พบผลลัพธ์ทั้งหมด 251 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์พิพาท: การโต้แย้งกรรมสิทธิในทรัพย์สินที่ขายฝากเกินอำนาจศาลแขวง
ฟ้องว่า ภรรยาเอาสินบริคณห์ไปขายฝากไว้แก่จำเลยเป็นเงิน 8000 บาท แล้วโอนหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอม จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากและการโอนเสีย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่สามี ทรัพย์พิพาทเป็นของหญิงผู้เดียว ดังนี้ถือว่าเป็นฟ้องคดีมีทุนทรัพย์พิพาทกันมีราคา 8000 บาท ไม่ใช่คดีไม่มีทุนทรัพย์
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง, ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง, ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ของกลางที่โต้แย้ง: ศาลไม่คืนของกลางให้ผู้กล่าวอ้างหากมีข้อพิพาทกรรมสิทธิ์
ในคดีลักทรัพย์ ของกลางจึงมีการโต้แย้งกรรมสิทธิกันอยู่ ศาลจะสั่งคืนให้แก่เจ้าทรัพย์หาชอบไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิของกลาง: ศาลไม่คืนของกลางหากยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิอยู่
ในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจรของกลางมีการโต้แย้งกรรมสิทธิกันอยู่ ศาลจะคืนของกลางให้แก่จำเลยหาควรไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งเฉพาะประเด็นกฎหมายโดยไม่โต้แย้งข้อเท็จจริง ทำให้ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม แม้ฟ้องจะสมบูรณ์
ศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะฟ้องไม่สมบูรณ์ และชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อข้อเท็จจริง ชั้นฎีกาโจทก์มิได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดไว้นั้น กลับฎีกาฉะเพาะเรื่องฟ้องสมบูรณ์หรือไม่ ดังนี้ แม้ฟ้องจะสมบูรณ์จริง เมื่อข้อเท็จจริงยังคงเป็นดั่งที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดไว้ ก็ต้องยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องเคลือบคลุมและการโต้แย้งคำสั่งศาล หากจำเลยไม่โต้แย้งคำสั่งศาลในขั้นตอนนั้น ย่อมไม่อาจยกขึ้นเป็นเหตุฎีกาได้
วันชี้สองสถานจำเลยแถลงว่าฟ้องเคลือบคลุม ศาลสั่งว่า เมื่อจำเลยว่าฟ้องเคลือบคลุมก็ให้โจทก์แถลงในข้อนี้แล้ว ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้โจทก์นำสืบถึงข้อที่โจทก์แถลงต่อหน้าศาลได้ ฝ่ายจำเลยหาได้โต้แย้งคำสั่งศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 226 ไม่ จำเลยจึงฎีกาในข้อนี้ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาต้องโต้แย้งคำสั่งก่อน และหลักเกณฑ์สมบูรณ์ของพินัยกรรม
การฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลที่สั่งก่อนมีคำพิพากษาหรือคำชี้ขาดตัดสินคดีนั้น จะต้องได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แล้ว จึงจะฎีกาได้ตาม ม.226 ป.ม.วิ.แพ่ง
ตาม ม.1656 ป.ม.แพ่งฯ ไม่จำเป็นต้องถามผู้อาพาธ 3 ครั้ง 3 หน พินัยกรรม์จึงจะสมบูรณ์.
ตาม ม.1656 ป.ม.แพ่งฯ ไม่จำเป็นต้องถามผู้อาพาธ 3 ครั้ง 3 หน พินัยกรรม์จึงจะสมบูรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาต้องอ้างเหตุโต้แย้งคำสั่งศาลก่อน และการพิสูจน์ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม
การฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลที่สั่งก่อนมีคำพิพากษาหรือคำชี้ขาดตัดสินคดีนั้น จะต้องได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แล้วจึงจะฎีกาได้ตาม มาตรา226 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ตาม มาตรา1656 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่จำเป็นต้องถามผู้อาพาธ3ครั้ง3หน พินัยกรรมจึงจะสมบูรณ์
ตาม มาตรา1656 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่จำเป็นต้องถามผู้อาพาธ3ครั้ง3หน พินัยกรรมจึงจะสมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำเนาฟ้องผิดพลาด ไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นผิด หากจำเลยทราบข้อเท็จจริงและไม่โต้แย้งทันที
สำเนาฟ้องระบุปีที่เกิดเหตุ +และผิดจากต้นฉะบับคำฟ้อง +ความพลั้งเผลอของโจทก์ แต่+ได้อ่านฟ้องที่ถูกต้อง ให้+ฟังแล้ว สอบถามจำเลย ๆ ไม่ยอมให้การในวัน+ ได้ทำคำให้การมายืนยัน+โอกาสเบี่ยงบ่ายไปให้การยืนยัน +สำเนาฟ้องว่าจำเลยไม่ได้ +ผิด ไม่ใช่เป็นการต่อสู้คดี+ผิดหลง จึงไม่เป็นเหตุ+ฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่เป็นประโยชน์เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว แม้จะโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นก่อนพิพากษา
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดปัญหาข้อกฏหมายเบื้องต้นตาม ป.วิ.แพ่ง ม.24 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้วมีคำสั่งให้ยกคำขอของจำเลยเสีย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นคงดำเนินการพิจารณาคดีต่อไปแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นอีก ดังนี้ ถือว่าคดีย่อมถึงที่สุดเด็ดขาดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว เมื่อศาลอุทธรณ์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำขอของจำเลยนั้น จำเลยฎีกาคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกาอีก ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยอย่างใด เพราะศาลฎีกาไม่อาจจะพิพากษายกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ถึงที่สุดเด็ดขาดแล้วนั้นได้ และฎีกาชะนิดนี้ไม่เป็นประเด็นในผลแห่งคดี ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีลักทรัพย์: การโต้แย้งข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา หากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์วินิจฉัยตามข้อเท็จจริงแล้ว
การกระทำของจำเลยจะครบองค์เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้