พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลจำกัดในคดีที่ดินต่างประเทศ แม้ขอประมูลหรือขายทอดตลาด ศาลไทยไม่มีอำนาจบังคับได้
โจทก์ฟ้องขอให้เอาที่ดินซึ่งอยู่ต่างประเทศประมูลราคาหรือขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่ง หรือถ้าหากจำเลยต้องการที่ดิน ก็ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวนหนึ่ง ดังนี้ แม้จะไม่ได้ขอให้แบ่งพื้นที่ดินก็ตามแต่โจทก์ให้จัดการประมูลหรือขายทอดตลาด ถ้าให้ศาลไทยำระคดีที่ดินอยู่ต่างประเทศ หากจะต้องบังคับถึงพื้นดินตามคำขอท้ายฟ้อง ก็บังคับไม่ได้ ฉะนั้น ศาลไทยจึงไม่มีอำนาจชำระคดี เช่นนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการปล่อยทรัพย์: ศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์ไม่โต้แย้ง ถือเป็นที่สุด ส่วนข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิในมรดกต้องไปฟ้องร้องอีกคดี
ในชั้นบังคับคดีมีผู้ร้องหลายรายร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเมื่อศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์มิได้อุทธรณ์ การปล่อยทรัพย์ในชั้นบังคับคดีก็ย่อมเสร็จสิ้นไป ผู้ร้องด้วยกันจะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดข้อโต้แย้งระหว่างผู้ร้องด้วยกันและจำเลยว่าฝ่ายใดจะมีกรรมสิทธิในทรัพย์สินนั้นอีกนั้น ไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ควรจะต้องไปว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล่อยทรัพย์ในชั้นบังคับคดี: อุทธรณ์กรรมสิทธิ์หลังศาลชั้นต้นปล่อยทรัพย์แล้วเป็นเรื่องใหม่
ในชั้นบังคับคดีมีผู้ร้องหลายรายร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเมื่อศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์มิได้อุทธรณ์ การปล่อยทรัพย์ในชั้นบังคับคดีก็ย่อมเสร็จสิ้นไป ผู้ร้องด้วยกันจะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดข้อโต้แย้งระหว่างผู้ร้องด้วยกันและจำเลยว่าฝ่ายใดจะมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นอีกนั้น ไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ควรจะต้องไปว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์โดยสุจริตของผู้บังคับคดีไม่เป็นละเมิด แม้จะยึดทรัพย์ผิดแปลง
จ้าหนี้นำยึดบ้านเรือน โดยมีเหตุผลให้เชื่อโดยสุจริตวา บ้านเรือนที่ยึดเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาจนขายทอดตลาดบ้านเรือนนั้นไป ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำที่โดยใช้สิทธิทางศาล เมื่อเจ้าหนี้หรือผู้แทนกระทำไปโดยมิได้ประมาทเลินเล่อแต่อย่างใดแล้ว ถึงแม้จะปรากฎว่าบ้านเรือนที่นำยึดเป็นของผู้อื่นก็ดี การกระทำของเจ้าหนี้ก็ไม่เป็นการละเมิด
(อ้างฎีกาที่ 960/2485)
(อ้างฎีกาที่ 960/2485)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการขายทอดตลาด: การที่เจ้าของทรัพย์ไม่สามารถร้องขอให้ขายใหม่ได้หากการขายเป็นไปตามกฎหมาย
จำเลยไม่ชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงให้ยึดทรัพย์จำเลยออกขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดและตกลงขายให้แก่ผู้ประมูลราคาสูงสุด และผู้ซื้อได้ชำระเงินครบถ้วนแล้ว ดังนี้จำเลยจะร้องขอให้ขายใหม่โดยอ้างว่าได้ราคาน้อย ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการขายทอดตลาด: สิทธิในการร้องขอให้ขายใหม่
จำเลยไม่ชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงให้ยึดทรัพย์จำเลยออกขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดและตกลงขายให้แก่ผู้ประมูลราคาสูงสุด และผู้ซื้อได้ชำระเงินครบถ้วนแล้ว ดังนี้จำเลยจะร้องขอให้ขายใหม่โดยอ้างว่าได้ราคาน้อยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนอง: การบังคับคดีและการชำระหนี้ตามสัญญาจำนองที่ระบุจำนวนเงินสูงสุดที่จำนองไว้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาดบังคับคดี ผู้รับจำนองทรัพย์ที่ถูกบังคับคดีร้องขอต่อศาลให้เอาเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดนั้นชำระหนี้แก่ตนก่อนเจ้าหนี้อื่นได้ ถ้าลูกหนี้อ้างว่าสัญญาจำนองที่ผู้รับจำนองยกขึ้นมาอ้างอิงนั้นไม่สมบูรณ์ ลูกหนี้นั้นก็มีสิทธิให้การต่อสู้คดีกับผู้รับจำนองได้ และกรณีเช่นนี้ ศาลดำเนินคดีไปเหมือนคดีมีข้อพิพาทระหว่างผู้รับจำนองและลูกหนี้
สัญญาจำนองนั้น ระบุจำนวนเงินชั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็นประกันตามที่บังคับไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 708 แล้วก็ใช้ได้กฎหมายมาตรานี้หาได้บังคับให้ต้องระบุถึงมูลหนี้เดิมลงไว้ในสัญญาจำนองว่าหนี้เดิมเป็นหนี้อะไรด้วยไม่
สัญญาจำนองนั้น ระบุจำนวนเงินชั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็นประกันตามที่บังคับไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 708 แล้วก็ใช้ได้กฎหมายมาตรานี้หาได้บังคับให้ต้องระบุถึงมูลหนี้เดิมลงไว้ในสัญญาจำนองว่าหนี้เดิมเป็นหนี้อะไรด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องของผู้รับจำนองในคดีบังคับคดี และความสมบูรณ์ของสัญญาจำนอง
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาดบังคับคดีผู้รับจำนองทรัพย์ที่ถูกบังคับคดีร้องขอต่อศาลให้เอาเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดนั้นชำระหนี้แก่ตนก่อนเจ้าหนี้อื่นได้ ถ้าลูกหนี้อ้างว่าสัญญาจำนองที่ผู้รับจำนองยกขึ้นมาอ้างอิงนั้นไม่สมบูรณ์ ลูกหนี้นั้นก็มีสิทธิให้การต่อสู้คดีกับผู้รับจำนองได้และกรณีเช่นนี้ศาลดำเนินคดีไปเหมือนคดีมีข้อพิพาทระหว่างผู้รับจำนองและลูกหนี้
สัญญาจำนองนั้น ระบุจำนวนเงินขั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็นประกันตามที่บังคับไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 708 แล้วก็ใช้ได้กฎหมายมาตรานี้หาได้บังคับให้ต้องระบุถึงมูลหนี้เดิมลงไว้ในสัญญาจำนองว่าหนี้เดิมเป็นหนี้อะไรด้วยไม่
สัญญาจำนองนั้น ระบุจำนวนเงินขั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็นประกันตามที่บังคับไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 708 แล้วก็ใช้ได้กฎหมายมาตรานี้หาได้บังคับให้ต้องระบุถึงมูลหนี้เดิมลงไว้ในสัญญาจำนองว่าหนี้เดิมเป็นหนี้อะไรด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจลงนามกรรมการบริษัท, สัญญาประนีประนอมยอมความ, และการบังคับคดี
ข้อบังคับของบริษัทมีความว่า "กรรมการ 2 นาย มีอำนาจลงนามในสัญญาตราสารหรือเอกสารสำคัญแทนบริษัทแต่ต้องประทับตราของบริษัทด้วย" ดังนี้กรรมการของบริษัท 2 นายย่อมมีอำนาจลงนามและประทับตราของบริษัทในใบแต่งทนายเพื่อฟ้องคดีเรียกเงินจากลูกหนี้ของบริษัทได้โดยชอบ
สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 851 นั้นมิได้บังคับไว้ว่าจะต้องลงลายมือชื่อของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงไว้ในหนังสือฉะนั้นเมื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามสัญญา ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีได้
สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 851 นั้นมิได้บังคับไว้ว่าจะต้องลงลายมือชื่อของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงไว้ในหนังสือฉะนั้นเมื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามสัญญา ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจลงนามกรรมการ, สัญญาประนีประนอมยอมความ และการบังคับคดี
ข้อบังคับของบริษัทมีความว่า 'กรรมการ 2 นาย มีอำนาจลงนามในสัญญาตราสารหรือเอกสารสำคัญแทนบริษัทแต่ต้องประทับตราของบริษัทด้วย'ดังนี้กรรมการของบริษัท 2 นายย่อมมีอำนาจลงนามและประทับตราของบริษัทในใบแต่งทนายเพื่อฟ้องคดีเรียกเงินจากลูกหนี้ของบริษัทได้โดยชอบ
สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา851 นั้น มิได้บังคับไว้ว่าจะต้องลงลายมือชื่อของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงไว้ในหนังสือ ฉะนั้นเมื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามสัญญา ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีได้
สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา851 นั้น มิได้บังคับไว้ว่าจะต้องลงลายมือชื่อของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงไว้ในหนังสือ ฉะนั้นเมื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามสัญญา ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้บังคับคดีได้