พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีอาญาเรื่องสถานที่เกิดเหตุ ศาลอนุญาตได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ขอแก้ฟ้องชื่อตำบลที่เกิดเหตุซึ่งข้อเท็จจริงในทางพิจารณามิได้โต้เถียงกันถึงเรื่องสถานที่เกิดเหตุแล้วแม้โจทก์จะขอแก้เมื่อสืบพยานเสร็จแล้ว ศาลก็อนุญาตให้แก้ได้ โดยเห็นว่าจำเลยไม่หลงหรือเสียเปรียบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลริบของกลางในคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด แม้โจทก์มิได้อ้างมาตราที่ให้ริบโดยตรง
ฟ้องคดีอาญานั้น กฎหมายบังคับให้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น หาได้บัญญัติให้อ้างบทมาตราที่บัญญัติให้ริบของกลางด้วยไม่ ฉะนั้นแม้จะไม่ได้อ้างมา ศาลก็มีอำนาจริบได้ในเมื่อโจทก์มีคำขอไว้แล้ว
พ.ร.บ.มาตราชั่วตวงวัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.นี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งก.ม.ลักษระอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใด ๆ ตาม พ.ร.บ.นี้อีกในเมื่อการกระทำนั้น ๆ ไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษระอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปับจำเลยตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ. 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 24 ดำริว่า ควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้
พ.ร.บ.มาตราชั่วตวงวัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.นี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งก.ม.ลักษระอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใด ๆ ตาม พ.ร.บ.นี้อีกในเมื่อการกระทำนั้น ๆ ไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษระอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปับจำเลยตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ. 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 24 ดำริว่า ควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลเกี่ยวกับอายุความคดีอาญา: การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตามกฎหมาย
คดีอาญาที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้กระทำผิดและศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีของโจทก์นั้นไม่ขาดอายุความแล้วดำเนินการพิจารณาต่อไป ดังนี้จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นไม่ได้โดยถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีอาญา: การอุทธรณ์ข้ออายุความและการห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 196
คดีอาญาที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้กระทำผิด และศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีของโจทก์นั้นไม่ขาดอายุความแล้วดำเนินการพิจารณาต่อไป ดังนี้ จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นไม่ได้ โดยถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพาทเรื่องการครอบครองที่ดิน และความผิดทางอาญา: การพิจารณาคดีอาญาควบคู่กับข้อพิพาททางแพ่ง
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์ เมื่อได้ความเพียงว่า ที่ดินนั้นโจทก์จำเลยได้เคยนำเจ้าพนักงานรังวัดเถียงสิทธิครอบครองกันอยู่ ดังนี้ศาลไม่ควรงดสืบพะยานโจทก์โดยเห็นไปว่าเป็นคดีแพ่ง ควรให้โอกาสโจทก์สืบให้สมฟ้องเพราะอาจเป็นความผิดทางอาญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการรอคดีแพ่งไว้ฟังผลคดีอาญา: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ไม่ต้องห้ามฎีกา
การที่จะสั่งให้รอคดีแพ่งไว้ฟังผลคดีอาญาเท่านั้น ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 39 เป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลยพินิจ เมื่อเห็นสมควรจะสั่งให้รอคดีไว้ก็ได้
เมื่อศาลทั้งสองใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ให้รอคดีไว้แล้วเป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ต้องห้าม
เมื่อศาลทั้งสองใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ให้รอคดีไว้แล้วเป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลสั่งรอคดีแพ่งชั่วคราว ฟังผลคดีอาญา: การวินิจฉัยศาลล่างเป็นข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
การที่จะสั่งให้รอคดีแพ่งไว้ฟังผลคดีอาญานั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 39 เป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจเมื่อเห็นสมควรจะสั่งให้รอคดีไว้ก็ได้
เมื่อศาลทั้งสองใช้ดุลพินิจสั่งไม่ให้รอคดีไว้แล้วเป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ ต้องห้าม
เมื่อศาลทั้งสองใช้ดุลพินิจสั่งไม่ให้รอคดีไว้แล้วเป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ และการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
กฎหมายหาได้ห้ามไม่ให้ฟ้องในกรณีที่ไม่มีการชันสูตรพลิกศพไม่และแม้การชันสูตรพลิกศพจะไม่ชอบ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ฟ้อง
ศาลเดิมลงโทษจำคุก สิบ ปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดย มิได้แก้บท ถือว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อยห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลเดิมลงโทษจำคุก สิบ ปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดย มิได้แก้บท ถือว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อยห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีอาญาและการริบของกลางเมื่อข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง จำเลยไม่มีความผิด ศาลไม่อาจริบของกลางได้
คดีที่หาว่าจำเลยกระทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว เมื่อข้อเท็จจริงที่ได้ความทางพิจารณาต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และศาลต้องยกฟ้องแล้ว ศาลจะริบข้าวและเรือของกลางมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ทางสาธารณะและการลงโทษจำเลยในคดีอาญา: โจทก์ต้องพิสูจน์การขัดขวางทางสัญจร
คดีอาญาที่โจทก์หาว่าจำเลยตัดฟันต้นไม้ปิดทางหลวง เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าทางที่ตัดฟันไม้ทับ มิใช่ทางสาธารณะไม่เป็นการขัดขวางทางสัญจร กับจะขอสืบว่าทางที่โจทก์ฟ้องไม่ใช่ทางประจำ เป็นทางที่ใช้กันมานานแล้ว ดังนี้หากโจทก์ไม่สืบพะยาน ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้