พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,780 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดต่อทางน้ำสาธารณะ และการเพิ่มเติมฟ้องความเสียหายสืบเนื่อง
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยถมคูและเปิดทางน้ำให้โจทก์แล้ว โจทกืขอเพิ่มเติมฟ้องว่าเนื่องจากจำเลยขุดคูน้ำเป็นเหตุให้ต้นข้าวตาย เสียหาย 3600 บาทขอให้จำเลยร่วมกันใช้ ดังนี้ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้เพราะคำฟ้องเพิ่มเติมนั้นเป็นเรื่องความเสียหายอันสืบเนื่องมาจากการละเมิดตามฟ้องเดิม ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.179
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะ เมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ก็ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้ว โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ตาม วิ.แพ่ง ม.55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิจะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะ เมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ก็ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้ว โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ตาม วิ.แพ่ง ม.55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิจะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีละเมิดในที่สาธารณะ & การเพิ่มเติมฟ้องความเสียหายสืบเนื่อง
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยถมคูและเปิดทางน้ำให้โจทก์แล้วโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องว่าเนื่องจากจำเลยขุดคูกั้นน้ำเป็นเหตุให้ต้นข้าวตาย เสียหาย 3,600 บาทขอให้จำเลยร่วมกันใช้ ดังนี้ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้เพราะคำฟ้องเพิ่มเติมนั้นเป็นเรื่องความเสียหายอันสืบเนื่องมาจากการละเมิดตามฟ้องเดิม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะเมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้วโจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
ลำห้วยที่จำเลยขุดกั้นน้ำนั้นแม้จะเป็นที่สาธารณะเมื่อโจทก์แสดงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยดังนี้แล้วโจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ปัญหาใดที่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อนั้นได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อฉลทำสัญญาแบ่งที่ดิน และการบุกรุกที่ดินของผู้อื่น ถือเป็นการละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน
ให้ลงชื่อในสัญญาแบ่งที่นา โดยหลอกให้เข้าใจว่าลงชื่อขอรับโฉนดผู้ที่ฉ้อฉลจะอ้างว่ามีสัญญาให้ทำนาไม่ได้ การเข้าทำนาย่อมเป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อฉลทำให้ลงชื่อในสัญญาแบ่งที่ดินโดยไม่รู้เห็น การเข้าทำประโยชน์เป็นการละเมิดสิทธิ
ให้ลงชื่อในสัญญาแบ่งที่นา โดยหลอกให้เข้าใจว่าลงชื่อขอรับโฉนดผู้ที่ฉ้อฉลจะอ้างว่ามีสัญญาให้ทำนาไม่ได้ การเข้าทำนาย่อมเป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิทำให้เกิดความเสียหาย แม้โจทก์สืบค่าเสียหายไม่ได้ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยตามควรแก่เหตุ
เมื่อฟังว่าจำเลยละเมิดแม้โจทก์จะสืบในเรื่องค่าเสียหายไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด
ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยละเมิดปลูกห้องล้ำที่โจทก์ ทำให้น้ำฝนสาดห้องโจทก์เสียหาย 100 บ. แต่กลับสืบว่าทำให้น้ำฝนสาดยาม้วนของโจทก์เสียหาย 2 ม้วนเป็นเงิน 100 บาท ศาลวินิจฉัยค่าเสียหายให้โจทก์ 20 บาท ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้
ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยละเมิดปลูกห้องล้ำที่โจทก์ ทำให้น้ำฝนสาดห้องโจทก์เสียหาย 100 บ. แต่กลับสืบว่าทำให้น้ำฝนสาดยาม้วนของโจทก์เสียหาย 2 ม้วนเป็นเงิน 100 บาท ศาลวินิจฉัยค่าเสียหายให้โจทก์ 20 บาท ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยค่าเสียหายตามควรแก่กรณี แม้โจทก์มิได้พิสูจน์ความเสียหายได้ครบถ้วน
เมื่อฟังว่าจำเลยละเมิด แม้โจทก์จะสืบในเรื่องค่าเสียหายไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด
ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยละเมิดปลูกห้องล้ำที่โจทก์ ทำให้น้ำฝนสาดห้องโจทก์เสียหาย 100 บาท แต่กลับสืบว่าทำให้น้ำฝนสาดยาม้วนของโจทก์เสียหาย 2 ม้วนเป็นเงิน 100 บาท ศาลวินิจฉัยค่าเสียหายให้โจทก์ 20 บาทดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้
ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยละเมิดปลูกห้องล้ำที่โจทก์ ทำให้น้ำฝนสาดห้องโจทก์เสียหาย 100 บาท แต่กลับสืบว่าทำให้น้ำฝนสาดยาม้วนของโจทก์เสียหาย 2 ม้วนเป็นเงิน 100 บาท ศาลวินิจฉัยค่าเสียหายให้โจทก์ 20 บาทดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิก่อให้เกิดความเสียหาย แม้โจทก์สืบค่าเสียหายไม่ได้ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยตามควรแก่กรณี
เมื่อฟังว่าจำเลยละเมิด แม้โจทก์จะสืบในเรื่องค่าเสียหายไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด
ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยละเมิดปลูกห้องล้ำที่โจทก์ ทำให้น้ำฝนสาดห้องโจทก์เสียหาย 100 บาท แต่กลับสืบว่าทำให้น้ำฝนสาดยาม้วนของโจทก์เสียหาย 2 ม้วนเป็นเงิน 100 บาท ศาลวินิจฉัยค่าเสียหายให้โจทก์ 20 บาทดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้
ในฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยละเมิดปลูกห้องล้ำที่โจทก์ ทำให้น้ำฝนสาดห้องโจทก์เสียหาย 100 บาท แต่กลับสืบว่าทำให้น้ำฝนสาดยาม้วนของโจทก์เสียหาย 2 ม้วนเป็นเงิน 100 บาท ศาลวินิจฉัยค่าเสียหายให้โจทก์ 20 บาทดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกเฉยต่อการอนุญาตฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจ เป็นการละเมิดและก่อให้เกิดความเสียหาย
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรแต่กลับมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ที่จะไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดต่อหน้าที่อนุญาตและการกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรแต่กลับมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ที่จะไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดหน้าที่ปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรแต่กลับมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ที่จะไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.