คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลายมือชื่อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 385 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2550/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการชำระหนี้ต้องมีลายมือชื่อพยานรับรองตามกฎหมาย มิฉะนั้นใช้เป็นหลักฐานไม่ได้
เอกสารที่เป็นหลักฐานการชำระหนี้กู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไป แม้มีลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ให้ยืม แต่ไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสาม เท่ากับผู้ให้ยืมมิได้ลงลายมือชื่อในหลักฐานการใช้เงินนั้น ผู้ยืมจึงใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ว่าผู้ให้ยืมได้รับชำระหนี้แล้ว
ฎีกาข้อกฎหมายที่ไร้สาระศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพิ่มเติมต้องมีลายมือชื่อคู่สัญญาจึงมีผลผูกพัน
ข้อ 2 แห่งสัญญาเช่ามีข้อกำหนดไว้ด้วยว่า หากจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมประการใด จะต้องปรากฏลายมือชื่อคู่สัญญาลงกำกับไว้เป็นสำคัญ เมื่อข้อตกลงเพิ่มเติมท้ายสัญญาเช่าพิมพ์ไว้ต่างหากด้านข้างของกระดาษแบบฟอร์ม และมีแต่ลายมือชื่อของจำเลยผู้เช่ากับลายมือชื่อของพยานใต้ข้อความนั้น หาได้มีลายมือชื่อคู่สัญญาฝ่ายโจทก์ผู้ให้เช่าลงกำกับไว้ด้วยไม่ ข้อตกลงเพิ่มเติมดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา จึงไม่มีผลผูกพันโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับประกันหรือตัวแทน จึงจะบังคับคดีได้
สารบัญประกันภัยที่โจทก์อ้างมีข้อความระบุถึงผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัยและรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้เท่านั้นไม่มีลายมือชื่อผู้รับประกันภัยหรือลายมือชื่อตัวแทนผู้รับประกันภัยแต่อย่างใด โจทก์จึงอาศัยเอกสารดังกล่าวฟ้องร้องบังคับคดีเอาจากผู้รับประกันภัยไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระค่าเช่าต้องมีข้อความแสดงเจตนา การมีลายมือชื่อโจทก์ไม่พอเป็นหลักฐานการเช่า
เช็คซึ่งจำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์ แม้มีลายมือชื่อโจทก์ในเช็คนั้น แต่มิได้มีข้อความที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการชำระค่าเช่า ย่อมไม่เป็นหลักฐานการเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำคู่ความที่ขาดลายมือชื่อผู้เรียง ศาลมีอำนาจสั่งแก้ไขก่อนชี้ขาดคดีได้
คดีอาญาจำเลยยื่นอุทธรณ์ อุทธรณ์จำเลยเป็นคำคู่ความ การยื่นคำคู่ความประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่มีบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67 วรรคสอง บัญญัติว่า "ในการยื่นหรือสั่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่นใดอันจะต้องทำตามแบบพิมพ์ที่จัดไว้ เจ้าพนักงานคู่ความหรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องจะต้องใช้กระดาษแบบพิมพ์นั้น ฯลฯ" จำเลยอุทธรณ์โดยใช้กระดาษแบบพิมพ์ที่กระทรวงยุติธรรมจัดไว้ และมีรายการครบถ้วนตามมาตรา 67. คงขาดลายมือชื่อผู้เรียง ในช่องผู้เรียงในกระดาษแบบพิมพ์ท้ายอุทธรณ์ ถือว่ายังไม่บริบูรณ์ เมื่อศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้วศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นแก้ไขให้บริบูรณ์เสียก่อนชี้ขาดตัดสินคดี จะยกอุทธรณ์จำเลยยังไม่ชอบ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นอุทธรณ์มาในฉบับเดียวกันศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง เพราะเหตุไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงในท้ายอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ฎีกาขึ้นมาคนเดียว เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งให้แก้ไขให้บริบูรณ์ ก็พิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 2 ด้วยได้เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำยืนยันผู้เชี่ยวชาญลายมือชื่อผูกพันตามคำท้า หากตรงตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้
คดีที่โจทก์จำเลยท้ากันว่า ถ้าผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่าลายมือชื่อในช่องผู้เช่าในสัญญาเช่าเป็นลายมือชื่อที่แท้จริงที่จำเลยลงไว้ จำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดี ถ้าผู้เชี่ยวชาญว่าไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย โจทก์เป็นฝ่ายยอมแพ้ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นในรายงานการตรวจพิสูจน์น่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อจำเลยเช่นนี้ มีลักษณะเป็นคำยืนยันหรือทำนองยืนยันว่าลายมือชื่อผู้เช่าในสัญญาเช่าเป็นลายมือชื่อจำเลย ถือได้ว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญตรงตามคำท้าแล้วจำเลยจึงต้องแพ้คดีตามคำท้า(อ้างฎีกาที่ 433/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1713-1714/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำท้าพิสูจน์ลายมือชื่อที่มีผลเฉพาะคู่ความที่ตกลงกัน และหน้าที่การนำสืบพยานของโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ทำไว้ ก่อนสืบพยาน โจทก์กับจำเลยที่ 1ตกลงท้าพิสูจน์ลายมือของจำเลยที่ 2 ในเอกสารที่ตกลงกันโดยจำเลยที่ 2 มิได้ตกลงตามคำท้าด้วย หากผลปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายแพ้ตามคำท้า ข้อตกลงท้ากันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 คงมีผลบังคับเฉพาะในระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น หามีผลบังคับถึงจำเลยที่ 2 ด้วยไม่เพราะกระบวนพิจารณาที่จำเลยที่ 1กระทำไปเป็นที่เสื่อมเสียแก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคู่ความร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59(1) โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบให้ฟังได้ตามที่โจทก์กล่าวอ้างดังนั้น คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 จึงต้องมีการสืบพยานกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1419/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารกู้ยืมเงินต้องมีลายมือชื่อผู้ยืมจึงมีผลผูกพันทางกฎหมาย
แม้จำเลยจะเขียนชื่อจำเลยไว้ที่หัวกระดาษถัดลงมามีข้อความแสดงการยืมเงินรายการแสดงการชำระหนี้หลายครั้งและมีรายการแสดงยอดเงินคงเหลือ แต่ไม่มีลายมือชื่อจำเลยถือไม่ได้ว่าชื่อจำเลยที่เขียนไว้ที่หัวกระดาษเป็นการลงลายมือชื่อเอกสารดังกล่าวจึงมิใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคแรกโจทก์จะอาศัยเอกสารดังกล่าวฟ้องร้องบังคับให้จำเลยรับผิดใช้เงินยืมหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย และอำนาจฟ้องของผู้ซื้อ
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนขายบ้านให้โจทก์ โดยกล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองทำสัญญาจะขายบ้านโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ ปรากฏว่าตามสัญญาจะซื้อจะขายนั้น จำเลยที่ 2 พิมพ์ลายนิ้ว มือในสัญญาโดยมีพยานรับรองเพียงคนเดียว ซึ่งการพิมพ์ลายนิ้วมือจะต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคน จึงจะเสมอกับลงลายมือชื่อ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสาม ที่โจทก์ลงชื่อในสัญญาไม่มีข้อความระบุว่า เป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 2 ต้องถือว่า โจทก์ลงชื่อในฐานะผู้ซื้อ จึงถือไม่ได้ว่า สัญญาดังกล่าวได้ลงลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ฝ่ายที่ต้องรับผิดส่วนจำเลยที่ 1 มิได้ลงลายมือชื่อในสัญญาด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับแก่จำเลยทั้งสองตามสัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวได้
โจทก์มีอำนาจฟ้องตามสัญญาจะซื้อจะขายได้หรือไม่นั้น เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3288/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องรับผิดต่อความเสียหายจากเช็คที่ถูกแก้ไขและเรียกเก็บเงินโดยไม่ตรวจสอบลายมือชื่อ
ธนาคารโจทก์รับเช็คจากลูกค้า ได้ตีตราขีดคร่อมเฉพาะแก่ธนาคารโจทก์ เช็คหาย มีผู้นำเช็คนั้นไปเข้าบัญชีธนาคารจำเลยเรียกเก็บเงินโดยขีดฆ่าชื่อธนาคารโจทก์ในขีดคร่อมเฉพาะออก มีตราธนาคารโจทก์รับรองการแก้ไข แต่ลายมือชื่อบุคคลผู้รับรองการแก้ไขไม่มีในตัวอย่างผู้มีอำนาจลงนามแทนโจทก์ ถือว่าเป็นลายมือชื่อปลอม การแก้ไขทำโดยโจทก์ไม่ได้ยินยอม ธนาคารจำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คแล้วจ่ายเงินแก่เจ้าของบัญชีไป คนของจำเลยไม่ตรวจลายมือชื่อที่รับรองการแก้ไข เป็นประมาทเลินเล่อ จำเลยต้องใช้เงินแก่ธนาคารโจทก์ซึ่งจ่ายเงินแก่ลูกค้าของโจทก์ไปตามจำนวนในเช็ค
ข้อที่จำเลยต่อสู้ในคำให้การ แต่ศาลมิได้กำหนดเป็นประเด็นในการชี้สองสถาน ถือว่าไม่มีประเด็นที่จะฎีกา
of 39