คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช่าช่วง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 227 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าห้ามเช่าช่วง: สิทธิเลิกสัญญาของผู้ให้เช่า และสิทธิของผู้เช่าช่วง
สัญญาเช่าที่มีข้อห้ามว่ามิให้เช่าช่วงด้วยนั้น ถ้าผู้เช่าทำผิดสัญญาเอาไปให้เช่าช่วง ผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิเลิกสัญญาได้และผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในที่เช่านั้นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงและการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่า: การยินยอมด้วยวาจาไม่สามารถลบล้างข้อตกลงในสัญญาลายลักษณ์อักษรได้
+เช่าเดิมไม่มีข้อความ+เช่าเอา ทรัพย์สินออกเช่าช่วงได้ ผู้เช่าจะขอ+ว่าผู้ให้เช่าอนุญาต+วาจาให้เอาทรัพย์สินออกให้+ได้นั้นมิได้ เพราะการสืบแก้ไขเปลี่ยน+เอกสารสัญญาเช่าเดิม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1515/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่: การพิสูจน์ความสัมพันธ์ผู้เช่าช่วง vs. ผู้เช่าร่วม
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าให้จำเลยเช่าช่วง จำเลยให้การว่าเช่ามาด้วยกันนั้น ประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาก็คือความจริงเป็นดังที่โจทก์ฟ้องหรือดังที่จำเลยต่อสู้ฝ่ายใดสืบสม ฝ่ายนั้นก็ชนะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสียภาษีจากรายได้ค่าเช่าช่วง: สิทธิในการหักค่าเช่าเดิมออกจากเงินได้
(จ) อนุมาตรา 1-2 +ได้ซึ่งได้รับจากการเช่าตึกเรือนโรงของผู้อื่นแล้วให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อไปอันมีจำนวนเกิน 2,000 บาทจะต้องรับ+เสียภาษีเงินได้ด้วย เงินได้ดังกล่าวข้างต้นนั้นจะต้องรับผิดเสียภาษีเงินได้แต่ฉะเพาะจำนวนที่หักเงินค่าเช่าที่ต้องชำระ+เจ้าของตึกเรือนโรง+เสียก่อน+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นไพ่ในสถานที่เช่าช่วงที่ไม่ถือเป็นการแยกส่วน หากไม่มีการแบ่งแยกชัดเจน ไม่ถือว่าผิดสถานที่
(ใบอนุญาตให้เล่นไพ่ที่ห้องช่องจำเลย แต่ได้ความว่าห้องที่เล่นนั้นคนอื่นเช่ามาจากเจ้าของเดิม แล้วจำเลยเช่าช่วงจากผู้เช่า แต่มิได้แยกกันอยู่เป็นส่วนสัด ถือว่ามิใช่เล่นไพ่ผิดสถานที่
ไม่เสนอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงเกินกำหนดสัญญาและอำนาจฟ้องขับไล่ของผู้เช่าเดิม
เช่าช่วงโดยไม่มีกำหนดเวลา วิธีพิจารณาแพ่ง อำนาจของผู้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วง พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่เปนปัญหากฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วง: การบอกเลิกสัญญาและผลกระทบต่อสิทธิการเช่าต่อเนื่อง
เลิกสัญญาศาลล่างไม่สืบศาลล่างไม่สืบพะยานของผู้เช่าช่วงตามข้อต่อสู้ว่าได้บอกเลิกสัญญาแก่ผู้เช่าแล้วศาลฎีกาสั่งให้สืบใหม่ผู้เช่าครองทรัพย์ต่อไปถือว่าเช่าโดยไม่มีกำหนด ซึ่งผู้เช่าฝ่ายเดียวมีอำนาจบอกเลิกสัญญาได้ผู้เช่าเถียงอำนาจผู้ให้เช่าได้เพียงไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3581/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงตึกแถวโดยไม่ได้รับความยินยอม การลักทรัพย์ในเคหสถาน และกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ติดตั้ง
หนังสือสัญญาเช่าตึกแถว ระบุว่าผู้เช่าจะไม่นำตึกแถวออกให้ผู้อื่นเช่าช่วงเว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า การนำตึกแถวดังกล่าวออกให้เช่าช่วงจึงต้องได้รับความยินยอมจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ให้เช่าเสียก่อน สัญญาเช่าช่วงระหว่าง ฉ. ผู้เช่ากับจำเลยและ ก. ไม่มีผลผูกพันผู้เสียหาย จำเลยและ ก. จึงอยู่ในตึกแถวดังกล่าวในฐานะเป็นบริวารของ ฉ. เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่าแก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงไว้กับ ฉ. จำเลยตกเป็นฝ่ายผิดนัด ผู้ให้เช่ามีสิทธิยึดถือครอบครองตึกแถวและทรัพย์ในตึกแถวดังกล่าวได้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิเข้าไปในตึกแถวที่เกิดเหตุได้อีก
บันทึกข้อตกลงประกอบการเช่า ข้อ 2. ระบุว่า "ทรัพย์สินใด ๆ ที่ผู้เช่าได้ก่อสร้างต่อเติมและตกแต่งตัวอาคารโดยเป็นค่าใช้จ่ายของผู้เช่าทั้งหมดนั้น ผู้เช่าตกลงยินยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของอาคารสถานที่ที่ให้เช่านั้นทันที รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของต่าง ๆ ที่ผู้เช่าต้องนำเข้าไว้ใช้ในกิจการร้านอาหารของผู้เช่าทั้งสิ้นนับแต่วันที่ได้นำเข้ามาในบ้านเช่า ยกเว้นตู้โค้กและแผงไฟชื่อป้ายหน้าร้านนอกตัวอาคาร" ซึ่ง ฉ. ย่อมต้องผูกพันตามข้อสัญญาดังกล่าว และถือได้ว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ ฉ. ในฐานะผู้เช่าต้องนำเข้าไว้ใช้ในกิจการร้านอาหารของ ฉ. ทั้งสิ้น ทรัพย์ดังกล่าวจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายทันทีนับแต่วันที่นำเข้าไว้ในตึกแถว ฉ. จึงไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ดังกล่าวอีกต่อไป และไม่อาจโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ดังกล่าวให้แก่จำเลยและ ก. ได้
ตาม ป.อ. มาตรา 1 (4) บัญญัติว่า "เคหสถาน หมายความว่า ที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น เรือน โรง เรือ หรือแพ ซึ่งคนอยู่อาศัย และให้หมายความรวมถึงบริเวณของที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยนั้นด้วย จะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม" ดังนั้น แม้ขณะเกิดเหตุตึกแถวดังกล่าวไม่มีคนอยู่อาศัย แต่โดยสภาพแล้วตึกแถวดังกล่าวเป็นที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย จึงเป็นเคหสถาน การที่จำเลยกับพวกเข้าไปในตึกแถวโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วเอาทรัพย์ซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายตามบันทึกข้อตกลงออกไปจากตึกแถวดังกล่าวโดยเจตนาทุจริต จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13288/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หากไม่มีหลักฐาน ผู้เช่าช่วงถือเป็นบริวารลูกหนี้ตามคำพิพากษา
การเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ต้องตกอยู่ภายใต้บังคับของ ป.พ.พ. มาตรา 538 ซึ่งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ แต่ผู้ร้องเช่าช่วงบ้านพิพาทจากจำเลยโดยไม่มีสัญญาเช่าต่อโจทก์หรือจำเลย ผู้ร้องจึงไม่อาจยกการเช่าช่วงขึ้นใช้ยันโจทก์ได้ ไม่ว่าโจทก์จะรู้เห็นยินยอมด้วยหรือไม่ การเช่าช่วงดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย การต่อเติมห้องครัวและห้องน้ำที่อ้างเป็นไปเพื่อความสะดวกในการใช้ทรัพย์สินของผู้ร้อง ไม่ใช่การปลูกสร้างใหม่ จึงไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าการเช่าธรรมดาอันไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีอำนาจพิเศษตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 จัตวา (3) จึงไม่มีเหตุที่จะต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12772/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าเป็นสินสมรส การโอนสิทธิเช่าช่วงไม่จำเป็นต้องมียินยอมจากคู่สมรส
สิทธิการเช่าที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่าจาก ป. เป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 แต่การโอนสิทธิการเช่าที่ดินพิพาทด้วยการนำออกให้จำเลยที่ 2 เช่าช่วง หาใช่เป็นกรณีที่โจทก์และจำเลยที่ 1 จะต้องจัดการร่วมกันหรือจะต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ก่อนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1476 (1) ถึง (8) ไม่ เพราะ ป.พ.พ. มาตรา 1476 (3) ห้ามจัดการสินสมรสเพียงฝ่ายเดียวเฉพาะการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสินสมรส ซึ่งไม่รวมถึงการจัดการสิทธิการเช่าซึ่งไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์และไม่เป็นทรัพยสิทธิอันจะถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ในตัวเองตาม ป.พ.พ. มาตรา 139 ด้วย จึงเป็นอำนาจของจำเลยที่ 1 ที่จะจัดการได้ตามลำพังโดยมิต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1476 วรรคสอง ดังนั้นแม้จำเลยที่ 1 จะโอนสิทธิการเช่าที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 2 โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมก็ตาม โจทก์ก็ไม่อาจจะเพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1480
of 23