คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบิกความเท็จ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734-1735/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิ, เบิกความเท็จในคดีแพ่ง โดยจำเลยรู้อยู่ว่าข้อความเท็จ
โจทก์ได้ลงชื่อในแบบฟอร์มสัญญากู้ให้จำเลยที่ 1 ไป โดยยังไม่ได้กรอกข้อความ จำเลยทั้งสองร่วมกันกรอกข้อความลงไปในสัญญากู้ว่าโจทก์กู้เงินจำเลยที่ 1 จำนวนเงิน92,000 บาท เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2514 ซึ่งเป็นสัญญาปลอม จำเลยทั้งสอง จึงมีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ
จำเลยที่ 1 ได้นำเอกสารสัญญากู้ปลอมมาใช้ทวงถามและ ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง จึงมีความผิดฐานใช้เอกสารสิทธิปลอมอีกกระทงหนึ่งด้วยลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
ฟ้องในข้อหาเบิกความเท็จบรรยายว่า จำเลยทั้งสองเบิกความในคดีแพ่งว่า โจทก์กู้เงินจำเลยที่ 1 ตามสัญญากู้ปลอมที่กล่าวมา ข้างต้น อันเป็นความเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดี โดยมิได้บรรยายว่า จำเลยทั้งสองรู้อยู่ว่าข้อความที่เบิกความนั้นเป็นความเท็จ แต่เมื่อ อ่านฟ้องโดยตลอดแล้ว ย่อมเป็นที่เข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าข้อความ ที่จำเลยทั้งสองเบิกความนั้นจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ฟ้องได้ บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่ จะให้จำเลยทั้งสองเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126-127/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีแพ่งถึงสำเร็จความผิด แม้คดีนั้นสิ้นสุดด้วยการประนีประนอมยอมความ
ในคดีแพ่งที่จำเลยทั้งสองถูก ส. ฟ้องว่าผิดสัญญาขายที่ดินและเรียกค่าเสียหาย ซึ่งโจทก์ถูกเรียกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยนั้น ศาลได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่า จำเลยที่ 1 ได้มอบอำนาจให้โจทก์ (ซึ่งเป็นจำเลยร่วม) ขายที่พิพาทหรือไม่ อันเป็นประเด็นสำคัญชี้ขาดการแพ้ชนะคดีนั้น การที่จำเลยทั้งสองเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ไปจำหน่ายหรือขายที่ดินให้คนอื่นจึงเป็นข้อความสำคัญในคดี
เมื่อจำเลยเบิกความเท็จและข้อความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี แม้คดีนั้นจะเสร็จเด็ดขาดลงด้วยการประนีประนอมยอมความ และศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม การกระทำที่เป็นการเบิกความเท็จของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จแล้ว จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126-127/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีแพ่งถึงแม้มีการประนีประนอมยอมความแล้ว ก็ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ในคดีแพ่งที่จำเลยทั้งสองถูก ส. ฟ้องว่าผิดสัญญาขายที่ดินและเรียกค่าเสียหาย ซึ่งโจทก์ถูกเรียกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยนั้น ศาลได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่า จำเลยที่ 1 ได้มอบอำนาจให้โจทก์ (ซึ่งเป็นจำเลยร่วม)ขายที่พิพาทหรือไม่ อันเป็นประเด็นสำคัญชี้ขาดการแพ้ชนะคดีนั้น การที่จำเลยทั้งสองเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ไปจำหน่ายหรือขายที่ดินให้คนอื่น จึงเป็นข้อความสำคัญในคดี
เมื่อจำเลยเบิกความเท็จและข้อความนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีแม้คดีนั้นจะเสร็จเด็ดขาดลงด้วยการประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตามการกระทำที่เป็นการเบิกความเท็จของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จแล้ว จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารสัญญากู้เพื่อฟ้องร้องเรียกเงิน และเบิกความเท็จต่อศาล
กรอกข้อความลงในเอกสารที่มีลายมือชื่อของโจทก์โดยโจทก์มิได้ยินยอมให้กรอก แล้วนำเอกสารมาฟ้องเรียกเงินกู้เป็นการปลอมเอกสารตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรค 2 โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดที่ตำบลมะขามหย่ง แต่โจทก์เบิกความว่าเหตุเกิดที่บ้านจำเลย ตำบลบางปลาสร้อย เมื่อจำเลยรับว่าเป็นผู้กรอกข้อความและตำบลทั้งสองอยู่อำเภอเดียวกัน ไม่ถือว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับวันเกิดเหตุบุกรุก ศาลไม่ลงโทษเพราะจำเลยฟ้องผิดวัน และข้อความเท็จไม่เป็นสาระสำคัญ
จำเลยเบิกความว่าโจทก์บุกรุกในวันผิดจากที่ฟ้อง ถึงอย่างไรก็ลงโทษโจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์หลงต่อสู้ฐานที่อยู่ คำเบิกความว่าโจทก์บุกรุกจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี ไม่เป็นความผิดตาม มาตรา177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีเบิกความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเหตุการณ์
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกในรูปคณะกรรมการจัดการมรดกโดยระบุชื่อบุคคลพวกหนึ่ง และระบุตำแหน่งอีกพวกหนึ่งรวมทั้งหมด 11 ท่าน โดยมีตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงครามรวมอยู่ด้วย และมีข้อกำหนดไว้ว่าให้คณะกรรมการตั้งแต่ 5 ท่านขึ้นไปเป็นองค์ประชุมจัดการทรัพย์มรดกได้ พินัยกรรมมิได้ระบุชื่อโจทก์หรือตั้งโจทก์ให้เป็นคณะกรรมการจัดการมรดก
โจทก์ในฐานะส่วนตัวจึงไม่ใช่เป็นผู้จัดการมรดก ตามคำฟ้องของโจทก์อ่านเข้าใจได้ว่าโจทก์ในฐานะส่วนตัวได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มิได้อ้างว่าโจทก์เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม หรือฟ้องในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2666/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเดินเผชิญสืบและการวินิจฉัยความผิดฐานเบิกความเท็จ/แสดงหลักฐานเท็จ ศาลไม่จำเป็นต้องสั่งงดการเผชิญสืบหากโจทก์ไม่ติดใจ
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลไปเผชิยสืบที่พิพาท ศาลชั้นต้นสั่งว่าจะสั่งเมื่อสืบพยานบุคคลเสร็จแล้ว โจทก์สืบพยานบุคคลเสร็จแล้วแถลงหมดพยาน ดังนี้ ย่อมถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานอื่นอีกต่อไป รวมทั้งการที่ให้ศาลไปเผชิญสืบด้วย โดยศาลไม่จำเป็นต้องสั่งงดการเดินเผชิญสืบของโจทก์
การขอให้ศาลไปเดินเผชิญสืบนั้น ถ้าศาลเห็นว่าไม่จำเป็นจะสั่งงดเสียก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 174
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเบิกความเท็จและแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จว่าที่ดินของจำเลยไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ ซึ่งความจริงที่ดินของจำเลยมีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177,180 ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าที่ดินของจำเลยไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยที่กินความไปถึงความผิดฐานนำสืบหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จตามมาตรา 180 ตามที่โจทก์ฟ้องด้วยแล้ว มิใช่วินิจฉัยแต่เฉพาะความผิดฐานเบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2666/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเดินเผชิญสืบและการวินิจฉัยความผิดฐานเบิกความเท็จ/แสดงหลักฐานเท็จ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่าง
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลไปเผชิญสืบที่พิพาท ศาลชั้นต้นสั่งว่าจะสั่งเมื่อสืบพยานบุคคลเสร็จแล้ว โจทก์สืบพยานบุคคลเสร็จแล้วแถลงหมดพยาน ดังนี้ ย่อมถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานอื่นอีกต่อไปรวมทั้งการที่ให้ศาลไปเผชิญสืบด้วย โดยศาลไม่จำเป็นต้องสั่งงดการเดินเผชิญสืบของโจทก์
การขอให้ศาลไปเดินเผชิญสืบนั้น ถ้าศาลเห็นว่าไม่จำเป็นจะสั่งงด เสียก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 174
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเบิกความเท็จและแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จว่าที่ดินของจำเลยไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ ซึ่งความจริงที่ดินของจำเลยมีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177,180 ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าที่ดินจำเลยไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยที่กินความไปถึงความผิดฐานนำสืบหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จตามมาตรา 180ตามที่โจทก์ฟ้องด้วยแล้ว มิใช่วินิจฉัยแต่เฉพาะความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีเรียกคืนโฉนด การชำระหนี้จำนองไม่เป็นเหตุสำคัญในคดี
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโดยข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
จำเลยเบิกความในข้อที่ว่าโจทก์ชำระหนี้จำนองแล้วหรือไม่ ข้อนี้ไม่ว่าจะเท็จหรือไม่เท็จก็ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ที่จะได้รับหรือไม่ได้รับโฉนดคืนในคดีที่โจทก์ฟ้องผันแปรไปจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี ไม่มีมูลความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2120/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้เสียหาย: การแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
จำเลยเอาความเท็จฟ้องว่าโจทก์ชิงทรัพย์ และเบิกความเท็จทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์เป็นผู้เสียหายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 175,177 ได้
of 47