คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: ยกฟ้องอาญาแล้ว นับอายุความแพ่งตามกฎหมายทั่วไป
การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญานั้น เมื่อฟ้องคดีอาญาก่อน ศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดแล้ว กรณีเข้าตามมาตรา 51 วรรคสี่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉะนั้นเมื่อมาฟ้องทางแพ่งต้องนับอายุความตามหลักทั่วไปในเรื่องอายุความแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับกรณีเรื่องนี้เป็นเรื่องละเมิดโจทก์ต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้ถึงการละเมิดหรือรู้ตัวผู้กระทำผิด เมื่อโจทก์มาฟ้องเกิน 1 ปีนับแต่วันละเมิดคดีโจทก์จึงต้องขาดอายุความตามมาตรา 448 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดหลังคดีอาญา: การสดุดหยุดอายุความเฉพาะผู้ถูกลงโทษ
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่ายักยอกทรัพย์รายพิพาท และทรัพย์รายอื่น แต่ศาลคงพิพากษาว่า จำเลยยักยอกเฉพาะทรัพย์รายอื่น มิได้ยักยอกทรัพย์รายพิพาท ดังนี้ อายุความที่จะต้องในทางแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์รายพิพาทมิได้สดุดหยุดลงตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 51 และ ป.ม.แพ่งฯมาตรา 174 จึงต้องฟ้องเสียภายใน 1 ปี นับแต่วันทำละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คดีอาญา แม้มีการยื่นคำร้องไม่ขออุทธรณ์ และอุทธรณ์เกินกำหนดเวลา
แม้จำเลยในคดีอาญาได้ยื่นคำร้องให้ถ้อยคำไม่ขออุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แล้วกลับยื่นอุทธรณ์ในภายหลังก็ดี ก็หามีกฎหมายใดที่ตัดสิทธิห้ามอุทธรณ์ ศาลจึงรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้ตามกฎหมาย
จำเลยในคดีอาญา ยื่นอุทธรณ์เกินกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ เมื่อศาลชั้นต้นได้พิจารณาเห็นมีเหตุผลสมควรที่จะยืดอายุความอุทธรณ์ให้และสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้ ก็ย่อมเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาในคดีอาญา: ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์มีสิทธิฎีกาเพื่อลงโทษจำเลยตามเดิมได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 63 แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ก็ยังเป็นการยืนยันว่า จำเลยได้กระทำผิดในคดีที่โจทก์ฟ้องนี้ ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยบางคนไม่มีความผิด คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าไม่มีความผิดนั้น ได้ชื่อว่าศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โจทก์จึงมีสิทธิฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ศาลอุทธรณ์ปล่อยไปนั้น ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ ไม่ต้องห้ามตามป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2495)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบรรดาลโทสะ ไม่เป็นเหตุป้องกันตัว คดีทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายกับจำเลยไปช่วยเขาไถนาด้วยกัน เมื่อไถนาเสร็จแล้วมีการเลี้ยงสุราอาหาร ผู้ตายกินอิ่มแล้วเดินไปที่จำเลย ตีศีร์ษะจำเลย 2 ทีแล้ววิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ไปทันที่คูน้ำข้างถนน เข้าปล้ำกัน ปรากฎว่าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทง 6 แห่ง เป็นบาดแผลสาหัส 2 แห่ง ผู้ตายขาดใจตายในวันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะ หาใช่เป็นเรื่องป้องกันไม่
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุก 15 ปี ลดโทษ-ตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: ศาลยกฟ้องเนื่องจากข้อบกพร่องในฟ้องเดิม และเวลากระทำผิดเป็นสาระสำคัญ
ศาลพิพากษายกฟ้องคดีก่อนโดยวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุเวลากระทำผิดตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) เป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ยกเสียตามมาตรา 161 ดังนี้ พึงเห็นได้ว่าเลากระทำผิดเป็นข้อสัญญาที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้อง และเวลากระทำผิดเช่นว่านี้ ก็เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องความผิดที่จำเลยกระทำนั่นเอง จึงได้ชื่อว่าศาลได้ยกฟ้องในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39(4) จะฟ้องจำเลยใหม่ ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีอาญา: จำเลยอ้างป้องกันตัว โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำเพื่อป้องกันตัว มีผลเท่ากับว่า จำเลยมิได้กระทำความผิด เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงดังฟ้อง จึงจะลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีอาญา: จำเลยอ้างป้องกันตัว โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำเพื่อป้องกันตัว มีผลเท่ากับว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงดังฟ้อง จึงจะลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาสามัญ: ไม่ต้องมีผู้เสียหายร้องทุกข์ อัยการมีอำนาจฟ้องได้
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 132 นั้นมิใช่เป็นความผิดต่อส่วนตัว คดีชะนิดนี้พนักงานอัยการมีอำนาจยกขึ้นว่ากล่าวฟ้องร้องได้ โดยมิจำเป็นต้องรับคำทุกข์จากผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา มาตรา 132 ไม่ต้องมีผู้เสียหาย
ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 132 นั้นมิใช่เป็นความผิดต่อส่วนตัว คดีชนิดนี้พนักงานอัยการมีอำนาจยกขึ้นว่ากล่าวฟ้องร้องได้ โดยมิจำเป็นต้องรับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหาย
of 312