พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,884 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินก่อนตายและความเจตนาของผู้ตาย: ทรัพย์สินตกเป็นของจำเลย
ผู้ตายกับจำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ตายได้มอบสังหาริมทรัพย์ของผู้ตายซึ่งจำเลยยึดถืออยู่แล้ว ให้แก่จำเลยก่อนตายทรัพย์ต่าง ๆ จึงตกเป็นของจำเลยตามเจตนาของผู้ตาย โจทก์จะฟ้องเรียกเอาว่าเป็นทรัพย์มฤดกของผู้ตายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินก่อนตายโดยความเจตนาของผู้ตาย: ทรัพย์สินตกเป็นของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง
ผู้ตายกับจำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายผู้ตายได้มอบสังหาริมทรัพย์ของผู้ตายซึ่งจำเลยยึดถืออยู่แล้ว ให้แก่จำเลยก่อนตายทรัพย์ต่างๆ จึงตกเป็นของจำเลยตามเจตนาของผู้ตาย โจทก์จะฟ้องเรียกเอาว่าเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความตายจากสาเหตุการกระทำของจำเลย: หลักฐานไม่เพียงพอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปีตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 6 เดือน ตามมาตรา 254 ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้จะลงโทษต่างรูปแบบ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้ศาลหนึ่งจะลงโทษเป็นกระทง อีกศาลหนึ่งลงโทษเป็นบท ก็ไม่เป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรสและการบอกล้างหนี้: สามีมิอาจเรียกเงินคืนจากจำเลยได้ หากไม่ยินยอมการยืม
ภรรยาไปยืนเงินของโจทก์มาวางมัดจำซื้อที่ดินของจำเลย โดยสามีไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย กับทั้งยังปฏิเสธหรือบอกล้างการยืมนั้นเสียด้วย ดังนี้ สามีจะกลับมาถือว่าเงินที่ภรรยายืมโจทก์มานั้นยังเป็นสินบริคณห์อยู่ เพื่อเรียกคืนจากจำเลยไม่ได้ และเมื่อสามีไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนจากจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจากสามี ก็ย่อมไม่มีสิทธิดีไปกว่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1485/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของกฎหมายผ่อนผันที่เกิดขึ้นระหว่างการพิจารณาคดีอาญา: การยกประโยชน์ให้จำเลย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีอาวุธปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมีใบอนุญาตแล้ว แต่ขาดอายุ เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ได้มี พ.ร.บ.ผ่อนผันให้จดทะเบียนได้ อันเป็นคุณแก่ผู้ต้องหาแล้ว ก็ต้องยกประโยชน์นั้นให้แก่ผู้ต้องหา (อ้างฎีกาที่ 766 / 2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจำเลยในฐานะผู้เช่าและการบังคับคดีแก่ผู้ที่อยู่อาศัยสืบเนื่องจากสัญญาเช่าเดิม
เดิมจำเลยได้เช่าตึกของโจทก์ประกอบการค้าโดยจำเลยเป็นเจ้าของ ต่อมาได้ตั้งเป็นหุ้นส่วน บุคคลในหุ้นส่วนก็คงถือว่าเป็นบริวารของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่สนับสนุนคดีที่เกิดจากการพะนัน และการที่จำเลยไม่ได้รับมอบทรัพย์สินจึงไม่มีความผิด
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์กับนางสาวขาวตกลงกันว่า ถ้าเลขท้าย 3 ตัว ของกลางรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งงวดสุดท้ายประจำเดือน มกราคม 2492 ตรงกับเลข 094 ให้โจทก์ได้รับสายสร้อยทองคำ 1 เส้น ราคา 720 บาท ซึ่งมอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา ต่อมาสลากกล่าวออกตรงเลข 094 โจทก์ไปรับสายสร้อยจากจำเลย จำเลยไม่ได้ยักยอกเอาสายสร้อยนั้นไว้เสียดังนี้ การกระทำของจำเลยดังกล่าวในฟ้อง จำเลยไม่ได้รับมอบหมายสายสร้อยของโจทก์ไว้จากโจทก์ จำเลยจึงยังไม่มีผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญา: วันเวลากระทำผิดเป็นรายละเอียดที่แก้ได้ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันเวลากระทำผิดอันจำเป็นต้องกล่าวในฟ้อง ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 158(5) นั้น เป็นการแก้รายละเอียด ซึ่งมาตรา 164 อนุญาตให้แก้ได้ มิให้ถือว่า ทำให้จำเลยเสียเปรียบเว้นแต่จำเลยได้หลงข้อต่อสู้
สืบพะยานโจทก์ไปได้ 2 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้อง เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้
สืบพะยานโจทก์ไปได้ 2 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้อง เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้วันเวลากระทำผิดในฟ้อง ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหากไม่หลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันเวลากระทำผิดอันจำเป็นต้องกล่าวในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)นั้น เป็นการแก้รายละเอียด ซึ่งมาตรา 164 อนุญาตให้แก้ได้ มิให้ถือว่า ทำให้จำเลยเสียเปรียบเว้นแต่จำเลยได้หลงข้อต่อสู้
สืบพยานโจทก์ไปได้ 2 ปากโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้
สืบพยานโจทก์ไปได้ 2 ปากโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้