คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความสงบเรียบร้อย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 334 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาต้องเคยยกเป็นข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ก่อน เว้นแต่เป็นปัญหาความสงบเรียบร้อย
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ยืมตามสัญญาจากจำเลย. จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า หนี้ยังไม่ถึงกำหนดเวลาชำระตามสัญญา. โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง. ดังนี้จำเลยจะยกปัญหาข้อนี้ขึ้นฎีกาไม่ได้. เพราะจำเลยมิได้ยกเป็นข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์. ทั้งไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน (อ้างฎีกาที่ 1490/2498).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้เงินที่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมเป็นโมฆะ
โจทก์ให้จำเลยกู้เงินไปเพื่อชำระหนี้ในการที่จ้างเขายิงคน วัตถุประสงค์ในการกู้ยืมจึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน สัญญากู้ตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
หมายเหตุ ในเรื่องกู้เงินไปชำระหนี้ในการจ้างเขายิงคนนั้น จำเลยไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ แต่เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบ ฯ ศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้เงินเพื่อชำระหนี้ค่าจ้างวานฆ่าเป็นโมฆะ เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม
โจทก์ให้จำเลยกู้เงินไปเพื่อชำระหนี้ในการที่จ้างเขายิงคนวัตถุประสงค์ในการกู้ยืมจึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน สัญญากู้ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
หมายเหตุ ในเรื่องกู้เงินไปชำระหนี้ในการจ้างเขายิงคนนั้นจำเลยไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบฯ ศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้เงินเพื่อชำระหนี้ค่าจ้างวานฆ่า เป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม
โจทก์ให้จำเลยกู้เงินไปเพื่อชำระหนี้ในการที่จ้างเขายิงคน. วัตถุประสงค์ในการกู้ยืมจึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน. สัญญากู้ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113.
หมายเหตุ ในเรื่องกู้เงินไปชำระหนี้ในการจ้างเขายิงคนนั้น. จำเลยไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้.แต่เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบฯ ศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากวิ่งราวทรัพย์เป็นลักทรัพย์ และอำนาจศาลในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์ ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ได้
ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย แม้มิได้หย่าขาด
ในคดีฟ้องขอหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างกัน แต่คู่ความตกลงกันได้โดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลเฉพาะในเรื่องแบ่งทรัพย์ ดังนี้ คำพิพากษาตามสัญญายอมเฉพาะในข้อตกลงแบ่งทรัพย์โดยไม่มีการหย่าขาดระหว่างกันนี้ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด การแบ่งทรัพย์นี้เป็นสัญญาระหว่างสามีภริยาอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
ในคดีฟ้องขอหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างกัน แต่คู่ความตกลงกันได้โดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลเฉพาะในเรื่องแบ่งทรัพย์. ดังนี้ คำพิพากษาตามสัญญายอมเฉพาะในข้อตกลงแบ่งทรัพย์โดยไม่มีการหย่าขาดระหว่างกันนี้ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด. การแบ่งทรัพย์นี้เป็นสัญญาระหว่างสามีภริยาอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีภาษีโรงเรือนโดยไม่ชำระภาษีค้างจ่าย ศาลไม่รับฟ้องตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อย
บทบัญญัติของพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475มาตรา 39 เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลจึงยกขึ้นปรับคดีได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ต่อสู้ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ เหตุสุดวิสัยยกเว้นความรับผิด
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวแก้ความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะไม่ให้ต่อสู้ไว้แต่แรก ศาลอุทธรณ์ก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
เพลิงไหม้ห่างจากโกดังเก็บของของจำเลยประมาณ 30 เมตร ขณะนั้น ลมพัดแรงมาก คนงานในบริษัทและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรมตำรวจได้ร่วมกันดับ แต่สุดความสามารถที่จะดับได้ เพลิงได้ลามไหม้โกดังสินค้าของจำเลยโดยไม่มีใครอาจป้องกันได้ และไม่ใช่ความผิดของจำเลย จึงเป็นเหตุสุดวิสัย
(อ้างฎีกาที่ 882/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, ตัวแทน, สัญญาเช่า, การนำสืบพยาน, ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
คำให้การของจำเลยกล่าวว่า โจทก์เป็นเพียงตัวแทนของนางอึ้งโจทก์ร่วมในการทำสัญญาเช่าต่อการรถไฟ และเป็นตัวแทนในการปลูกสร้างตึกพิพาท และตอนท้ายกล่าวว่าเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าโจทก์เป็นผู้อาศัยหรือลูกจ้างของนางอึ้ง คำให้การทั้งสองตอนนี้ไม่ขัดกันเพราะเป็นเพียงแต่แสดงว่านอกจากที่โจทก์เป็นตัวแทนแล้ว ยังเป็นที่รู้กันว่าโจทก์ยังเป็นคนที่อาศัยหรือลูกจ้างของโจทก์ร่วมด้วย คำให้การของจำเลยจึงไม่เคลือบคลุม
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้อง เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)เมื่อศาลเห็นสมควรศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้
เมื่อได้วินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ในข้ออื่นของโจทก์อีกต่อไป
of 34