พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1948/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์และการประวิงคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ไม่ชอบ การอุทธรณ์เหตุผลชัดเจน
ผู้ร้องขัดทรัพย์อุทธรณ์ว่าผู้ร้องมิได้ประวิงคดีให้ชักช้าเหตุที่ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ชักช้าเพราะย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่อื่นอุทธรณ์ดังนี้ถือว่าได้กล่าวไว้แจ้งชัดในการโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นว่าผู้ร้องมิได้ประวิงคดีให้ชักช้า อุทธรณ์ของผู้ร้องชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งอนุญาตอุทธรณ์ต้องแสดงเหตุผลว่าข้อพิพาทสำคัญอันควรสู่ศาลอุทธรณ์ การสั่งอนุญาตลอยๆ ถือไม่ชอบ
ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาในศาลแขวงสั่งคำร้องที่โจทก์ขออนุญาตอุทธรณ์ ในปัญหาข้อเท็จจริงว่า "อนุญาตสำเนาให้จำเลย" นั้น เป็นคำสั่งอนุญาตลอย ๆ โดยมิได้ชี้แจงแสดงเหตุผลให้ปรากฏในคำสั่งว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลอุทธรณ์แต่ประการใดเลย จึงถือไม่ได้ว่าผู้พิพากษานั้นได้มีคำสั่งอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามนัยที่บัญญัติไว้ในมาตรา 22 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องมีเหตุผลชัดเจนตามมาตรา 22 ทวิ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง
ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาในศาลแขวงสั่งคำร้องที่โจทก์ขออนุญาตอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงว่า "อนุญาตสำเนาให้จำเลย" นั้น เป็นคำสั่งอนุญาตลอย ๆ โดยมิได้ชี้แจงแสดงเหตุผลให้ปรากฏในคำสั่งว่า ข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลอุทธรณ์แต่ประการใดเลยจึงถือไม่ได้ว่าผู้พิพากษานั้นได้มีคำสั่งอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามนัยที่บัญญัติไว้ในมาตรา 22 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้ออ้างใหม่ในอุทธรณ์ จำเลยต้องยกเหตุผลในคำให้การเท่านั้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 นายจ้างร่วมกันรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยที่ 1 ลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธว่าจำเลยที่ 1 มิใช่ลูกจ้างการที่จำเลยที่ 2 ยกขึ้นอ้างอิงในอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 1 อยู่ในฐานะผู้รับจ้างทำของโดยเอาเงินของจำเลยที่ 2 ไปหาซื้อมะพร้าวได้ค่าจ้างเป็นเปอร์เซนต์ของจำนวนมะพร้าวที่ซื้อมาได้เป็นคราว ๆจำเลยที่ 2 ผู้ว่าจ้างย่อมไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดของจำเลยที่ 1 นั้นเป็นข้อที่ไม่ได้กล่าวไว้ในคำให้การไม่มีสิทธินำสืบแม้จำเลยที่ 2 นำสืบและศาลชั้นต้นยกขึ้นวินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีแรงงานต้องห้ามตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 54
อุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมา ต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีแรงงานต้องห้ามตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 54
อุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมา ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุพยานเพิ่มเติมหลังวันกำหนด การพิจารณาเหตุผลความจำเป็น และสิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งศาล
โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ยื่นคำร้องขอระบุพยานในวันนัดสืบพยานโจทก์อ้างว่าตัวโจทก์ขอสำนวนไปดูแล้วเพิ่งจะส่งคืนในวันนั้น ก่อนหน้านี้ทนายโจทก์ไม่ทราบว่ามีบุคคลใดและพยานเอกสารใดพอจะอ้างเป็นพยานได้ จำเลยคัดค้านว่าไม่สมควรอนุญาตแต่มิได้คัดค้านเหตุที่โจทก์อ้าง จึงฟังได้ตามคำร้อง เมื่อไม่ปรากฏว่าตัวโจทก์ทราบว่าทนายโจทก์ต้องใช้สำนวนในการยื่นบัญชีระบุพยานจะถือว่าโจทก์จงใจไม่ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันมิได้ คดีนี้โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน การรับระบุพยานของโจทก์ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ จึงมีเหตุผลสมควรรับบัญชีระบุพยานของโจทก์เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3
ศาลชั้นต้นสั่งว่า 'ไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานและถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยาน ให้นัดสืบพยานจำเลยต่อไป' คำสั่งตอนที่ว่า 'ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานต่อไป' เป็นผลของข้อความตอนต้นที่สั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยาน เป็นคำสั่งฉบับเดียวกัน เมื่อโจทก์โต้แย้งคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยาน จึงเป็นการโต้แย้งคำสั่งทั้งฉบับ โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ได้
ศาลชั้นต้นสั่งว่า 'ไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานและถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยาน ให้นัดสืบพยานจำเลยต่อไป' คำสั่งตอนที่ว่า 'ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานต่อไป' เป็นผลของข้อความตอนต้นที่สั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยาน เป็นคำสั่งฉบับเดียวกัน เมื่อโจทก์โต้แย้งคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยาน จึงเป็นการโต้แย้งคำสั่งทั้งฉบับ โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์ภาษีอากร: ภรรยาไม่สามารถอุทธรณ์แทนสามีผู้ป่วยได้ แม้สามีจะใช้สิทธิไม่ได้
ผู้ต้องเสียภาษีป่วย ไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถใช้สิทธิทางศาลเพื่ออุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่วินิจฉัยให้ผู้ต้องเสียภาษีชำระภาษีอากรและเงินเพิ่มได้ ผู้ร้องซึ่งเป็นภรรยาจึงยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ดังนี้ กรณียังถือไม่ได้ว่ามีการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลรัษฎากรเพราะผู้ร้องไม่ใช่ผู้ต้องเสียภาษีอากร และการที่ผู้ร้องขอใช้สิทธิทางศาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายคดี-ค่าธรรมเนียมศาล: อุทธรณ์ไม่ทันเวลา สิทธิสิ้นสุด
ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความเพราะโจทก์ทิ้งฟ้องโจทก์ต้องอุทธรณ์คำสั่งศาลที่สั่งไม่คืนค่าธรรมเนียมศาลให้โจทก์เสียภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดี การที่โจทก์ยื่นคำแถลงขอให้ศาลชั้นต้นสั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลเมื่อล่วงเลยอายุอุทธรณ์ดังกล่าวแล้วไม่เป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีขับไล่ที่ไม่ใช่ข้อพิพาทกรรมสิทธิ์ ทำให้ไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
โจทก์ฟ้องขับไล่ผู้อาศัยออกจาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละสองพันบาท จำเลยสู้ว่าอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิมารดาและบิดาบุญธรรมของจำเลย ไม่ได้อยู่โดยอาศัยสิทธิโจทก์ ถือว่ามิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ เพราะการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องเป็นการกล่าวแก้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง (อ้างฎีกาที่ 1054/2509) จึงเป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง แม้คู่ความอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยให้ก็ไม่ทำให้คู่ความมีสิทธิฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย