คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เสียชีวิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 278 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการใช้สิทธิป้องกันเกินสมควรแก่เหตุในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ผู้ตายมีอายุ 30 ปี จำเลยมีอายุ 19 ปีรูปร่างเล็กกว่าผู้ตาย ผู้ตายได้เกิดโต้เถียงกับจำเลย มีคนห้าม ผู้ตายก็เดินเลยไป แล้วก็กลับมาหาจำเลยอีก ตรงเข้าพูดกับจำเลยว่าไม่ต้องพูดมาก แล้วผลักจำเลยเซไปกระทบกระถางต้นไม้ พอจำเลยทรงตัวได้ ผู้ตายเข้าต่อยจำเลย พอต่อยได้ทีเดียวจำเลยใช้มีดแทงสวนแล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งไปทางเดียวกับจำเลย แล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายนั้น เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุทำให้เกิดการเสียชีวิต
ผู้ตายกับจำเลย ซึ่งเป็นเด็กอายุไม่ถึง 16 ปี ได้โต้เถียงกันเรื่องโคของจำเลยเข้าไปกินถั่วในไร่ของบิดาผู้ตาย ผู้ตายจะจับจำเลยส่งผู้ใหญ่บ้าน จำเลยหนี ผู้ตายไล่ทันได้จิกผมจำเลยดึงจนหน้าหงาย จำเลยใช้มีดแทงไปทางหลัง 1 ทีถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยทำการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ เป็นผิดตามมาตรา 251, 53.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรม: การแสดงเจตนาบริจาคทรัพย์สินหลังเสียชีวิต แม้ไม่มีคำว่า 'ยกให้' ก็มีผลผูกพันได้
เอกสารเป็นคำสั่งแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินอันจะบังเกิดผลบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อตายไปแล้วแม้จะไม่มีคำว่า ยกให้เมื่อตาย แต่ก็มีข้อความและถ้อยคำแสดงอยู่ในตัวแล้วว่าเป็นพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่ผู้รับเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตายแล้ว จึงถือว่าเป็นพินัยกรรมตามกฎหมาย
ถ้าการตกเติมพินัยกรรมมิได้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการทำพินัยกรรม ข้อตกเติมก็ไม่สมบูรณ์ในเฉพาะส่วนนั้น แต่ตัวพินัยกรรมที่เคยสมบูรณ์ ยังสมบูรณ์อยู่ตามเดิม หาทำให้พินัยกรรมดีพลอยเสียไปเพราะการตกเติมแก้ไขไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าหลังคู่สัญญาเดิมเสียชีวิต: การสืบสัญญาสิทธิเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เมื่อผู้เช่าตายบุคคลภายนอกจะเข้ามาเป็นคู่สัญญาสืบแทนคู่สัญญาต่อไป โดยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ได้ ต่อแต่เมื่อได้มีฐานะ และได้ปฏิบัติตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉะบับที่ 3) 2489 มาตรา 17 บัญญัติไว้ กล่าวคือ (1) เป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เช่า (2) ได้อาศัยอยู่ในทรัพย์สินที่เช่าขณะที่ผู้เช่าตาย และ (3) ได้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือไปยังผู้ให้เช่าภายใน 30 วัน นับแต่วันผู้เช่าตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าหลังคู่สัญญาเดิมเสียชีวิต: เงื่อนไขการเป็นผู้เช่าสืบแทนตามกฎหมายควบคุมค่าเช่า
เมื่อผู้เช่าตาย บุคคลภายนอกจะเข้ามาเป็นคู่สัญญาสืบแทนคู่สัญญาต่อไป โดยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติ ได้ ต่อแต่เมื่อได้มีฐานะ และได้ปฏิบัติตามที่พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 3) 2489 มาตรา 17 บัญญัติไว้ กล่าวคือ (1) เป็นบุคคลในครอบครัวของผู้เช่า (2) ได้อาศัยอยู่ในทรัพย์สินที่เช่าขณะที่ผู้เช่าตาย และ (3) ได้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือไปยังผู้ให้เช่าภายใน30 วัน นับแต่วันผู้เช่าตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้ไม่มีเจตนา แต่ผลการกระทำเป็นเหตุให้เสียชีวิต มีความผิดตามกฎหมาย
สมัครใจวิวาทชกต่อยกัน ชกเขาล้มลงหงายหลัง ท้ายทอยฟาดถูกพื้นคอนกรีตคอสพานถึงแก่ความตาย เพราะเส้นโลหิตแตก แม้จะเห็นได้ว่ามิได้มีเจตนาที่จะกระทำให้เขาถึงตาย แต่ผลที่บังเกิดอันเนื่องจากการกระทำนั้นให้เขาตาย จึงต้องมีความผิดตามมาตรา 251.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเรียกคู่ความแทนที่จำเลยเสียชีวิตและการไม่ถือว่าทอดทิ้งคดีภายในกำหนดเวลา
จำเลยตายก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเรียกภรรยาจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนภายในกำหนด 1 ปี แต่ปรากฏว่าภรรยาจำเลยไม่ได้รับมฤดก เนื่องจากจำเลยทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่บุตรทั้งสิ้น โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกบุตรจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลย แม้จะยื่นคำร้องตอนหลังนี้เกินกำหนด 1 ปี แล้วนับแต่จำเลยตายก็ถือได้ว่าโจทก์มิได้ทอดทิ้งคดีของตนเสีย และจะถือว่าโจทก์ไม่มีคำขอภายใน 1 ปี ตามมาตรา 42 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเรียกคู่ความแทนจำเลยที่เสียชีวิตและการไม่ถือว่าทอดทิ้งคดีแม้จะล่าช้า
จำเลยตายก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเรียกภรรยาจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนภายในกำหนด 1 ปี แต่ปรากฏว่าภรรยาจำเลยไม่ได้รับมรดก เนื่องจากจำเลยทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่บุตรทั้งสิ้น โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกบุตรจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลย แม้จะยื่นคำร้องตอนหลังนี้เกินกำหนด 1 ปีแล้วนับแต่จำเลยตายก็ถือได้ว่าโจทก์มิได้ทอดทิ้งคดีของตนเสียและจะถือว่าโจทก์ไม่มีคำขอภายใน 1 ปี ตามมาตรา 42 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับคดีอาญาเนื่องจากจำเลยเสียชีวิตระหว่างการพิจารณาคดี
จำเลยตายก่อนที่ศาลจะได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำเลยฟังถือว่าจำเลยตายในระหว่างที่คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา คดีจึงเป็นอันระงับไปตามกฎหมายอาญามาตรา 77 ต้องส่งสำนวนให้ศาลฎีกาสั่งจำหนายคดีเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของตัวแทนหลังตัวการเสียชีวิต และการขอเป็นโจทก์แทน
ตัวแทนฟ้องเรียกหนี้มรดก ต่อมาตัวการตาย ตัวแทนก็คงมีอำนาจดำเนินคดีต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 828 แม้ตัวแทนเป็นบุตรของตัวการก็ไม่ทำให้สิ้นอำนาจ เพราะตัวการอาจทำพินัยกรรมตั้งผู้อื่นจัดการมรดกหรือยกทรัพย์มรดกให้คนอื่นได้
คดีที่ตัวแทนดำเนินคดีแทนตัวการซึ่งตายไปแล้วนั้นผู้จัดการมรดกร้องขอเข้าเป็นโจทก์แทนได้
of 28