พบผลลัพธ์ทั้งหมด 356 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฝิ่นเถื่อนผสมเลี่ยวโกเจือปน ศาลถือเป็นฝิ่นทั้งหมดตาม พ.ร.บ.ฝิ่น
ฝิ่นเถื่อนที่มีเลี่ยวโกเจือปนอยู่ด้วย แม้ไม่ได้ความว่ามีเนื้อฝิ่นหนักเท่าใด ก็พึงถือว่าเป็นฝิ่นเถื่อนทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำแนกความผิดฐานลักทรัพย์ตามเหตุพิเศษและโทษที่แตกต่างกัน
ในเรื่องลักทรัพย์ กฎหมายจำแนกความผิดและกำหนดโทษหนักเบาต่างกันสุดแต่ว่าจะมีเหตุพิเศษตามที่กฎหมายกำหนดไว้
เมื่อจำเลยลักทรัพย์ของนายจ้างในเวลาค่ำคืน การกระทำของจำเลยต้องด้วยมาตรา 294 ข้อ 5 ซึ่งเป็นเหตุพิเศษประกอบกับตัวทรัพย์ที่ถูกลักและประกอบด้วย มาตรา 293 ข้อ 1 อันเป็นเหตุพิเศษประกอบอาการแห่งการลักทรัพย์นั้นด้วย จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา 294 วรรคท้าย
เมื่อจำเลยลักทรัพย์ของนายจ้างในเวลาค่ำคืน การกระทำของจำเลยต้องด้วยมาตรา 294 ข้อ 5 ซึ่งเป็นเหตุพิเศษประกอบกับตัวทรัพย์ที่ถูกลักและประกอบด้วย มาตรา 293 ข้อ 1 อันเป็นเหตุพิเศษประกอบอาการแห่งการลักทรัพย์นั้นด้วย จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา 294 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญคนต่างด้าว ต้องใช้กฎหมายในขณะกระทำผิด ซึ่งมีโทษเบากว่า
จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ตั้งแต่หมดอายุในวันที่ 6 กรกฎาคม 2485 ตลอดมานั้น จะปรับเป็น
รายปีตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 และแก้ไข 2495 ไม่ได้ เพราะในขณะกระทำผิด กฎหมายในขณะนั้น คือ พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว 247-9 และแก้ไข 2481 บัญญัติไว้ให้ปรับได้เพียงไม่เกิน 12 บาทเท่านั้น นอกจากนั้น พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2495 ยังกำหนดอัตราโทษหนักว่าบทกฎหมายที่ใช้ ในขณะกระทำผิด คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้ตาม พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2495.
อนึ่งการขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวปีที่แล้ว ๆ มา ก็ขาดอากยุความฟ้องร้องตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 78(4) ซึ่ง กำหนดให้ฟ้องภายใน 1 ปีแล้ว./
รายปีตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 และแก้ไข 2495 ไม่ได้ เพราะในขณะกระทำผิด กฎหมายในขณะนั้น คือ พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว 247-9 และแก้ไข 2481 บัญญัติไว้ให้ปรับได้เพียงไม่เกิน 12 บาทเท่านั้น นอกจากนั้น พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2495 ยังกำหนดอัตราโทษหนักว่าบทกฎหมายที่ใช้ ในขณะกระทำผิด คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้ตาม พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2495.
อนึ่งการขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวปีที่แล้ว ๆ มา ก็ขาดอากยุความฟ้องร้องตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 78(4) ซึ่ง กำหนดให้ฟ้องภายใน 1 ปีแล้ว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจากเล่นการพนันเป็นเจ้ามือ และข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลย 150 บาท ฐานเล่นการพนันป๊อก ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นเจ้ามือพิพากษาแก้ ให้
จำคุก 2 เดือนปรับ 500 บาท ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินพัน
บาท จะฎีกาในปัญาข้อเท็จจริงไม่ได้./
จำคุก 2 เดือนปรับ 500 บาท ดังนี้ แม้จะเป็นการแก้ไขมาก โทษจำคุกจำเลยก็ยังไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินพัน
บาท จะฎีกาในปัญาข้อเท็จจริงไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องอาญาเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แม้อุทธรณ์เกินกำหนดและศาลแก้โทษตามอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 และฐานปลอมหนังสือตามมาตรา230
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามมาตรา 131 ฐานเดียวแต่ฟังว่าจำเลยยักยอกเงินไม่เต็มตามที่ฟ้องจึงให้คืนเท่าที่จำเลยยักยอก
โจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์.คือจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยยักยอกเงินเต็มตามฟ้อง และปลอมหนังสือด้วยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยยักยอกเงินจำนวนมากกว่าที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้จึงพิพากษาแก้ให้ใช้จำนวนเงินมากขึ้นและแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 230 ด้วย ส่วนอุทธรณ์ของจำเลยศาลอุทธรณ์ไม่รับไว้พิจารณา เพราะถือว่ายื่นเกินกำหนดดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยและศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษจำเลยตามอุทธรณ์ของโจทก์จำเลยจึงฎีกาขึ้นมาได้และเมื่อทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้องเสียได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามมาตรา 131 ฐานเดียวแต่ฟังว่าจำเลยยักยอกเงินไม่เต็มตามที่ฟ้องจึงให้คืนเท่าที่จำเลยยักยอก
โจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์.คือจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยยักยอกเงินเต็มตามฟ้อง และปลอมหนังสือด้วยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยยักยอกเงินจำนวนมากกว่าที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้จึงพิพากษาแก้ให้ใช้จำนวนเงินมากขึ้นและแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 230 ด้วย ส่วนอุทธรณ์ของจำเลยศาลอุทธรณ์ไม่รับไว้พิจารณา เพราะถือว่ายื่นเกินกำหนดดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยและศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษจำเลยตามอุทธรณ์ของโจทก์จำเลยจึงฎีกาขึ้นมาได้และเมื่อทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้องเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การพิจารณาโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดตามมาตรา 301 วรรคสาม
ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสาม ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4)พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเครื่องมือประมง: เจ้าของที่ไม่รู้เห็นการกระทำผิดไม่ต้องรับโทษ
มาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.การประมง 2490 บัญญัติว่า "เครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศตามความในมาตรา 32 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้โดยเด็ดขาดนั้น ถ้านำมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ให้ศาลริบเครื่องมือนั้นเสีย " นั้น ถ้าปรากฎว่าเจ้าของเครื่องมือนั้นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ก็จะไปริบเครื่องมือนั้นไม่ได้ ต้องคืนแก่เจ้าของไปเพราะการริบเป็นโทษอย่างหนึ่งจะไปลงโทษเอาแก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้ไม่ได้กระทำผิดย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1942/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดคนต่างด้าวและการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองสองฉบับ: การพิจารณาโทษตามกฎหมายใหม่
พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2480 มาตรา 42 บัญญัติห้ามคนต่างด้าวเข้ามาในพระราชอาณาจักรสยามโดยฝ่าฝืนหรือหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.นี้และกำหนดโทษไว้ แต่ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มิได้กำหนดโทษความผิดไว้ คงมีมาตรา 58 บัญญัติห้ามคนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักร ด้วยการเข้ามาโดยฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 21 มีความผิดต้องระวางโทษ ฉะนั้นเมื่อใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2493 แล้วจะฟ้องคนต่างด้าวหาว่าเข้ามาในราชอาณาจักรสยามฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2480 ศาลย่อมลงโทษตามที่ฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1942/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงกฎหมายคนเข้าเมืองและการกำหนดโทษ: การฟ้องร้องตามกฎหมายฉบับใหม่
พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 มาตรา 42 บัญญัติห้ามคนต่างด้าวเข้ามาในพระราชอาณาจักรสยามโดยฝ่าฝืนหรือหลีกเลี่ยงพระราชบัญญัตินี้และกำหนดโทษไว้ แต่ตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2493 มิได้กำหนดโทษความผิดไว้ คงมีมาตรา 58 บัญญัติห้ามคนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรด้วย การเข้ามาโดยฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 21 มีความผิดต้องระวางโทษ ฉะนั้นเมื่อใช้ พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 แล้ว จะฟ้องคนต่างด้าวหาว่าเข้ามาในราชอาณาจักรสยามฝ่าฝืน พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 ศาลย่อมลงโทษตามที่ฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาและโทษในคดีฆ่าคนตายจากเจตนาเป็นไม่เจตนา และการพิจารณาโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จำคุก 9 ปี ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 แต่แก้โทษจำคุกเป็นจำคุก 5 ปี ดังนี้ ถือว่าแก้น้อย ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้