คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทำร้าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 358 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย มีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
จำเลยใช้กำลังทำร้ายโดยแรง เป็นเหตุให้ศีรษะผู้ตายฟาดหรือกระแทกกับพื้นถนนเข็งกระโหลกศีรษะแตกถึงตาย เป็นผลที่บังเกิดอันเนื่องจากการกระทำของจำเลย จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
(อ้างฎีกาที่ 55/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวต้องสมเหตุสมผล จำเลยต้องไม่เป็นผู้เริ่มก่อเหตุ และผู้ถูกกระทำต้องยังมิได้ลงมือทำร้าย
เมื่อจำเลยได้ทำร้ายนายตี่ หวิ่งต๊ะแล้ว จำเลยก็มุ่งหน้าไปทางในเมือง นางชื่นสมาชิกสภาตำบลและเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้ดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณงานวัดได้ชักชวนผู้เสียหายกับบุคคลอื่นอีก ไปตามตัวจำเลยเพื่อจับไว้ก่อน และเมื่อเลยวัดไปประมาณ 15 วา ก็ทันจำเลย นายชื่นร้องบอกให้จำเลยกลับก่อน จำเลยได้ยินก็กลับมา นายชื่อบอกว่าจะขอควบคุมตัว เพราะจำเลยฟันนายตี่ หวิ่งต๊ะ จำเลยไม่พูดตอบ แต่ถือมีดรี่เข้ามา ผู้เสียหายเห็นท่าไม่ดีเลยคว้ากระบอกไม้ไผ่ถือไว้ จำเลยตรงรี่เข้าหาผู้เสียหาย ่ๆ ก็เอาไม้ตีที่มีด แต่มีดไม่หลุดจากมือจำเลย และไม้ที่ผู้เสียหายตีมีดนั้นหัก จำเลยได้ใช้มีดแทงผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เช่นนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่ากระทำร้ายผู้เสียหายเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ เพราะแม้ผู้เสียหายกับพวกตามจำเลยมาเพื่อจะจับจำเลยก็ดี จำเลยไม่ได้หยุดอยู่เฉย ๆ หรือบอกกล่าวว่าไม่ควรถูกจับกุมประการใด การที่จำเลยถือมีดตรงรี่เข้าไปทางผู้เสียหายกับพวกแสดงว่าจำเลยจะเข้าต่อสู้ทำร้ายเขาโดยผ่านผู้เสียหายยังไม่ได้ลงมือกระทำการที่จะเข้าจับตัวจำเลยประการใดเลย จึงยังไม่มีกรณีจำเป็นที่จำเลยจะป้องกัน ในกรณีเช่นนี้
ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาที่ว่า พวกผู้เสียหายมีอำนาจจับจำเลยหรือไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวต้องมีเหตุจำเป็นและสมควร การถืออาวุธเข้าหาผู้ถูกทำร้ายถือเป็นการเตรียมพร้อมที่จะทำร้ายตอบ
เมื่อจำเลยได้ทำร้ายนายตี่หวิ่งต๊ะแล้วจำเลยก็มุ่งหน้าไปทางในเมือง นายชื่นสมาชิกสภาตำบลและเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้ดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณงานวัด ได้ชักชวนผู้เสียหายกับบุคคลอื่นอีกไปตามตัวจำเลยเพื่อจับไว้ก่อน และเมื่อเลยวัดไปประมาณ 15 วาก็ทันจำเลย นายชื่นร้องบอกให้จำเลยกลับก่อน จำเลยได้ยินก็กลับมา นายชื่นบอกว่าจะขอควบคุมตัวเพราะจำเลยฟันนายตี่หวิ่งต๊ะ จำเลยไม่พูดตอบแต่ถือมีดรี่เข้ามา ผู้เสียหายเห็นท่าไม่ดีเลยคว้ากระบอกไม้ไผ่ถือไว้จำเลยตรงรี่เข้าหาผู้เสียหายๆ ก็เอาไม้ตีที่มีด แต่มีดไม่หลุดจากมือจำเลย และไม้ที่ผู้เสียหายตีมีดนั้นหัก จำเลยได้ใช้มีดแทงผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เช่นนี้จำเลยจะแก้ตัวว่ากระทำร้ายผู้เสียหายเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ เพราะแม้ผู้เสียหายกับพวกตามจำเลยมาเพื่อจะจับจำเลยก็ดี จำเลยไม่ได้หยุดอยู่เฉยๆ หรือบอกกล่าวว่าไม่ควรถูกจับกุมประการใด การที่จำเลยถือมีดตรงรี่เข้าไปทางผู้เสียหายกับพวกแสดงว่าจำเลยจะเข้าต่อสู้ทำร้ายเขาโดยฝ่ายผู้เสียหายยังไม่ได้ลงมือกระทำการที่จะเข้าจับตัวจำเลยประการใดเลย จึงยังไม่มีกรณีจำเป็นที่จำเลยจะป้องกัน ในกรณีเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาที่ว่า พวกผู้เสียหายมีอำนาจจับจำเลยหรือไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรง แม้มิได้ทำร้ายซ้ำเติม
การที่จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงผู้เสียหาย แม้ยิงเพียงทีเดียวแล้วหนีไป แต่ยิงบริเวณลำตัวซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย ถ้าถูกที่สำคัญในบริเวณนั้น ผู้เสียหายก็ต้องตาย เป็นการเพียงพอที่จะเห็นได้แล้วว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่า การที่จำเลยไม่ทำร้ายซ้ำเติมอีก อาจเป็นเพราะจำเลยหมดกระสุนปืน หรือเพราะต้องการหนีโดยรีบด่วนก็ได้ เพียงเท่านี้ไม่เป็นเหตุที่จะชี้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาที่จะฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายก่อน ศาลพิจารณาความจำเป็นและสมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุก่อนโดยเอาปืนจี้และชกจำเลย จำเลยจึงเตะผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายล้มลงไม่มีบาดเจ็บ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในข้อเท็จจริงและเจตนาทางอาญา: การยิงเพื่อขู่ ไม่ใช่เจตนาทำร้าย
แม้จำเลยจะคิดว่าพลตำรวจม้วนเป็นคนร้ายงัดห้อง แต่จำเลยก็มิได้เจตนาจะยิงคนร้าย จำเลยเพียงแต่ยิงประตูเพื่อขู่โดยไม่เห็นตัวและได้ยิงลงต่ำ ไม่ประสงค์ให้ถูกใคร หากแต่เผอิญกระสุนไปถูกไม้คร่าวจึงแฉลบไปผูกพลตำรวจม้วนเข้า ถือว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าหรือแม้แต่เจตนาจะทำร้ายพลตำรวจม้วนเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในข้อเท็จจริง ยิงขู่เพื่อป้องกันตัว ไม่เจตนาฆ่าหรือทำร้าย
แม้จำเลยจะคิดว่าพลตำรวจม้วนเป็นคนร้ายงัดห้องแต่จำเลยก็มิได้เจตนาจะยิงคนร้ายจำเลยเพียงแต่ยิงเพื่อขู่โดยไม่เห็นตัวและได้ยิงลงต่ำ ไม่ประสงค์ให้ถูกใครหากแต่เผอิญกระสุนไปถูกไม้คร่าวจึงแฉลบไปถูกพลตำรวจม้วนเข้าถือว่า จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าหรือแม้แต่เจตนาจะทำร้ายพลตำรวจม้วนเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยพยาบาทและไตร่ตรองไว้ก่อน: การพิจารณาโทษฐานฆ่าต่อเนื่องจากเหตุทำร้ายผู้อื่น
เมื่อจำเลยทราบว่าผู้ตายทำร้ายภริยาและมารดาตนจำเลยก็ตามไปใช้มีดฟันผู้ตายในเวลาต่อเนื่องกับการกระทำของผู้ตายที่ได้ฟันหน้าภริยาและมารดาของจำเลย ซึ่งห่างจากบ้านจำเลย 3 วาเศษแต่จากนั้นระหว่างทางจำเลยทั้งสองกับพวกควบคุมผู้ตายไปเพื่อส่งตำรวจกลับร่วมกันทำร้ายผู้ตายอีก โดยลากขาไปประมาณ 10 วา ตามทุ่งนาแล้วจำเลยคนหนึ่งเอาด้ามมีดกระทุ้งหน้าอกอีก 2 ทีฟันศีรษะผู้ตายอีกหนึ่งที จนผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ถือได้ว่าเป็นการฆ่าโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมาย เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนในระหว่างทางนั่นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีดและการวางแผนร่วมกัน ศาลฎีกาพิพากษาว่าเป็นการพยายามฆ่า
เหตุที่จำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งโดยสารมาในเรือ เพราะผู้เสียหายได้ถามนายท้ายเรือว่า พวกจำเลยนี้จะไปไหนกัน จำเลยกับพวกคงโกรธเพราะฤทธิ์สุราผสมด้วย จึงสมคบร่วมกันคิดทำร้ายขณะผู้เสียหายไม่ทันรู้ตัว โดยพวกของจำเลยลุกไปนั่งคุมเชิงผู้เสียหายอยู่ข้างหลังก่อน พอเรือแวะจะส่งนักเรียน จำเลยก็แหวกนักเรียนตรงเข้าไปทำร้ายผู้เสียหาย พวกของจำเลยก็เข้าช่วยใช้มีดปลายแหลมยาวคืบกว่าแทงผู้เสียหายซ้ำ 2 ที ถูกที่สำคัญลึกถึงตับและปอด ซึ่งอาจทำให้ตายได้ จนผู้เสียหายล้มลง ก็จะแทงซ้ำอีกแต่มีคนกันไว้ จำเลยกับพวกจึงพากันหลบหนีไปเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า มีเจตนาฆ่าให้ตายเมื่อแพทย์ทำการผ่าตัดรักษาไว้ได้ทันท่วงที ่จำเลยก็ย่อมต้องมีความผิดฐานพยายาม ฆ่าคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คู่วิวาททำร้ายกัน ไม่มีสิทธิฟ้องร้องลงโทษอีกฝ่าย
โจทก์จำเลยวิวาททำร้ายกันคู่วิวาทจะฟ้องให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งหาได้ไม่
of 36