พบผลลัพธ์ทั้งหมด 359 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์สินหลังศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
ในคดีล้มละลาย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดแล้ว ก็เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดการทรัพย์สินของจำเลยต่อไปตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย จำเลยจะมาขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ดังเช่นคดีแพ่งธรรมดาหาได้ไม่. (อ้างคำสั่งคำร้องที่ 112/2518)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5964/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และกระบวนการคัดค้าน
เมื่อการบังคับคดียังไม่สำเร็จบริบูรณ์ การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งเรียกทรัพย์ที่ถูกยึดในคดีแพ่งสามัญมารวมไว้ในกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย จึงเป็นการโอนการยึดทรัพย์มาโดยชอบด้วยกฎหมายตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 112 การคัดค้านการยึดทรัพย์กรณีนี้พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 158 บัญญัติวิธีการไว้โดยให้คัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนและมีคำสั่ง ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึดก็ให้มีสิทธิร้องขอต่อศาลเป็นการเฉพาะแล้ว ผู้ร้องจะมาร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่ยึดดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 บัญญัติไว้อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5680/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด: สิทธิในการดำเนินคดีแทนลูกหนี้
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ก่อน แล้ว หลังจากนั้น จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2530 ครั้นวันที่ 29 มิถุนายน 2530 เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่โจทก์นำยึดตามคำสั่งศาล เช่นนี้ จำเลยจะร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวไม่ได้ อำนาจในการดำเนินคดีย่อมตกแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 22
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มาศาลในวันที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขอคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีแทนจำเลย ย่อมมีอำนาจจะคุ้มครองป้องกันสิทธิของจำเลยทุกประการ ศาลจึงไม่มีหน้าที่จะต้องสอบถามเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มาศาลในวันที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขอคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีแทนจำเลย ย่อมมีอำนาจจะคุ้มครองป้องกันสิทธิของจำเลยทุกประการ ศาลจึงไม่มีหน้าที่จะต้องสอบถามเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5680/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจดำเนินคดีตกแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ลูกหนี้หมดอำนาจ
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ ต่อมาวันที่ 25มิถุนายน 2530 จำเลยถูกศาลแพ่งสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ครั้นวันที่29 มิถุนายน 2530 เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดเช่นนี้ จำเลยจะร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวไม่ได้อำนาจในการดำเนินคดีย่อมตก แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 22 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มาศาลในวันนัดไต่สวนคำร้อง ของจำเลยที่ขอคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจคุ้มครองป้องกันสิทธิของจำเลย ศาลจึงไม่มีหน้าที่ต้องสอบถามเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5680/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจดำเนินคดีหลังศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจคุ้มครองสิทธิจำเลยแต่ผู้เดียว
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ก่อนแล้ว หลังจากนั้น จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เมื่อวันที่ 25มิถุนายน 2530 ครั้นวันที่ 29 มิถุนายน 2530 เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่โจทก์นำยึดตามคำสั่งศาล เช่นนี้ จำเลยจะร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวไม่ได้ อำนาจในการดำเนินคดีย่อมตกแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 22
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มาศาลในวันที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขอคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีแทนจำเลย ย่อมมีอำนาจจะคุ้มครองป้องกันสิทธิของจำเลยทุกประการ ศาลจึงไม่มีหน้าที่จะต้องสอบถามเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่.
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มาศาลในวันที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ขอคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีแทนจำเลย ย่อมมีอำนาจจะคุ้มครองป้องกันสิทธิของจำเลยทุกประการ ศาลจึงไม่มีหน้าที่จะต้องสอบถามเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังการยกเลิกการล้มละลาย และผลกระทบต่อการเพิกถอนการโอนทรัพย์สิน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งลูกหนี้ (จำเลย)โอนขายให้ผู้คัดค้าน ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนและผู้ร้องฎีกา ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของลูกหนี้ (จำเลย) ดังนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจจัดกิจการและทรัพย์สินแทนลูกหนี้ (จำเลย) ต่อไปลูกหนี้ (จำเลย) พ้นจากภาวะการเป็นบุคคลล้มละลายแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 22,24 และ 114 ที่จะขอให้ศาลเพิกถอนการโอนดังกล่าวได้ ต้องจำหน่ายคดีของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสียจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านหนี้ในคดีล้มละลายและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับหุ้น กรณีไม่แจ้งการโอนหุ้น
แม้ผู้ร้องไม่ไปให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนตามกำหนดนัดเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาล ตามมาตรา 119 วรรคสาม ศาลมีอำนาจพิจารณาว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้(จำเลย) หรือไม่ ผู้ร้องจึงมีสิทธิยกขึ้นเป็นข้ออ้างข้อต่อสู้ในชั้นศาล และนำพยานหลักฐานเข้าสืบได้ ไม่ถือว่าการนำสืบพยานหลักฐานเป็นอันยุติไปตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการสอบสวนแต่อย่างใด
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อระหว่างผู้ร้องกับ น. และ ธ. ยังมิได้จดแจ้งการโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ผู้ร้องจึงไม่อาจอ้างเหตุผลใด ๆ มาเป็นข้อยกเว้นบทบัญญัติของ มาตรา 1129วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นไปจากความรับผิดในค่าหุ้นที่ค้างได้ เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แล้ว พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 22(2) ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่บริษัทลูกหนี้ (จำเลย) หรือซึ่งบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น ฉะนั้นเมื่อผู้ร้องต้องห้ามมิให้ยกการโอนหุ้นขึ้นยันบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องก็ย่อมไม่อาจยกการโอนหุ้นขึ้นยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เช่นเดียวกัน.
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อระหว่างผู้ร้องกับ น. และ ธ. ยังมิได้จดแจ้งการโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ผู้ร้องจึงไม่อาจอ้างเหตุผลใด ๆ มาเป็นข้อยกเว้นบทบัญญัติของ มาตรา 1129วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นไปจากความรับผิดในค่าหุ้นที่ค้างได้ เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แล้ว พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 22(2) ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่บริษัทลูกหนี้ (จำเลย) หรือซึ่งบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น ฉะนั้นเมื่อผู้ร้องต้องห้ามมิให้ยกการโอนหุ้นขึ้นยันบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องก็ย่อมไม่อาจยกการโอนหุ้นขึ้นยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เช่นเดียวกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับหนี้ของผู้ค้ำประกันเมื่อหนี้ที่ค้ำประกันได้ถูกชำระแล้ว แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งหนี้
ผู้ค้ำประกันซึ่งถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งให้ชำระหนี้ของลูกหนี้ผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์นั้น แม้จะไม่ได้ปฏิเสธหนี้ภายในกำหนดอันจะต้องถือว่าเป็นหนี้กองทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นการเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 แต่ก็คงรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าหนี้ที่ค้ำประกันได้มีการชำระเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ค้ำประกันก็ย่อมหลุดพ้นความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4114/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างหลังการพิทักษ์ทรัพย์: หน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการชำระหนี้ค่าชดเชย
เมื่อจำเลยที่ 1(ลูกหนี้) ถูกพิทักษ์ทรัพย์แล้วย่อมหมดอำนาจ ที่จะดำเนินกิจการงานของตนต่อไป แต่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจตามกฎหมายที่จะจัดการหรือกระทำการ ที่จำเป็นเพื่อให้กิจการของจำเลยที่ 1 ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไปแทน จำเลยที่ 1 และไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่าลูกจ้างของลูกหนี้ หมดสิทธิที่จะทำงานให้ลูกหนี้ต่อไปดังนั้นเมื่อจำเลยที่ 2 บอกเลิกจ้างโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46 เงินค่าชดเชยซึ่งกฎหมายแรงงานบังคับให้จำเลยที่ 1 ต้องจ่าย ให้แก่โจทก์นั้นเกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ย่อมเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระได้ตามมาตรา94 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แต่เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้จัดการกิจการทรัพย์สินแทน จำเลยที่ 1 แล้วเกิดมีเงินที่กฎหมายบังคับให้จ่ายเกิดขึ้น จำเลยที่ 2 ก็มีหน้าที่ต้องเอาเงินของจำเลยที่ 1 จ่ายแทนจำเลยที่ 1 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ให้จ่ายเงินค่าชดเชยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์ฎีกาของลูกหนี้แม้ไม่โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ และอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการงดสอบพยาน
แม้ลูกหนี้จะมิได้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของผู้ขอรับชำระหนี้ ลูกหนี้ก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม
(วรรคนี้วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2526)
การที่ศาลจะมีคำสั่งคำขอรับชำระหนี้นั้นมิได้มีกฎหมายกำหนดให้ศาลจะต้องรอจนกว่าการอุทธรณ์ฎีกาในเรื่องที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจะถึงที่สุดเสียก่อน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจที่จะให้งดสอบพยานของลูกหนี้ได้ถ้าเห็นว่าประเด็นที่จะขอให้สอบไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และได้ส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาแล้วแต่ส่งไม่ได้
การที่จะนำพยานหลักฐานใดมาพิจารณาในการทำความเห็นเสนอต่อศาลนั้นเป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
(วรรคนี้วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2526)
การที่ศาลจะมีคำสั่งคำขอรับชำระหนี้นั้นมิได้มีกฎหมายกำหนดให้ศาลจะต้องรอจนกว่าการอุทธรณ์ฎีกาในเรื่องที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจะถึงที่สุดเสียก่อน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจที่จะให้งดสอบพยานของลูกหนี้ได้ถ้าเห็นว่าประเด็นที่จะขอให้สอบไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และได้ส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาแล้วแต่ส่งไม่ได้
การที่จะนำพยานหลักฐานใดมาพิจารณาในการทำความเห็นเสนอต่อศาลนั้นเป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์