พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,780 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อทราบทั้งการละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิด
การนับอายุความ 1 ปีเรื่องละเมิดตาม ม.448 นั้น ต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบจากรายงานของกรรมการถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น หาใช่นับจากวันที่รู้ว่ามีผู้ยักยอกเงินของผู้เสียหายไม่
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลิ่นเล่อก็ดี แต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแหล่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม.
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลิ่นเล่อก็ดี แต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแหล่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อรู้การละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่มารู้ว่ามีการยักยอก
การนับอายุความ 1 ปีเรื่องละเมิดตาม มาตรา448 นั้นต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบจากรายงานของกรรมการถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น หาใช่นับจากวันที่รู้ว่ามีผู้ยักยอกเงินของผู้เสียหายไม่
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดจากเหตุการณ์สูญเสียบุตรและการเรียกร้องค่าอุปการะและการทำศพ
จำเลยฆ่าบุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย ย่อมถือว่าจำเลยได้กระทำการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูไป โดยมิต้องคำนึงว่าในปัจจุบันบุตรที่ตายจะได้กำลังอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ผู้เป็นมารดาอยู่หรือไม่ ส่วนค่าเสียหายจะเท่าใดศาลย่อมกำหนดให้ตามสมควร ส่วนค่าเสียหายเพื่อความวิปโยคโทมนัสนั้นเรียกไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เรียกร้องได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากการเสียชีวิตของบุตร: การเรียกร้องค่าอุปการะและค่าทำศพ
จำเลยฆ่าบุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย ย่อมถือว่าจำเลยได้กระทำการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูไปโดยมิต้องคำนึงว่าในปัจจุบันบุตรที่ตายจะได้กำลังอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ผู้เป็นมารดาอยู่หรือไม่ ส่วนค่าเสียหายจะเท่าใดศาลย่อมกำหนดให้ตามสมควร ส่วนค่าเสียหายเพื่อความวิปโยคโทมนัสนั้นเรียกไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เรียกร้องได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องจำเลยรัฐมนตรีโดยไม่แสดงการกระทำละเมิดหรือพันธะตามกฎหมาย ศาลยกฟ้องตามมาตรา 172 ป.วิ.พ.
ฟ้องรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย บรรยายว่าโจทก์เป็นคนไทยแต่เจ้าหน้าที่ให้จดทะเบียนต่างด้าว โจทก์ขอคืนสัญชาติต่อตำรวจท้องที่จนบัดนี้ยังไม่ทราบผลจึงขอให้ศาลไต่สวนสัญชาติ และเบิกถอนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวดังนี้ไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719-1720/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากการปล่อยกลิ่นเหม็นรบกวนสุขอนามัย แม้เสียหายไม่ชัดเจนก็ต้องชดใช้
โรงงานสีครั่งและผลิตครั่งบริสุทธิ์ ใช้ยาเคมีละลายกับน้ำทำการล้างครั่งทั้งกลางวันและกลางคืน ส่งกลิ่นเหม็นอันเป็นอันตรายแก่อนามัย และทำให้ผู้อยู่บ้านใกล้เคียงเดือดร้อนรำคาญ เจ้าของโรงงานย่อมต้องรับผิดฐานละเมิดต่อผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิในที่ดินและการชดใช้ค่าเสียหาย แม้ไม่ได้เสียหายจากเงินมัดจำที่ถูกริบ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการแบ่งแยกที่ดินทำให้โจทก์แบ่งขายที่ดินไม่ได้ โจทก์จึงไม่ด้เงินไปชำระราคาที่ดินซึ่งโจทก์วางมัดจำซื้อไว้เป็นเหตุให้โจทก์ถูกริบเงินมัดจำแม้จะปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่จะถือว่าเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดไม่ได้
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยให้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ.
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยให้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยขัดขวางการแบ่งขายที่ดิน ทำให้โจทก์ถูกริบมัดจำ ศาลพิจารณาค่าเสียหายจากการละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการแบ่งแยกที่ดินทำให้โจทก์แบ่งขายที่ดินไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้เงินไปชำระราคาที่ดินซึ่งโจทก์วางมัดจำซื้อไว้เป็นเหตุให้โจทก์ถูกริบเงินมัดจำ แม้จะปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่จะถือว่าเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดไม่ได้
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้าง นอกเหนือจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
นายจ้างใช้ให้ลูกจ้างนำมะพร้าวไปส่งแก่ผู้ซื้อ ในระหว่างส่งมะพร้าวแก่กันนั้น ผู้ซื้อโต้เถียงด่าว่าลูกจ้าง ลูกจ้างโกรธจึงชกต่อยผู้ซื้อมีบาดเจ็บ ดังนี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์อีกเรื่องหนึ่ง มิใช่กิจการที่นายจ้างได้มอบให้ลูกจ้างไปกระทำ นายจ้างไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมกับลูกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300-1315/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากรถไฟชำรุด: ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่รถไฟทำให้เกิดเพลิงไหม้ แม้จะอ้าง พ.ร.บ.รถไฟ ก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง
โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาศาลไม่อนุญาตสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ แม้โจทก์จะไม่นำเงินมาชำระภายในกำหนด ต่อมาภายหลังโจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องได้ภายในกำหนดอายุความ
การที่กรมรถไฟใช้รถจักรเก่าจูงลากรถจนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้เสมอๆ โดยมิได้ป้องกันแต่อย่างใดนั้น กรมรถไฟจะอ้างความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติจัดการวางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464มาตรา 48 ไม่ได้
การที่กรมรถไฟใช้รถจักรเก่าจูงลากรถจนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้เสมอๆ โดยมิได้ป้องกันแต่อย่างใดนั้น กรมรถไฟจะอ้างความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติจัดการวางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464มาตรา 48 ไม่ได้