจทก์กับส. ได้คบคิดกันฉ้อฉลจำเลยเพื่อสมคบกันเรียกเงินจากจำเลยอีกนั้น พอเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่า เมื่อโจทก์รับโอนเช็คพิพาทจาก ส. มาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยนั้น โจทก์รู้อยู่แล้วว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกันแล้วแต่โจทก์รู้เห็นเป็นใจกับ ส. บุตรสาวของตนอันเป็นการคบคิดกันฉ้อฉลจำเลย คำให้การของจำเลยเช่นนี้เป็นการแสดงโดยชัดแจ้งถึงข้อต่อสู้ของจำเลยรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองแล้ว
โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาจาก ส.. โดยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีมูลหนี้ต่อกัน การที่โจทก์เอาเช็คพิพาทมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีก จึงเป็นการคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยจำเลยจึงยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ประกอบด้วย มาตรา989

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3734/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: มูลหนี้สัญญาเช่าซื้อ, การโอนสิทธิเรียกร้อง, ผู้ทรงเช็คโดยชอบ
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากห้าง ท. มีข้อสัญญาว่า เมื่อสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลงจำเลยยินยอมชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่จนถึงวันบอกเลิกสัญญาจนครบ ปรากฏว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยออกเพื่อชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างก่อนห้าง ท. บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อจึงเป็นเช็คที่ออกเนื่องจากมีมูลหนี้ ผูกพันกัน ห้าง ท. สลักหลังโอนเช็คพิพาทชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์ จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3503/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องเงินจากผู้สั่งจ่าย แม้จะมีการอ้างเหตุหลอกลวง
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือซึ่งจำเลยรับว่าตนเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย และจำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับ บ.ผู้ทรงคนก่อนผู้ซึ่งจำเลยอ้างว่าออกเช็คให้เพราะจำเลยถูกหลอกลวงจำเลยจึงไม่อาจยกเหตุดังกล่าวขึ้นต่อสู้โจทก์โดยอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ บ. ได้ จำเลยย่อมต้องรับผิดชำระเงินให้แก่โจทก์ผู้ทรงตามเนื้อความในเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 วรรคแรก,914

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3440/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไล่เบี้ยผู้รับประกัน (อาวัล) ในเช็คพิพาทจากการเล่นแชร์และการชำระเงินให้ลูกวง
จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย และจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยที่ 2 ได้นำเช็คพิพาทไปให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นหัวหน้าวงแชร์ในการที่จำเลยที่ 1 ประมูลแชร์ได้โจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปมอบให้แก่ลูกวงที่ยังประมูลแชร์ไม่ได้ ต่อมาเมื่อลูกวงที่รับเช็คพิพาทไว้นั้นประมูลแชร์ได้แล้ว นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ โจทก์จึงมีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่ลูกวงตามข้อตกลงเล่นแชร์กัน เมื่อโจทก์ชำระเงินแก่ลูกวงและรับเช็คคืนมา โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายและมีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้รับประกัน(อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3421/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: สิทธิผู้ทรงเช็ค, ความรับผิดของผู้สลักหลัง, และการคิดดอกเบี้ยเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เช็คพิพาทเป็นเช็คอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ย่อมโอนให้แก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทไว้ในครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ถึงแม้โจทก์จะสลักหลังโอนเช็คให้ ป. และ ป. นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ซึ่งถือว่า ป. เป็นผู้เสียหายในขณะที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ทรงในการที่จะบังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 ประกอบกับมาตรา 989
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3421/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: สิทธิผู้ทรงเช็ค การโอนสิทธิ และความรับผิดของผู้สลักหลัง
เช็คพิพาทเป็นเช็คอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ย่อมโอนให้แก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทไว้ในครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ถึงแม้โจทก์จะสลักหลังโอนเช็คให้ ป. และ ป. นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ซึ่งถือว่า ป. เป็นผู้เสียหายในขณะที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ทรงในการที่จะบังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967ประกอบกับมาตรา 989
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4020/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คลดหนี้: แม้ตราบริษัทจะยกเลิก จำเลยยังผูกพันตามสัญญาขายลดเช็ค
เช็คพิพาทเป็นของจำเลย โดยลายมือชื่อที่ลงในช่องผู้สั่งจ่ายเป็นผู้แทนของจำเลยและจำเลยได้ขายลดเช็คดังกล่าวให้แก่โจทก์ แม้ตราสำคัญที่ประทับในเช็คจะเป็นตราที่จดทะเบียนยกเลิกแล้ว ก็หามีผลให้จำเลยหลุดพ้นจากหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คนั้นไม่
of 26