พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1900/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่พ้นกำหนดเวลา แม้จะทราบประกาศคำบังคับแล้ว ศาลไม่รับพิจารณา
ศาลชั้นต้นประกาศคำบังคับโดยทางหนังสือเมื่อวันที่ 27กันยายน 2510. โดยกำหนดให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511. คำบังคับมีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2511. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง ให้มีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา 15 วันล่วงพ้นไปแล้ว. แต่คำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันนับจากวันที่ส่งคำบังคับ. ฉะนั้น เมื่อนับจากวันที่ 13 ตุลาคม 2511ก็ครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2511 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จำเลยจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งใหม่ได้ภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2511 แต่จำเลยยื่นคำร้องวันที่ 30 ตุลาคม 2511 จึงล่วงพ้นกำหนดเวลาที่จะยื่นได้.
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ในวันที่ 25 ถึงวันที่28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ.จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว. จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า. ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา.
จำเลยทราบประกาศคำบังคับวันที่ 24 ตุลาคม 2511 สามารถยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ในวันที่ 25 ถึงวันที่28 ตุลาคม 2511 ซึ่งอยู่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติ.จำเลยเคยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ตุลาคม 2511 แต่คำร้องฉบับนั้นถูกศาลสั่งยกไปแล้ว. จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 30 ตุลาคม 2511 พ้นระยะเวลาที่จะยื่นได้โดยไม่ได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้า. ศาลจึงไม่อาจรับไว้พิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษายกฟ้องเป็นยุติแล้ว โจทก์ขอพิจารณาคดีใหม่มิได้ แม้มีเหตุจำเป็น
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามฟ้องได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเป็นอันยุติ ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ศาลจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ไม่ได้ เพราะมิใช่เป็นเรื่องศาลชั้นต้นยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ขาดนัด (อ้างฎีกาที่ 872/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาถึงที่สุดหลังขาดนัดสืบพยาน โจทก์ขอพิจารณาคดีใหม่ไม่ได้
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามฟ้องได้จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเป็นอันยุติ ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ศาลจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ไม่ได้เพราะมิใช่เป็นเรื่องศาลชั้นต้นยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ขาดนัด(อ้างฎีกาที่ 872/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษายกฟ้องเป็นอันยุติแล้ว ไม่สามารถขอพิจารณาคดีใหม่ได้ หากไม่ใช่กรณีขาดนัด
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ. และว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามฟ้องได้. จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์. โจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น. คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเป็นอันยุติ. ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่. ศาลจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ไม่ได้. เพราะมิใช่เป็นเรื่องศาลชั้นต้นยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ขาดนัด.(อ้างฎีกาที่ 872/2492).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด พิจารณาจากเหตุผลความจำเป็นและข้อคัดค้านคำพิพากษา
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า การที่ศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีนั้นยังไม่ถูกต้อง ถ้าหากจำเลยได้นำพยานมาสืบแล้วจำเลยจะชนะคดีโจทก์ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ากว่า 2 ครั้งติดๆ กัน ถือว่าได้กล่าวในคำขอโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่เมื่อทนายจำเลยไม่สามารถมาศาลได้ และการคัดค้านคำพิพากษาที่ชัดแจ้ง
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า การที่ศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีนั้นยังไม่ถูกต้อง. ถ้าหากจำเลยได้นำพยานมาสืบแล้วจำเลยจะชนะคดีโจทก์ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ากว่า 2 ครั้งติดๆ กัน. ถือว่าได้กล่าวในคำขอโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่: การแก้ไขคำขอเดิมและการไม่ถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนการซ้ำ
จำเลยผู้ขาดนัดพิจารณายื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ครั้งแรกไม่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลและศาลสั่งยกคำขอไปแล้ว จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่เป็นฉบับที่ 2 บรรยายแต่ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลและขอให้ถือเหตุที่ได้ขาดนัดตามที่กล่าวในคำขอฉบับแรกเป็นส่วนประกอบของคำขอฉบับหลังได้ ไม่จำเป็นจะต้องบรรยายซ้ำอีก (อ้างฎีกาที่ 1472/2492)
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ครั้งแรกอ้างเหตุไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ศาลสั่งยกคำขอไปแล้ว จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เป็นครั้งที่ 2 โดยทำให้ถูกต้องย่อมทำได้ ไม่เป็นการดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 (อ้างฎีกาที่1309/2494)
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ครั้งแรกอ้างเหตุไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ศาลสั่งยกคำขอไปแล้ว จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เป็นครั้งที่ 2 โดยทำให้ถูกต้องย่อมทำได้ ไม่เป็นการดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 (อ้างฎีกาที่1309/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่เมื่อขาดนัด - เหตุผลที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้คดี และข้อคัดค้านคำพิพากษา
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไม่ทราบว่าโจทก์ฟ้องเพราะย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในที่กันดารห่างไกล จึงไม่ได้ต่อสู้คดี ความจริงจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ไม่ได้พิมพ์ลายมือในสัญญากู้ ศาลพิจารณาคดีโจทก์ฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีดังนี้ เท่ากับจำเลยกล่าวแสดงเหตุผลละเอียดชัดแจ้งแล้วว่า ถ้าจำเลยได้ต่อสู้คดีสืบพยานจำเลยก็อาจชนะคดีโดยศาลอาจฟังว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดถึงเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด สืบเนื่องจากจำเลยไม่ทราบการฟ้องคดี และมีเหตุผลโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลพิจารณา
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไม่ทราบว่าโจทก์ฟ้องเพราะย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในที่กันดารห่างไกลจึงไม่ได้ต่อสู้คดี ความจริงจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ไม่ได้พิมพ์ลายมือในสัญญากู้ศาลพิจารณาคดีโจทก์ฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ เท่ากับจำเลยกล่าวแสดงเหตุผลละเอียดชัดแจ้งแล้วว่า ถ้าจำเลยได้ต่อสู้คดีสืบพยานจำเลยก็อาจชนะคดีโดยศาลอาจฟังว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดถึงเหตุที่ขาดนัดและ ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการมีทนาย - ความจำเป็นในการพิจารณาคดีใหม่ หากจำเลยไม่ได้รับการสอบถามเรื่องทนาย
คดีอาญาที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยซึ่งมีอัตราโทษจำคุกถึง10 ปี เมื่อศาลชั้นต้นมิได้สอบถามจำเลยในเรื่องทนายความ และพิพากษาลงโทษจำคุก ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการดำเนินคดี ย่อมเป็นการจำเป็นที่จะให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2)