พบผลลัพธ์ทั้งหมด 251 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สลักหลังเช็คมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับผู้สั่งจ่ายเมื่อเช็คไม่สามารถเรียกเก็บได้
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 3 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนดและโจทก์นำไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 จำเลยที่ 3 จึงมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 700 และ 948 มาบังคับไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1034/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเช็คต่อผู้ทรง
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 3 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนดและโจทก์นำไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 จำเลยที่3 จึงมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 และ 948 มาบังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผูกพันของผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ทรงเช็ค แม้การได้มาซึ่งเช็คจะต่างจากที่ฟ้อง
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยได้รับการสลักหลังมาจากผู้ทรงคนอื่น เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับเช็คไว้โดยไม่สุจริต การที่จำเลยขออายัดเช็คนั้นต่อธนาคาร ไม่ทำให้จำเลยพ้นจากความรับผิดในฐานะเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989 ประกอบกับมาตรา 914
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้สั่งเช็คจ่ายเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2505 แต่ในวันสืบพยานปรากฏว่าโจทก์ได้เช็คนี้มาเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2505 โดยการสลักหลังจากผู้ทรงอีกคนหนึ่ง ดังนี้ เมื่อจำเลยเป็นผู้สั่งเช็ค แล้วต่อมาโจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คนั้น ก็เป็นอันถือได้ว่าจำเลยมีความผูกพันต่อโจทก์ตามเช็คนั้น แม้การที่โจทก์ได้เช็คไว้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะแตกต่างไปจากคำฟ้องบ้าง ก็ไม่ถึงกับทำให้คดีโจทก์เสียไป
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้สั่งเช็คจ่ายเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2505 แต่ในวันสืบพยานปรากฏว่าโจทก์ได้เช็คนี้มาเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2505 โดยการสลักหลังจากผู้ทรงอีกคนหนึ่ง ดังนี้ เมื่อจำเลยเป็นผู้สั่งเช็ค แล้วต่อมาโจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คนั้น ก็เป็นอันถือได้ว่าจำเลยมีความผูกพันต่อโจทก์ตามเช็คนั้น แม้การที่โจทก์ได้เช็คไว้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะแตกต่างไปจากคำฟ้องบ้าง ก็ไม่ถึงกับทำให้คดีโจทก์เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผูกพันของผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ทรงเช็คโดยชอบ แม้มีการสลักหลังและการอายัดเช็ค
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยได้รับการสลักหลังมาจากผู้ทรงคนอื่นเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับเช็คไว้โดยไม่สุจริตการที่จำเลยขออายัดเช็คนั้นต่อธนาคารไม่ทำให้จำเลยพ้นจากความรับผิดในฐานะเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 989 ประกอบกับมาตรา914
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2505 แต่ในวันสืบพยานปรากฏว่าโจทก์ได้เช็คนี้มาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2505 โดยการสลักหลังจากผู้ทรงอีกคนหนึ่งดังนี้ เมื่อจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็ค แล้วต่อมาโจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คนั้นก็เป็นอันถือได้ว่าจำเลยมีความผูกพันต่อโจทก์ตามเช็คนั้น แม้การที่โจทก์ได้เช็คไว้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะแตกต่างไปจากคำฟ้องบ้างก็ไม่ถึงกับทำให้คดีโจทก์เสียไป
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2505 แต่ในวันสืบพยานปรากฏว่าโจทก์ได้เช็คนี้มาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2505 โดยการสลักหลังจากผู้ทรงอีกคนหนึ่งดังนี้ เมื่อจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็ค แล้วต่อมาโจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คนั้นก็เป็นอันถือได้ว่าจำเลยมีความผูกพันต่อโจทก์ตามเช็คนั้น แม้การที่โจทก์ได้เช็คไว้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะแตกต่างไปจากคำฟ้องบ้างก็ไม่ถึงกับทำให้คดีโจทก์เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็ค แม้มีการผิดสัญญาหรือฉ้อฉลระหว่างผู้ทรงเช็คคนก่อน
เมื่อไม่ปรากฏว่ามีการคบคิดกันฉ้อฉลระหว่างผู้ทรงเช็คกับผู้ทรงเช็คคนก่อน ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดต่อผู้ทรงตามเช็คที่ตนสั่งจ่าย ผู้สั่งจ่ายจะอ้างข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะตนกับผู้ทรงเช็คคนก่อนมาใช้ยันต่อผู้ทรงเช็คคนหลังหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนเงินให้ผู้สั่งจ่ายเช็คในคดีล้มละลาย: เช็คของผู้ถือไม่เป็นทรัพย์สินของลูกหนี้
ผู้ร้องในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คร้องขอรับเงินซึ่งได้ชำระไว้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คืนเพื่อนำไปชำระแก่ผู้ทรงเช็คที่กำลังดำเนินคดีกับผู้ร้องเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งว่าตามมติที่ประชุมเจ้าหนี้ให้งดการคืนเงินให้ผู้ร้องจนกว่าศาลจะได้พิพากษาคดีถึงที่สุดคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังกล่าวนี้ไม่มีลักษณะเป็นคำสั่งเด็ดขาดเป็นแต่เพียงงดจ่ายไว้ก่อนเช่นนี้ผู้ร้องยังไม่จำต้องร้องคัดค้าน
ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้ผู้ร้องแพ้คดีแล้วรายหนึ่งซึ่งทำให้ผู้ร้องเสียหายผู้ร้องจึงได้ยืนยันขอรับเงินจำนวนนี้คืนอีก เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คงสั่งทำนองเดียวกันกับครั้งแรก ผู้ร้องย่อมยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลภายในกำหนด 14 วันนับแต่ทราบคำสั่งครั้งหลัง ตามมาตรา 146 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายได้
ผู้ร้องออกเช็คชนิดผู้ถือเพื่อชำระหนี้แทนผู้ซื้อตึกแถวและที่ดินของจำเลย แต่ปรากฏว่าในขณะที่จำเลยล้มละลายนั้นเช็คนั้นได้ตกไปอยู่ในมือของผู้ทรง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เช่นนี้ไม่ถือว่าเช็คเหล่านั้นเป็นทรัพย์สินของจำเลยผู้ล้มละลายที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเข้าเรียกเก็บเงินได้
ต่อมาเมื่อศาลพิพากษาให้ผู้ร้องแพ้คดีแล้วรายหนึ่งซึ่งทำให้ผู้ร้องเสียหายผู้ร้องจึงได้ยืนยันขอรับเงินจำนวนนี้คืนอีก เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คงสั่งทำนองเดียวกันกับครั้งแรก ผู้ร้องย่อมยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลภายในกำหนด 14 วันนับแต่ทราบคำสั่งครั้งหลัง ตามมาตรา 146 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายได้
ผู้ร้องออกเช็คชนิดผู้ถือเพื่อชำระหนี้แทนผู้ซื้อตึกแถวและที่ดินของจำเลย แต่ปรากฏว่าในขณะที่จำเลยล้มละลายนั้นเช็คนั้นได้ตกไปอยู่ในมือของผู้ทรง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เช่นนี้ไม่ถือว่าเช็คเหล่านั้นเป็นทรัพย์สินของจำเลยผู้ล้มละลายที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเข้าเรียกเก็บเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเช็ค: ผู้ทรงเช็คมีสิทธิฟ้อง แม้ออกเช็คให้ผู้อื่น
จำเลยออกเช็ครายพิพาทสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือ โจทก์ร่วมเป็นผู้ทรงเช็ครายนี้ในขณะเกิดเหตุ และได้นำเช็ครายนี้ไปขึ้นเงินไม่ได้ โดยธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้น ดังนี้ โจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจร้องทุกข์และฟ้องคดีเอาผิดแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนเวลาหนี้ตั๋วแลกเงินทำให้ผู้สั่งจ่ายพ้นความรับผิด และหนังสือรับสภาพหนี้เป็นโมฆะ
ผู้ทรงตั๋วแลกเงินไปยอมผ่อนเวลาการจ่ายเงินให้แก่ผู้จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินโดยมิได้ตกลงกับผู้สั่งจ่ายเสียก่อน ผู้ทรงตั๋วนั้นย่อมสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ย และผู้สั่งจ่ายก็พ้นจากความรับผิดอย่างใด ๆ ตามกฎหมายต่อผู้ทรง
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น ถ้าผู้สั่งจ่ายยอมทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้แก่ผู้ทรง ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นการสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม เพราะขณะนั้นไม่มีหนี้อะไรเหลืออยู่แล้วแม้หนี้เดิมตาม ป.พ.พ.มาตรา 1005 ก็ไม่ต้องรับผิด หนังสือรับสภาพหนี้นั้นจึงเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 119
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น ถ้าผู้สั่งจ่ายยอมทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้แก่ผู้ทรง ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นการสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม เพราะขณะนั้นไม่มีหนี้อะไรเหลืออยู่แล้วแม้หนี้เดิมตาม ป.พ.พ.มาตรา 1005 ก็ไม่ต้องรับผิด หนังสือรับสภาพหนี้นั้นจึงเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 119
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีเช็ค: ผู้สั่งจ่ายไม่สามารถปฏิเสธการจ่ายเงินให้ผู้ทรงเช็ค เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าการโอนเช็คเป็นการฉ้อฉล
เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คจำเลยจะอ้างว่าจำเลยออกเช็คให้บุคคลที่สามโดยถูกบุคคลที่สามหลอกลวง มาเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์หาได้ไม่ เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ซึ่งตกเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบ หาใช่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงจะต้องสืบว่าได้รับโอนเช็คมาอย่างไรไม่
ในเรื่องเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต แต่ไม่ได้กล่าวว่าไม่สุจริตอย่างไร ย่อมไม่มีประเด็นที่จะสืบ
ป.พ.พ.มาตรา 916 ที่ห้ามไม่ให้ยกขึ้นต่อสู้กับผู้ทรงนั้น ได้รวมตลอดถึงห้ามผู้สั่งจ่ายด้วย และมาตรานี้ ซึ่งบัญญัติถึงเรื่องตั๋วแลกเงินก็อนุโลมมาใช้ในเรื่องเช็คได้ เพราะไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสาร
ในเรื่องเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต แต่ไม่ได้กล่าวว่าไม่สุจริตอย่างไร ย่อมไม่มีประเด็นที่จะสืบ
ป.พ.พ.มาตรา 916 ที่ห้ามไม่ให้ยกขึ้นต่อสู้กับผู้ทรงนั้น ได้รวมตลอดถึงห้ามผู้สั่งจ่ายด้วย และมาตรานี้ ซึ่งบัญญัติถึงเรื่องตั๋วแลกเงินก็อนุโลมมาใช้ในเรื่องเช็คได้ เพราะไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ทรงเช็ค – การต่อสู้ของผู้สั่งจ่าย – การพิสูจน์การโอนเช็ค
เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คจำเลยจะอ้างว่าจำเลยออกเช็คให้บุคคลที่สามโดยถูกบุคคลที่สามหลอกลวง มาเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์หาได้ไม่เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ซึ่งตกเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องสืบ หาใช่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงจะต้องสืบว่าได้รับโอนเช็คมาอย่างไรไม่
ในเรื่องเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต แต่ไม่ได้กล่าวว่าไม่สุจริตอย่างไร ย่อมไม่มีประเด็นที่จะสืบ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ที่ห้ามไม่ให้ยกขึ้นต่อสู้กับผู้ทรงนั้น ได้รวมตลอดถึงห้ามผู้สั่งจ่ายด้วย และ มาตรานี้ซึ่งบัญญัติถึงเรื่องตั๋วแลกเงิน ก็อนุโลมมาใช้ในเรื่องเช็คได้ เพราะไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสาร
ในเรื่องเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต แต่ไม่ได้กล่าวว่าไม่สุจริตอย่างไร ย่อมไม่มีประเด็นที่จะสืบ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ที่ห้ามไม่ให้ยกขึ้นต่อสู้กับผู้ทรงนั้น ได้รวมตลอดถึงห้ามผู้สั่งจ่ายด้วย และ มาตรานี้ซึ่งบัญญัติถึงเรื่องตั๋วแลกเงิน ก็อนุโลมมาใช้ในเรื่องเช็คได้ เพราะไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสาร