คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้สิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดของทายาทในหนี้สินจากละเมิดของลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน
บ.ลูกจ้างของโจทก์ขับรถด้วยความประมาทชนขบวนรถไฟเป็นเหตุให้รถโจทก์และรถไฟเสียหาย ต่อมา บ.ถึงแก่กรรม โจทก์ย่อมฟ้องให้จำเลยซึ่งเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ บ.ในฐานะทายาทโดยธรรมให้รับผิดในความเสียหายดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599,1600 และมาตรา 1629 วรรคสองและเป็นคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างกับ บ.ลูกจ้างเกี่ยวกับการทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน ศาลแรงงานกลางจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8(5).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3099/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ที่มีร่วมกับบุคคลอื่น แม้คดีความยังไม่ถึงที่สุด
ผู้ร้องรับโอนสิทธิการเช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์พร้อมอาคารมาจากจำเลยและภริยาจำเลย แต่ยังค้างชำระค่าโอนสิทธิการเช่าอยู่อีกจำนวนหนึ่ง หลังจากการโอนสิทธิการเช่าดังกล่าวแล้ว ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยหย่ากับภริยา คดียังไม่ถึงที่สุด และภริยาจำเลยฟ้องผู้ร้องให้ชำระค่าโอนสิทธิการเช่าที่ยังคงค้างชำระอยู่นั้น ดังนั้น จำเลยจึงยังเป็นเจ้าของรวมในเงินค่าโอนสิทธิการเช่าที่ยังคงค้างชำระดังกล่าวอยู่ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยจึงมีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องในค่าโอนสิทธิการเช่าของจำเลยที่มีต่อผู้ร้องดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 310(3) ประกอบด้วย มาตรา 311 แม้สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจะยังพิพาทเป็นคดีกันอยู่ระหว่างผู้ร้องกับภริยาจำเลยก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2761/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดกสิทธิเรียกร้องหนี้สิน: ทายาทมีสิทธิรับชำระหนี้แทนผู้ตาย แม้คำร้องใช้ถ้อยคำผิดพลาด
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์ซึ่งเป็นบิดาของผู้ร้อง ระหว่างการบังคับคดีโจทก์ถึงแก่ความตาย ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับมรดกความของโจทก์เพื่อดำเนินการบังคับคดีต่อไป เช่นนี้วัตถุประสงค์ของผู้ร้องก็เพื่อมีสิทธิรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาที่โจทก์มีสิทธิจะได้รับจากจำเลย และเป็นสิทธิที่โจทก์มีอยู่ก่อนที่ตนจะถึงแก่กรรม สิทธิดังกล่าวจึงเป็นมรดกตก ทอดแก่ทายาทตาม ป.พ.พ.มาตรา 1599 แม้ตามคำร้อง ของ ผู้ร้องจะใช้ข้อความว่าขอรับมรดกความก็เป็นเรื่องที่โจทก์ใช้ถ้อยคำผิดพลาดไป การยื่นคำร้องดังกล่าวจึงไม่จำต้องยื่นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์มรณะตาม ป.วิ.พ. มาตรา42 วรรคแรก ฉะนั้น การที่ศาลพิพากษาให้ผู้ร้องเข้ารับมรดกได้จึงมิใช่สั่งหรือพิพากษานอกเหนือไปจากคำร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: กรณีความขัดแย้งเรื่องหนี้สินและการเตรียมอาวุธ
ผู้ตายยืมเงินจำเลยไปโดยเอาเข็มขัดนากปลอมให้ไว้เป็นประกันจำเลยทวงถาม ผู้ตายชำระเงินคืนให้บ้าง ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน ผู้ตายต่อว่าจำเลยเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ผู้ตายยืมและจะใช้อาวุธปืนยิงจำเลย ถึงกับจำเลยต้องบอกว่าเรื่องเงินให้แล้วกันไป ทำให้จำเลยมีความเจ็บใจคิดหาโอกาสทำร้ายผู้ตายตลอดมา ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าได้มีการโต้เถียงกันอันจะเป็นเหตุให้จำเลยยิงผู้ตายในขณะนั้น ทั้งไม่มีสาเหตุอื่นที่จำเลยจะยิงผู้ตาย การที่จำเลยมีความเจ็บใจและคิดหาโอกาสทำร้ายผู้ตายเมื่อมีโอกาสจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมติดตัวไปยิงผู้ตาย ถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1359/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างหลังเลิกกิจการ: ผู้ชำระบัญชียังมีหน้าที่ชำระหนี้สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชย
แม้ร้านสหกรณ์โรงงานกระดาษบางปะอิน จำกัด จำเลยที่ 1 จะได้เลิกกิจการไปแล้วก็ตาม แต่ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511มาตรา 89 ให้ถือว่ายังคงดำรงอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีของผู้ชำระบัญชีสภาพการเป็นนิติบุคคลของจำเลยที่1 ยังไม่สิ้นสุดลง การเป็นนายจ้างลูกจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 จึงไม่สิ้นสุดลงโดยการเลิกกิจการของจำเลยที่ 1 และเมื่อต่อมาจำเลยที่ 1 เลิกจ้างโจทก์โดยยังมิได้จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยแก่โจทก์ จำเลยที่ 3ในฐานะผู้ชำระบัญชีจึงมีหน้าที่จัดการชำระหนี้แก่โจทก์ในนามของจำเลยที่ 1 ให้เสร็จสิ้นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา90 และ 94 การที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 3 ในฐานะผู้ชำระบัญชีชำระหนี้ดังกล่าวจึงหาเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 52 ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คโดยสุจริตของผู้ทรงเช็คและการรับผิดของผู้สั่งจ่ายแม้จะมีการตกลงเรื่องหนี้สินก่อนหน้านี้
การโอนเช็คจะถือว่ามีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะนำสืบให้ฟังได้ว่าโจทก์รับโอนเช็คพิพาทโดยรู้ว่าจำเลยไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามเช็ค การที่จำเลยเอาเงินของบ. ไปแล้วออกเช็คมิได้ลงวันถึงกำหนดให้ใช้เงินให้บ. ไว้แสดงอยู่ในตัวว่ายินยอมให้บ. กรอกวันตามที่บ. เห็นสมควรลงในเช็คเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คได้ อายุความฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายเริ่มนับตั้งแต่วันที่เช็คถึงกำหนดหรือวันที่ลงในเช็ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างที่มีหนี้สิน การพิจารณาหนังสือตักเตือน และสิทธิค่าชดเชย
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยกำหนดว่าพนักงานหรือลูกจ้างที่มีหนี้สินรุงรังเป็นผู้กระทำผิดวินัยโจทก์เป็นหนี้บุคคลอื่นจำเลยจึงมีหนังสือถึงโจทก์มีข้อความว่าโจทก์เป็นหนี้บุคคลอื่นให้รีบจัดการในเรื่องหนี้สินเสียมิฉะนั้นจะพิจารณาโทษหนังสือดังกล่าวไม่ใช่หนังสือตักเตือนตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงินต้องแสดงเจตนาการเป็นหนี้ การสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารทำไม่ได้
เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไม่จำเป็นต้องระบุชัดแจ้งว่าเป็นหนี้เงินกู้ แต่ก็ต้องมีข้อความแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีหนี้สินอันจะพึงต้องชำระให้แก่โจทก์ จึงจะนำสืบพยานบุคคลเพื่ออธิบายว่าหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นเป็นหนี้อันเกิดจากนิติสัมพันธ์ในเรื่องกู้ยืมเงินได้ เอกสารที่โจทก์อ้างในคดีมีข้อความเพียงว่า จำเลยได้รับเงิน 2 ครั้ง ครั้งแรกรับมา 72,190 บาท ครั้งที่สองรับมาอีก 1,000 บาท และจำเลยได้ลงลายมือชื่อรับเงินทั้งสองจำนวนไว้ด้วยเท่านั้น ไม่ได้ความว่า โจทก์เป็นผู้จ่ายเงินและจำเลยจะต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์ อันมีลักษณะที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์หรือมีหนี้จะต้องชำระแก่โจทก์แต่อย่างใด การที่โจทก์จะสืบพยานบุคคลประกอบว่า โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงินและจำเลยได้รับเงินไปตามเอกสารข้างต้นก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารดังกล่าว ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เอกสารนั้นจึงไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืมเงินที่จะใช้ฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืมเงินต้องแสดงเจตนาให้เห็นว่ามีหนี้สินเกิดขึ้น การอธิบายเพิ่มเติมโดยพยานบุคคลขัดต่อกฎหมาย
เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไม่จำเป็นต้องระบุชัดแจ้งว่าเป็นหนี้เงินกู้ แต่ก็ต้องมีข้อความแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีหนี้สินอันจะพึงต้องชำระให้แก่โจทก์จึงจะนำสืบพยานบุคคลเพื่ออธิบายว่าหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นเป็นหนี้อันเกิดจากนิติสัมพันธ์ในเรื่อง กู้ยืมเงินได้ เอกสารที่โจทก์อ้างมีข้อความว่า จำเลยได้รับเงิน2 ครั้ง ครั้งแรกรับมา 72,190 บาท ครั้งที่สอง รับมาอีก 1,000 บาท และจำเลยได้ลงลายมือชื่อ รับเงินทั้งสองจำนวนไว้ด้วย ไม่ได้ความว่าโจทก์ เป็นผู้จ่ายเงินและจำเลยจะต้องคืนเงินจำนวน ดังกล่าวให้แก่โจทก์ อันมีลักษณะที่แสดงให้ เห็นว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์หรือมีหนี้จะต้องชำระแก่โจทก์แต่อย่างใดการที่โจทก์จะสืบพยานบุคคลประกอบว่าโจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงินและจำเลยได้รับเงินไปตามเอกสารดังกล่าว ก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความ ในเอกสารซึ่งต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94เอกสารนั้นจึงไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืมเงินที่จะใช้ฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4315/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ผ่านตัวแทนเชิด: ศาลวินิจฉัยได้หากเกี่ยวข้องกับประเด็นข้อพิพาทเดิม
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญา จำเลยให้การว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว โดยชำระผ่าน ป.ตัวแทนของโจทก์ดังนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า ป.เป็นตัวแทนเชิดของโจทก์ได้รับชำระหนี้แทนโจทก์ จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาหรือไม่
of 48