คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ภูมิลำเนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 385 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3153/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนา การส่งคำบังคับ และระยะเวลาการยื่นคำขอพิจารณาใหม่หลังยึดทรัพย์
จำเลยที่ 4 ไปศึกษาต่อต่างประเทศก่อนโจทก์ฟ้องหลายปี มีครอบครัวและประกอบอาชีพอยู่ต่างประเทศ แต่จำเลยที่ 4 ยังมีสัญชาติไทย มีชื่อในทะเบียนบ้านตามที่โจทก์บรรยายไว้ในคำฟ้องและเคยเดินทางกลับมาประเทศไทยหลายครั้ง ถือว่าจำเลยที่ 4 ยังมีภูมิลำเนาในประเทศไทยตามทะเบียนบ้านนั้น การส่งคำบังคับให้แก่จำเลยที่ 4 ตามภูมิลำเนาดังกล่าวโดยการปิดคำบังคับจึงเป็นการส่งโดยชอบ จำเลยที่ 4 เพิ่งยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อพ้นกำหนด6 เดือนไปแล้ว นับแต่วันยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 4 จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคแรก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3053/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนา, การฟ้องคดี, ดอกเบี้ยผิดนัด: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม โจทก์มีอำนาจฟ้องต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ และมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยตามกฎหมาย
การที่จำเลยแจ้งย้ายออกจากบ้านเดิมที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้วไม่แจ้งแย้งเข้าบ้านตามที่แจ้งไว้ในกรุงเทพมหานคร จึงไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยไปอยู่ที่ใด ทั้งยังได้ความว่า จำเลยแจ้งย้ายออกเฉพาะตัวจำเลยคนเดียว มิได้แจ้งย้ายครอบครัวไปด้วย แสดงว่าไม่มีเจตนาย้ายถิ่นที่อยู่ และจงใจจะเปลี่ยนภูมิลำเนา ต้องถือว่าจำเลยมีภูมิลำเนาครั้งสุดท้ายอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดบุรีรัมย์ โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ได้
แม้ข้อตกลงในสัญญากู้ที่ให้โจทก์คิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจะตกเป็นโมฆะมีผลให้โจทก์หมดสิทธิที่จะเรียกดอกเบี้ยตามสัญญาได้ก็ตาม แต่เมื่อเป็นหนี้เงินซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ให้คิดดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดได้ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้ดอกเบี้ยตามบทกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3053/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงภูมิลำเนาและการมีอำนาจฟ้องคดีแพ่ง รวมถึงดอกเบี้ยผิดนัดตามกฎหมาย
จำเลยแจ้งย้ายออกจากบ้านเดิม ที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้วไม่แจ้งย้ายเข้าบ้านที่แจ้งไว้ในกรุงเทพมหานครจึงไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยไปอยู่ที่ใด ทั้งยังได้ความว่าจำเลยแจ้งย้ายออกเฉพาะตัวจำเลยคนเดียว มิได้แจ้งย้ายครอบครัวไปด้วย แสดงว่าไม่มีเจตนาย้ายถิ่นที่อยู่และจงใจจะเปลี่ยนภูมิลำเนา ต้องถือว่าจำเลยมีภูมิลำเนาครั้งสุดท้ายอยู่ที่บ้านเดิม ที่จังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งอยู่ในเขตศาลจังหวัดบุรีรัมย์ โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3053/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงภูมิลำเนา, อำนาจฟ้อง, ดอกเบี้ยผิดนัด และผลของการคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
การที่จำเลยแจ้งย้ายออกจากบ้านเดิมที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้วไม่แจ้งแย้งเข้าบ้านตามที่แจ้งไว้ในกรุงเทพมหานคร จึงไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยไปอยู่ที่ใด ทั้งยังได้ความว่า จำเลยแจ้งย้ายออกเฉพาะตัวจำเลยคนเดียว มิได้แจ้งย้ายครอบครัวไปด้วย แสดงว่าไม่มีเจตนาย้ายถิ่นที่อยู่ และจงใจจะเปลี่ยนภูมิลำเนา ต้องถือว่าจำเลยมีภูมิลำเนาครั้งสุดท้ายอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดบุรีรัมย์โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ได้ แม้ข้อตกลงในสัญญากู้ที่ให้โจทก์คิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจะตกเป็นโมฆะมีผลให้โจทก์หมดสิทธิที่จะเรียกดอกเบี้ยตามสัญญาได้ก็ตาม แต่เมื่อเป็นหนี้เงินซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ให้คิดดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดได้ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้ดอกเบี้ยตามบทกฎหมายดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2571/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดโดยจงใจในคดีแพ่ง แม้จำเลยถูกจำคุกอยู่เรือนจำ แต่มีผู้พักอาศัยที่ภูมิลำเนา
เจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์ที่ภูมิลำเนาของจำเลยโดยชอบ ในระหว่างนั้นจำเลยต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำแต่ภรรยาและบุตรของจำเลยคงอยู่ ณ ภูมิลำเนาของจำเลยน่าเชื่อว่าจำเลยได้ทราบถึงการถูกฟ้องและการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยขาดนัดโดยจงใจและเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุอันสมควรตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208,209.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบุตร: บิดามารดายังมีอำนาจแม้ภูมิลำเนาต่างประเทศ
บุตรซึ่ง ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้อง อยู่ใต้ อำนาจปกครองของบิดามารดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 แม้บิดามารดาของผู้เยาว์จะมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศก็ตาม เมื่อมิได้ถูกถอน อำนาจปกครอง ก็จะขอให้ศาลตั้ง ผู้ปกครองผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบุตรยังคงเป็นของบิดามารดา แม้มีภูมิลำเนาต่างประเทศ ตราบใดที่ยังมิได้ถูกถอน
บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของบิดามารดาตาม ป.พ.พ. มาตรา 1566 แม้บิดามารดาของผู้เยาว์จะมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศก็ตามเมื่อมิได้ถูกถอนอำนาจปกครอง ก็จะขอให้ศาลตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1585 หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบุตรโดยบิดามารดา แม้มีภูมิลำเนาต่างประเทศ
บุตรซึ่ง ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้อง อยู่ใต้ อำนาจปกครองของบิดามารดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 แม้บิดามารดาของผู้เยาว์จะมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศก็ตาม เมื่อมิได้ถูกถอน อำนาจปกครอง ก็จะขอให้ศาลตั้ง ผู้ปกครองผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียก ณ ภูมิลำเนาที่เปลี่ยนแปลง การส่งทางประกาศชอบด้วยกฎหมายเมื่อไม่สามารถส่งตามภูมิลำเนาเดิมได้
โจทก์ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยตามภูมิลำเนาในคำฟ้องตามที่จำเลยระบุไว้ในสัญญากู้เงิน แต่การส่ง ณสถานที่ดังกล่าวไม่อาจกระทำได้เพราะจำเลยย้ายภูมิลำเนาและโจทก์ไม่อาจค้นหาภูมิลำเนาใหม่ได้ เพราะไม่ปรากฎว่าจำเลยได้แจ้งย้ายเข้าและย้ายออกจากบ้านที่แจ้งไว้โดยทางทะเบียนจึงเป็นกรณีที่ไม่อาจส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยได้ การที่ศาลมีคำสั่งให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตลอดจนแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลย โดยวิธีประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ตามที่โจทก์ขอ จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4297/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดประกาศขายทอดตลาดไม่ชอบเมื่อไม่ปิดที่ภูมิลำเนาเจ้าของทรัพย์ ทำให้เจ้าของทรัพย์ไม่ทราบการขาย
เจ้าหน้าที่ศาลนำประกาศขายทอดตลาดไปส่งให้จำเลยที่ 3 ปรากฏว่าไม่พบ จำเลยที่ 3 จึงได้ปิดประกาศที่ทรัพย์ตั้งอยู่ ที่ร้านค้าในหมู่บ้านอันเป็นที่ชุมนุมชนใกล้เคียงที่ทรัพย์ตั้งอยู่ และปิดไว้ที่ป้ายประกาศศาล การปิดประกาศดังกล่าวมิใช่เป็นการปิด ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของจำเลยที่ 3 ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคแรกการปิดประกาศขายทอดตลาดจึงไม่ชอบ
of 39