คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แก้ไขคำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 365 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาที่ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้ โดยวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงได้ แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนสร้อยราคา 5,000 บาทที่ยืมไปหรือให้ใช้ราคาพร้อมทั้งดอกเบี้ยนับจากวันผิดนัดถึงวันฟ้องอีก 560 บาทเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินกว่า 5,000 บาท จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
จำเลยฎีกาว่า พยานหลักฐานจำเลยควรรับฟังได้ว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จสิ้นแล้ว เป็นการเถียงว่า ควรรับฟังคำพยานอย่างไร จึงเป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง
เมื่อคำฟ้องฎีกาของจำเลยไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและศาลชั้นต้นก็สั่งรับฎีกามาแล้ว แม้จะใช้คำว่ารับฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายก็ตาม ก็หาได้ผูกมัดศาลฎีกาให้จำต้องถือตามด้วยไม่ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงในคำฟ้องฎีกาของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินพิพาทราคา 1,400 บาทเป็นของจำเลยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ที่ดิน 3 ใน 4 เป็นของโจทก์ทั้งสาม อีกส่วนหนึ่งเป็นของจำเลย ที่ดิน 3 ใน 4 นี้ราคา 1,050 บาท ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อยและการห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินพิพาทราคา 1,400 บาทเป็นของจำเลยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ที่ดิน 3 ใน 4 เป็นของโจทก์ทั้งสาม อีกส่วนหนึ่งเป็นของจำเลย ที่ดิน 3 ใน 4 นี้ราคา 1,050 บาท ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์และฎีกาที่จำกัดสิทธิ เนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาเพียงเล็กน้อย
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี. เป็นการแก้เพียงเล็กน้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ศาลฎีกาวินิจฉัยขอบเขตอำนาจศาลอุทธรณ์ในการแก้ไขคำพิพากษาเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่ 49784 ดีกว่าจำเลย.และให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่48018 และคำขอเลขที่ 48390 เสีย. ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 49784 ดีกว่าจำเลย. มิได้พิพากษาให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 48390 ด้วย.โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น. ดังนี้พอถือได้ว่า ข้อความในประเด็น.ข้อนี้ไม่จำเป็นแก่โจทก์. และโจทก์พอใจในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว ประเด็นข้อนี้เป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น. ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิพากษาแก้.คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 48390 ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185-195/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษา: ห้ามแก้ไขคำพิพากษาถึงที่สุด แม้มีการอ้างข้อเท็จจริงใหม่
คดีที่ศาลพิพากษาให้ลงโทษปรับและให้จำเลยออกจากป่าที่แผ้วถาง เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา กล่าวคือ ยังครอบครองป่าที่ศาลสั่งให้ออกอยู่ โจทก์จึงมีคำขอต่อศาลให้บังคับคดี ศาลย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นบังคับคดีแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โดยไม่จำเป็นจะต้องให้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยในทางแพ่งขึ้นมาใหม่ จำเลยจะอ้างว่าตนได้ครอบครองที่ป่ามาช้านานจนกลายเป็นที่นา ดังนี้ถือว่า เป็นการอ้างข้อเท็จจริงมาใหม่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติในทางพิจารณา หากจะฟังข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างมา ก็เท่ากับให้ดำเนินคดีกับจำเลยใหม่ ซึ่งจะมีผลเป็นการแก้คำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้ว ย่อมเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 190 โดยห้ามมิให้แก้ไขคำพิพากษาหรือคำสั่งซึ่งอ่านแล้ว นอกจากถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอให้ศาลสั่งให้เป็นผู้ไร้ความสามารถและแต่งตั้งผู้อนุบาล: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้แต่งตั้งผู้อนุบาลเพียงคนเดียว
คดีร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นผู้ไร้ความสามารถและตั้งผู้อนุบาลนั้น. เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาท. และเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยโดยศาลอุทธรณ์ ทำให้จำเลยไม่สามารถฎีกาในข้อเท็จจริงได้
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงสิทธิครอบครองที่ดินทุนทรัพย์ 3,100 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองเพียงครึ่งหนึ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินทั้งหมด ดังนี้ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248(อ้างฎีกาที่ 497/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องเงินกู้ vs. ค่าทำไม้ไผ่ ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์กลับสู่คำพิพากษาศาลชั้นต้น และคืนค่าธรรมเนียมเกิน
คดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 5,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป 3,128 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ไป แต่จำเลยได้รับเงินล่วงหน้าค่าทำไม้ไผ่จากโจทก์ 3,128 บาท แล้วทำไม้ไผ่ส่งโจทก์เพียง 2,000 ลำ คิดเป็นเงิน 2,000 บาท จำเลยต้องคืนให้โจทก์ 1,128 บาท ดังนี้ เป็นการแก้ไขมาก
โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยกู้ไปจากโจทก์ จำเลยฟ้องแย้ง โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นเรียกค่าธรรมเนียมปิดมาท้ายฟ้องฎีกาเป็น 2 คดี รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 542.50 บาท จึงไม่ถูกต้อง เมื่อศาลชั้นต้นให้โจทก์ชนะ 3,535.90 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ไขให้โจทก์ชนะ 1,128 บาท โจทก์ฎีกา จึงเป็นทุนทรัพย์ชั้นฎีกา 2,407.90 บาท คงเสียค่าขึ้นศาลเพียง 60 บาท ส่วนเรื่องฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องแย้งแล้ว โจทก์ไม่มีอะไรที่จะต้องฎีกาอีก โจทก์คงต้องเสียค่าธรรมเนียมเพียงคดีเดียวเท่านั้น เรียกเกินมา 342.50 บาท ให้คืนแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องเงินกู้ vs. เงินค่าทำไม้ ศาลแก้ไขคำพิพากษาเรื่องจำนวนเงินที่จำเลยต้องคืนโจทก์ และค่าธรรมเนียมศาล
คดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 5,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป 3,128 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ไป แต่จำเลยได้รับเงินล่วงหน้าค่าทำไม้ไผ่จากโจทก์ 3,128 บาท แล้วทำไม้ไผ่ส่งโจทก์เพียง 2,000 ลำ คิดเป็นเงิน 2,000 บาทจำเลยต้องคืนให้โจทก์ 1,128 บาท ดังนี้ เป็นการแก้ไขมาก
โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยกู้ไปจากโจทก์จำเลยฟ้องแย้ง โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นเรียกค่าธรรมเนียมปิดมาท้ายฟ้องฎีกาเป็น 2 คดี รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 542.50 บาท จึงไม่ถูกต้อง เมื่อศาลชั้นต้นให้โจทก์ชนะ 3,535.90 บาทศาลอุทธรณ์แก้ไขให้โจทก์ชนะ 1,128 บาท โจทก์ฎีกา จึงเป็นทุนทรัพย์ชั้นฎีกา 2,407.90 บาท คงเสียค่าขึ้นศาลเพียง 60 บาท ส่วนเรื่องฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องแย้งแล้ว โจทก์ไม่มีอะไรที่จะต้องฎีกาอีกโจทก์คงต้องเสียค่าธรรมเนียมเพียงคดีเดียวเท่านั้น เรียกเกินมา 342.50 บาทให้คืนแก่โจทก์
of 37