พบผลลัพธ์ทั้งหมด 351 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงต่อเนื่องทำให้ผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าหลายกรรม
จำเลยยิง พ. 2 นัด แล้วเจตนายิง ส. และก.ซึ่งเดินตามพ. มาด้วยอีก กระสุนปืนถูก พ. ตาย ส. ถูกยิง 2 นัด เป็นอันตรายสาหัสกระสุน 1 นัดเฉียด ก. ไปดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนกรรมหนึ่งกับฐานพยายามฆ่าผู้อื่นอีก 2 กรรม ชั้นอุทธรณ์โจทก์ไม่อุทธรณ์ศาลฎีกาแก้บทให้ถูกต้องเป็น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ288,80แต่ไม่แก้โทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา, พาหญิงไปเพื่ออนาจาร, กักขังหน่วงเหนี่ยว: ความผิดกรรมเดียวต่อเนื่อง
ฉุดพาหญิงไปข่มขืนกระทำชำเราและกักขังไว้ เป็นความผิดฐานฉุดหญิงไปตาม ป.อ. ม.284 กระทงหนึ่ง ม.310 ฐานกักขังกระทงหนึ่งกับฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยโทรมหญิง ตาม ม.276วรรค 2 อีกกระทงหนึ่งการข่มขืนตาม ม.276 กระทำหลายครั้งหลายวันก็เป็นความผิดกรรมเดียวต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2449/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องข้อหาใหม่ที่ไม่ต่อเนื่องจากฟ้องเดิม และการพิสูจน์ความผิดฐานเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ
ฟ้องเดิมโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำผิดของจำเลยว่า เมื่อระหว่างวนที่ 18 ถึง 30 พฤศจิกายน 2518 จำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิ่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้ามือเล่นพนันสลากกินรวบงวดวันที่ 20 เดือนเดียวกันด้วย การกำหนดวันออกสลากเป็นสารสำคัญของการเล่นสลากกินรวบ การเพิ่มข้อหาเข้ามาเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 ซึ่งเป็นวันออกสลากขึ้นอีกงวดหนึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มข้อหาจำเลยว่ากระทำผิดขึ้นอีกกระทงหนึ่ง นอกเหนือไปจากการที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2518 ส่วนการที่โจทก์อ้างว่าได้มีการสอบปากคำพยานผู้ซื้อสลากจากจำเลยงวดวันที่ 201 พฤศจิกายน 2518 นั้น ก็เป็นเพียงการสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น จะถือว่าเป็นการสอบสวนจำเลยในข้อนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายต่อเนื่องกับการบุกรุก: ไม่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยมีเจตนาจะทำร้ายร่างกาย เมื่อ ส.เปิดประตูห้องออกมา จำเลยยังลงบันไดไปเอามีดที่อยู่ข้างล่าง แล้วจึงใช้มีดนั้นแทง ส.แทนที่จะแทงทันที่ที่เปิดประตู ก็ยังถือไม่ได้ว่าการบุกรุกนั้นเป็นคนละตอนกับการทำร้ายร่างกาย เพราะได้กระทำโดยกระชั้นชิดติดต่อกันโดยมีเจตนาเพื่อจะทำร้ายร่างกาย จึงมิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกายต่อเนื่องกับการบุกรุก: ไม่ถือเป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยมีเจตนาจะทำร้ายร่างกายเมื่อ ส. เปิดประตูห้องออกมา จำเลยยังลงบันไดไปเอามีดที่อยู่ข้างล่าง แล้วจึงใช้มีดนั้นแทง ส. แทนที่จะแทงทันทีที่เปิดประตู ก็ยังถือไม่ได้ว่าการบุกรุกนั้นเป็นคนละตอนกับการทำร้ายร่างกาย เพราะ ได้กระทำโดยกระชั้นชิดติดต่อกันโดยมีเจตนาเพื่อจะทำร้ายร่างกาย จึงมิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย: พฤติการณ์ต้องเปิดเผยและต่อเนื่อง
โจทก์ได้เสียกับจำเลยครั้งแรกเมื่อจำเลยรับโจทก์ไปทำปลาที่บ้านจำเลยต่อมาก็ได้เสียกันในทุ่งนาประมาณ 10 กว่าครั้ง และไม่เคยอยู่ร่วมเรือนเดียวกันฉันสามีภริยาเลย นอกจากจำเลยเขียนจดหมายรัก ส่งรูปถ่ายของจำเลย และบัตรส่งความสุขให้โจทก์บ้างเท่านั้น เมื่อโจทก์ตั้งครรภ์จำเลยเพียงแต่ส่งเสียเงินทองให้และรับว่าจะไปจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร แต่พอโจทก์คลอดบุตรจำเลยกลับไม่รับว่าเป็นบุตรของจำเลย กรณีเช่นนี้ถือไม่ได้ว่าโจทก์และจำเลยได้อยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผยในระยะเวลาซึ่งโจทก์อาจตั้งครรภ์ได้ และถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์ที่รู้กันอยู่ทั่วไปตลอดมาว่าเด็กหญิงเน้ยเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของจำเลย จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะขอให้รับเด็กเป็นบุตรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1529 อันเป็นบทบัญญัติซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะฟ้องคดี
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2520
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2520
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้เสียหายไปกระทำอนาจารและข่มขืนต่อเนื่องกัน ถือเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราทั้งในคืนแรกและคืนที่สอง เป็นการกระทำต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิมนั้นเองแยกออกจากกันมิได้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดต่อเนื่อง: บุกรุกเพื่อข่มขืน ถือเป็นกรรมเดียว
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายแล้วจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย นั้นเห็นได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานบุกรุกและฐานข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่องกัน โดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน และจำเลยรับสารภาพตามฟ้องก็ตามศาลก็ลงโทษจำเลยทุกกระทงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกต่อเนื่องหลังมีคำพิพากษาเดิม: ไม่ถือเป็นความผิดใหม่หากไม่มีการกระทำเพิ่มเติม
จำเลยถูกฟ้องว่าบุกรุกที่พิพาท ศาลลงโทษไปแล้ว การที่จำเลยอยู่ในที่พิพาท ต่อมาหลังจากศาลพิพากษาคดีก่อนแล้ว แม้ต่อมาที่พิพาทจะเปลี่ยนมือเป็นของผู้อื่น จำเลยก็ยังไม่ได้ทำประการใดที่จะถือว่าเป็นกรรมใหม่ คงอยู่ในที่พิพาทต่อมาตามปกติ จึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2154/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงเพื่อป้องกันตัวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายก่อน การกระทำต่อเนื่องเป็นเหตุผลลบล้าง
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งเข้ามากลุ้มรุมชกต่อยผู้เสียหายกับพวกที่ใต้ถุนเรือนแล้วออกวิ่งหนี ผู้เสียหายกับพวกไล่ตามไป จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกัน เพราะจำเลยกับพวกเป็นฝ่ายก่อเรื่องก่อน การที่ผู้เสียหายกับพวกไล่ตามจำเลยไป แล้วจำเลยยิงผู้เสียหาย เป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการกระทำผิดครั้งแรกของจำเลยกับพวกยังไม่ขาดตอน